‘วรภัค’ออกเซฟรบ. หนูขอบคุณไม่ตั้งใครแทน/พท.ได้หน.ใหม่31ต.ค.

"วรภัค" ยื่นหนังสือลาออก "รมช.คลัง" บอกถูกใส่ร้ายป้ายสีด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ  แจงยิบไม่เคยเกี่ยวข้องแก๊งสแกมเมอร์กัมพูชา  ซื้อหุ้นฟินันเซีย ไซรัส ถูกต้องตาม กม. ลั่นขอใช้สิทธิ์ฟ้องร้องผู้บิดเบือนทำลายชื่อเสียง ยัน รบ.ไม่เคยกดดันไขก๊อกแลกเสถียรภาพรัฐบาล "อนุทิน"  ขอบคุณแสดงสปิริต คิดถึงภาพรวม ลั่นไม่ตั้งใครแทน เหตุเวลาจำกัด "แพทองธาร" เผยทิ้งหัวหน้าพรรค พท. แต่ยังเป็นสมาชิก-หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย หวังยกเครื่องพรรคสู่การเลือกตั้ง "สุริยะ” ปัดข่าวบีบ “อิ๊งค์” ย้ำไม่คิดขน สส.ออกมีแต่ขนเข้า แย้ม "หัวหน้าพรรคคนใหม่" เป็นคนใน  แค่ไม่ใช่ตระกูลชิน "วราวุธ” โต้ข่าวลือย้ายเข้า  พท.เสียบหัวหน้าพรรค "ภท." คึกอ้าแขนรับว่าที่ผู้สมัครหนองคาย "สาธิต" เข้มคัดสรรผู้สมัคร  ปชป.ยุคมาร์ค

ที่กระทรวงการคลัง วันที่ 22 ตุลาคม 2568 เวลา 14.20 น. นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (รมช.การคลัง)  แถลงข่าวว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสข่าวบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีว่ามีส่วนพัวพันกับแก๊งหลอกลวงต้มตุ๋น ฟอกเงิน จึงได้ขอแจ้งลาออกจากตำแหน่ง รมช.การคลัง โดยเบื้องต้นแจ้งไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รวมทั้งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้รับทราบแล้ว โดยจะมีการยื่นหนังสือลาออกเป็นทางการในวันนี้ (22 ต.ค.)

นายวรภัคยืนยันว่า การลาออกไม่ได้ถูกกดดันจากรัฐบาล หรือนายกฯ ให้ลาออกเพื่อรักษาเสถียรภาพรัฐบาล เพียงแต่ต้องการให้มีความเป็นอิสระในกระบวนการตรวจสอบ ไม่ใช่มาตรวจสอบตอนที่ยังอยู่ในตำแหน่ง รมช.การคลัง  หลังจากลาออกก็พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง

"ขอยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง และก็จะมีการดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้บิดเบือนและเผยแพร่ข้อมูลข้อเท็จจริง ผมมีประวัติการทำงานและจรรยาบรรณที่โปร่งใส ตรวจสอบได้มาตลอด 30 ปีในแวดวงการเงินระดับสากล ทั้งในองค์กรต่างชาติและองค์กรของรัฐขนาดใหญ่ของไทย" นายวรภัคกล่าว

รมช.การคลังกล่าวถึงการถูกพาดพิงกรณีการฟอกเงินและธุรกิจผิดกฎหมาย Cambodian Scammers ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับกระบวนการหลอกลวงต้มตุ๋นหรือธุรกิจผิดกฎหมายใดๆ ไม่ว่าจะในประเทศกัมพูชาหรือประเทศอื่นใด ยอมรับเคยพบกับผู้บริหารของ BIC Bank ที่เป็นประธานกรรมการของธนาคาร ชื่อ Mr. Leak Yim แต่ไม่เคยเป็นกรรมการ หรือที่ปรึกษาใดๆ และไม่เคยรับเงินหรือผลตอบแทนใดๆ

ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการเป็นตัวแทน หรือนอมินีเชื่อมโยงกับบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส  (Finansia Syrus : FSS) ผ่าน Pilgrim Finansa  นั้น ในปี 2564 ได้เข้าซื้อหุ้น 29% ของ FSS ซึ่งเป็นธุรกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย และกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต.ทุกประการ

ถามว่า BIC Bank Lao และ BIC Bank Cambodia มีความเกี่ยวพันกันอย่างไร นายวรภัคกล่าวว่า ไม่ทราบ ทราบเพียงในปัจจุบันนั้นความเป็นเจ้าของและการบริหารจัดการนั้นแยกกันเด็ดขาด BIC Bank Lao ดำเนินกิจการมานานแล้ว เป็นธุรกิจธนาคารที่ค่อนข้างอยู่ตัวแล้ว ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจชาวลาวและบริษัทการไฟฟ้าลาว  เท่าที่หาข้อมูลได้ BIC Bank Cambodia ที่อยู่ในประเทศกัมพูชานั้น ถือหุ้นโดยบริษัท Apsara Holding 99% และ Mr. Yim Leak 1% และหลังจากนั้นตนได้ตัดสินใจขายหุ้นทั้งหมดและลาออกจากตำแหน่งกรรมการทุกตำแหน่งในบริษัท และไม่เคยมีความเกี่ยวข้องใดๆ

นายวรภัคกล่าวว่า การกล่าวอ้างหรือกล่าวเท็จว่าตนเป็นนอมินีหรือเป็นฟันเฟืองสำคัญของกระบวนการสแกมเมอร์ ถือเป็นการใส่ร้ายป้ายสีและบิดเบือนข้อเท็จจริง กระบวนการใส่ร้ายป้ายสีล่าสุดยังได้เหิมเกริมใส่ร้ายด้วยข้อมูลเท็จกับภรรยาของตนว่าได้รับประโยชน์เป็นเงินคริปโตฯ จำนวนหลายล้านเหรียญฯ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ภรรยาของตนไม่เคยมีบัญชีคริปโตฯ ใดๆ ทั้งสิ้น หากใครที่กล่าวอ้างว่ามีหลักฐานยืนยัน อยากขอให้เปิดเผยมาเลย การดำเนินการหลังจากนี้ขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่บิดเบือนและเผยแพร่ข้อมูลเท็จที่ทำให้เสียชื่อเสียง

วรภัคยื่นลาออกพ้น รมช.คลัง

"การลาออกจากตำแหน่งยอมรับเสียดาย เพราะได้เข้ามาทำงานในช่วงสั้นๆ แต่ยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยอยากนั่งตำแหน่งทางการเมืองแต่อย่างใด ไม่เคยทะเยอทะยานในเรื่องนี้" นายวรภัคกล่าว

ขณะที่นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับนายวรภัค แต่ได้รับจดหมายชี้แจงมา 3 แผ่น โดยนายกฯ ชูเอกสารดังกล่าวให้สื่อเห็น ก่อนกล่าวว่า เดี๋ยวจะอ่านมาในรถ เนื่องจากวันที่ 21 ต.ค.ได้แจ้งให้นายวรภัคทำรายงานเข้ามา แต่ทราบว่านายวรภัคได้แถลงข่าวแจ้งจะลาออก ก็เสียดาย  เดี๋ยวก็คงจะโทร.หา แต่ต้องขอบคุณนายวรภัคที่แสดงสปิริต

"ไม่มีใครกดดันนายวรภัค คงคิดถึงภาพรวม ผมรู้จักท่านมาหลายปี เป็นเพื่อนกัน พอเห็นสไตล์การทำงาน รัฐมนตรีมีสปิริตคิดถึงองค์รวม รัฐบาลน่าจะมีภาพลักษณ์ที่ดี เพราะตอนนี้จะถือว่าท่านมีความผิดก็ไม่ได้ พอมีการกล่าวหาเช่นนี้มาท่านก็แสดงสปิริต" นายอนุทินกล่าว

ถามว่า จะมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีเพิ่มเติมมาแทนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ตั้งใคร เวลาเรามีจำกัด 31 ม.ค.69 ยุบสภา เชื่อว่านายเอกนิติสามารถบริหารงานได้ เราก็ช่วยกันบริหาร

ซักว่ากรณีของนายวรภัคจะเป็นบรรทัดฐานให้รัฐมนตรีคนอื่นที่มีข้อครหาแบบนี้ นายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับเรื่อง เมื่อถามอีกว่ากังวลหรือไม่ว่าจะมีรัฐมนตรีคนถูกเชื่อมโยงกับสแกมเมอร์อีก นายอนุทินตอบว่า ไม่กังวล ตอนแต่งตั้งรัฐมนตรีเราตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างแล้ว ถ้าใครมีประวัติที่ถูกดำเนินคดีเราก็ไม่ตั้ง

พอถามว่ากังวลจะมีการร้องเรียนตามหลังหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้กังวลอะไร เมื่อถามย้ำว่าก่อนแต่งตั้งนายวรภัคเป็นรัฐมนตรีได้มีเสียงทักท้วงหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ไม่มีใครทักท้วง

ต่อมามีรายงานว่า นายวรภัคได้ยื่นหนังสือถึงนายอนุทินเพื่อขอลาออกจากตำแหน่ง รมช.การคลัง โดยระบุเหตุผลว่า ด้วยสถานการณ์ที่กระผมถูกใส่ร้ายป้ายสีด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ และจำเป็นต้องใช้เวลาในการดำเนินกระบวนการทางกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิ ชื่อเสียง และเกียรติของตนเอง กระผมได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วเห็นว่า เรื่องส่วนบุคคลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการปฏิบัติภารกิจของรัฐบาลโดยรวม กระผมขอเรียนว่า เพื่อเป็นการยืนยันหลักการความโปร่งใส และเพื่อให้รัฐบาลสามารถดำเนินงานได้อย่างอิสระ ปราศจากข้อครหาใดๆ กระผมจึงขอลาออกจากตำแหน่ง รมว.การคลัง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.เป็นต้นไป

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ภายหลังจากช่วงค่ำวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา มีกระแสข่าว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พท. จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น

ช่วงเช้า น.ส.แพทองธารออกแถลงการณ์ถึงเพื่อนสมาชิกพรรค พท. ผู้สนับสนุนพรรค และพี่น้องประชาชนทุกคน ระบุว่า วันนี้ดิฉันตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้วยความตั้งใจว่าเป็นการเริ่มต้นยกเครื่องพรรคเพื่อไทย ตามที่ดิฉันประกาศไว้เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2568 ที่ผ่านมา ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ กล้าหาญในการเปลี่ยนแปลง เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

"เพื่อให้พรรคสามารถชนะเลือกตั้ง แล้วไปยกเครื่อง พลิกฟื้นประเทศไทยต่อไป ดิฉันเชื่อมั่นว่า การเปลี่ยนแปลงพรรคเพื่อไทยต้องเริ่มต้นโดยเร็วที่สุด ดิฉันจึงเลือกการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคยกเครื่องได้อย่างอิสระ และสร้างพรรคใหม่ที่สมบูรณ์แบบ แม้ดิฉันลาออกในวันนี้ แต่ดิฉันยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และจะร่วมกับพวกเราทุกคน สร้างพรรคเพื่อไทยยุคใหม่ ที่พร้อมจะยืนเคียงข้างประชาชน และทำงานอย่างเข้มแข็งเพื่อประเทศชาติที่รักของเราทุกคน" น.ส.แพทองธารระบุตอนท้าย

หัวหน้าใหม่พท.ไม่ใช่ 'ชินวัตร'

จากนั้นเวลา 08.35 น. น.ส.แพทองธารเดินทางเข้าพรรค พท. เพื่อประชุมด่วนคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส. แจ้งถึงการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค

ต่อมา นายสรวงศ์ เทียนทอง รักษาการเลขาธิการพรรค แถลงภายหลังการประชุมว่า  น.ส.แพทองธารเชิญสมาชิกของพรรคมาประชุมเพื่อบอกความในใจและเหตุผลที่จะต้องลาออกจากตำแหน่ง ยืนยันทุกอย่างยังอยู่ในคอนเซปต์การยกเครื่องพรรค พท. ยกเครื่องประเทศไทย ที่ประกาศไว้ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง เราก็ขยับและเตรียมพร้อมที่จะสู้ศึกเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต

"บทบาทของ น.ส.แพทองธาร ยังเป็นสมาชิกและเป็นหัวหน้าครอบครัวพรรค พท. ยังทำงานคู่กับพรรคเป็นเสาหลักสำคัญในการเลือกตั้ง" นายสรวงศ์กล่าว

ถามว่า จะทำให้สถานการณ์ในพรรคแกว่งหรือไม่ รักษาการเลขาฯ พรรค พท.กล่าวว่า ไม่แกว่ง ใครจะเป็นผู้นำพรรค น.ส.แพทองธารก็พูดว่าซัปพอร์ต จะอยู่คู่กับพรรคต่อไป

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค พท. ปฏิเสธกรณีนายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองระบุตระกูลจึงบีบแพทองธารลาออกจากหัวหน้าพรรค หากไม่ลาออกจะพา 70 สส.ออกไปอยู่พรรคใหม่ว่า  เป็นข่าวเท็จ เรื่องนี้ตนได้ปรึกษากับพรรคแล้ว จะมีการตั้งทนายและฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งจะเป็นคดีอาญา และจะไม่มีการยอมความเป็นอันขาด

นายสุริยะกล่าวว่า ตนเกิดมาจากพรรคไทยรักไทย ซึ่งขณะนั้นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และมีการแต่งตั้งตนให้เป็นเลขาธิการพรรค หลังจากนั้นเมื่อมาอยู่พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธารก็ได้แต่งตั้งให้เป็นรองนายกฯ และ รมว.คมนาคม จึงจะพา สส.ไปอยู่ที่อื่นไม่ได้ คงไม่ได้พา สส.ออกไปไหน แต่จะเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อให้ครบ 200 คน ตามที่เคยประกาศไว้

ถามว่า มีกระแสข่าวที่มีชื่อของนายสุริยะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายสุริยะปฏิเสธทันทีว่า คงไม่รับ เพราะขณะนี้คงต้องหาคนรุ่นใหม่ เนื่องจากตนอายุมากแล้ว ซึ่งทางพรรคคงพิจารณาถึงบุคคลที่เหมาะสม เพื่อจะนำพาพรรคไปสู้ศึกการเลือกตั้ง

"ต้องยอมรับว่าพรรค พท.มีความผูกพันกับตระกูลชินวัตร ซึ่งเราต้องยอมรับข้อเท็จจริงตรงนี้ ดังนั้นเราคงปฏิเสธตระกูลชินวัตรไม่ได้ เพราะสร้างคุณูปการให้กับพรรคเพื่อไทย แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง จากนี้ไปทางพรรคจะหาบุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับครอบครัวชินวัตร ซึ่งเป็นคนภายในพรรค แต่ไม่ได้อยู่ในตระกูลชินวัตร เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าพรรค" นายสุริยะกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก น.ส.แพทองธารลาออก ทำให้คณะกรรมการบริหารพรรค พท.ชุดปัจจุบันหลุดจากตำแหน่งทั้งหมด และทำหน้าที่รักษาการ โดยที่ประชุมได้เลือกให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการรองหน้าพรรค พท. ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคไปก่อนจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ที่ประชุมยังกำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญพรรค พท. เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 31 ต.ค. เวลา 10.00 น.

มีรายงานว่า สส.พรรค พท.บางส่วนได้หยิบยกชื่อนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ  และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ อดีต รมช.การคลัง ออกมา คาดว่าอาจถูกเสนอชื่อหัวหน้าพรรคคนใหม่เช่นกัน

ด้านพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ. เป็นประธานการประชุม สส.พรรค ครั้งที่ 18/2568 เตรียมนัดประชุม กก.บห.พรรค ในวันที่ 2 ธ.ค. และจะมีประชุมใหญ่สามัญประจำปี ในวันที่ 13 ธ.ค. เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่การเลือกตั้ง

นายวราวุธกล่าวถึงข่าวจะไปเป็นหัวหน้าพรรค พท.ว่า ขอเรียนว่าต้องให้เกียรติทางพรรค พท.ด้วย และตนก็ยังเป็นหัวหน้าพรรค ชทพ.อยู่ ดังนั้นการที่มีข่าวเช่นนี้ออกมาไม่เป็นประโยชน์สำหรับใคร และเป็นการไม่ให้เกียรติทั้งสองฝ่าย

"ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง เพราะแต่ละพรรคการเมืองมีแนวทางและมีข้อบังคับพรรคที่จะต้องดำเนินการ ไม่ใช่อยู่ๆ จะเอาคนนั้นคนนี้มาเป็นหัวหน้าพรรคได้" นายวราวุธกล่าว

ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ในฐานะแกนนำพรรค ภท. พร้อมนายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้อำนวยการพรรค ให้การต้อนรับ 2 ว่าที่ผู้สมัคร สส.หนองคาย พรรค ภท. คือ พล.ต.ท.ไพศาล ลือสมบูรณ์ หรือผู้การเต๋อ เขต 1, ทพญ.จิดาภา สุนทรธนากุล เขต 2 นอกจากนี้ นายศุภชัย โพธิ์สุ แกนนำพรรค ภท. ได้นำนายเจริญ ชลาลัย เจ้าของท่าเทียบเรือชลาลัย จ.ตราด มาเป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.ตราดด้วย

"เชื่อว่าในพื้นที่ถ้าผู้สมัครมีแนวทางการทำงานเดียวกันกับพรรค จะทำให้ในพื้นที่ได้ประโยชน์ ดังนั้นในการเลือกตั้งครั้งหน้าเชื่อว่าพรรค ภท.จะได้ สส.กว่า 150 คน" นายทรงศักดิ์กล่าว

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสาธิต ปิตุเตชะ ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. ได้เชิญคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครฯ ร่วมประชุมนัดแรกหลังรับตำแหน่ง

นายสาธิตกล่าวหลังประชุมว่า นโยบายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ต้องการสร้างประชาธิปัตย์ยุคใหม่ เพื่อต่อสู้กับกระสุนด้วยการเมืองคุณภาพ คุณสมบัติของผู้สมัครที่กำลังจะคัดเลือกจึงต้องเข้มข้น เป็นผู้ที่เข้าใจในการเป็นผู้แทนและเข้าใจประชาชน.