
26 ก.พ. 2566 -“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนกรณี “ประชาชนคิดอย่างไรกับศึกเลือกตั้ง 2566” โดยสำรวจเฉพาะผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,031 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 20-23 กุมภาพันธ์ 2566 พบว่า คุณสมบัติของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนอยากได้ อันดับ 1 คือ เป็นคนที่เข้าถึงประชาชน ช่วยเหลือประชาชน 8.18 คะแนน รองลงมาคือ ความคิดทันสมัย วิสัยทัศน์กว้างไกล 8.14 คะแนน ด้าน นโยบายหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองที่โดนใจประชาชน อันดับ 1 คือ เน้นเศรษฐกิจ ค่าแรง 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรีเงินเดือน 25,000 บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรีทั่วประเทศ รถไฟฟ้าความเร็วสูง ยาเสพติดหมดไป ฯลฯ 7.73 คะแนน รองลงมาคือ รื้อ ลด ปลด สร้าง 7.67 คะแนน โดยผลงาน/โครงการของพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือก ส.ส. ครั้งนี้ คือ สิทธิสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐ ร้อยละ 49.24 รองลงมาคือ การขึ้นค่าแรง ร้อยละ 36.30 และการปรับโครงสร้างหนี้ ลดหนี้ ร้อยละ 26.72
การเลือกตั้งปี 2566 นี้ ประชากรกลุ่มอายุ 18 – 42 ปีมีจำนวนกว่า 22 ล้านเสียง กลุ่มตัวอย่างกลุ่มนี้ชอบแคนดิเดตที่เป็นผู้นำที่เด็ดขาด เชื่อมั่นในตัวเอง ความคิดทันสมัย วิสัยทัศน์ดี ส่วนนโยบายที่โดนใจ คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การแก้กฎหมาย ปิดสวิตช์ 3 ป. ส่วนกลุ่มอายุ 43 ปีขึ้นไปรวมกว่า 29 ล้านเสียง กลุ่มตัวอย่างชอบแคนดิเดต ที่เข้าถึงประชาชน ชอบนโยบายลดหนี้ และสร้างสังคมที่เอื้อเฟื้อต่อกัน การเลือกตั้งหนนี้ทุกพรรคเร่งทำพื้นที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แม้จะยังไม่ยุบสภาแต่ทุกเสาทุกพื้นที่เริ่มเต็มไปด้วยป้ายหาเสียง จากลักษณะแคนดิเดตและนโยบายที่ชอบก็พอจะสะท้อนลักษณะพรรคการเมืองที่สนใจได้ หน้าตาของรัฐบาลใหม่อาจผสมผสานสุดขั้วแบบที่ไม่เคยเห็นหรืออาจจะเป็นหน้าเดิมที่เห็นมาตลอดก็เป็นได้
ผู้ช่วยศาสตราจารย์สรศักดิ์ มั่นศิลป์ รองคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิตจากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนมีผลสำรวจที่น่าสนใจในหลายเรื่อง คุณสมบัติของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนอยากได้ คือ เข้าถึงประชาชน ช่วยเหลือประชาชน ถือว่าเป็นเสียงสะท้อนจากประชาชนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่สามารถเข้าถึง เข้าใจและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างแท้จริง ในเรื่องนโยบายหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองที่โดนใจประชาชน คือ เน้นเศรษฐกิจ ค่าแรง 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรีเงินเดือน 25,000 บาท ซึ่งเป็นที่ น่ากังวลว่านโยบายบางเรื่องจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ เช่น ปริญญาตรีเงินเดือน 25,000 บาท เป็นต้น ในเรื่องผลงาน/โครงการของพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือก ส.ส. อันดับ 1 คือ สิทธิสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐ อย่าง “คนละครึ่ง” ก็ถือว่าเป็นผลงานที่โดดเด่นของรัฐบาลชุดนี้..เร็วๆ นี้คงใกล้ถึงเวลาที่เราจะต้องไปเลือกคนที่ใช่และพรรคที่ชอบแล้วครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประชาชนคาดหวังรัฐบาลอนุทินแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “นโยบายเร่งด่วนรัฐบาลอนุทิน”กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,149 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 1-3 ตุลาคม 2568 พบว่า นโยบายด้านที่คาดหวังมากที่สุด คือ ด้านเศรษฐกิจ สร้างรายได้ ลดรายจ่าย
'ดุสิตโพล' ชี้ประชาชนหวัง ครม.อนุทิน1 ทำงานเชิงรุก โปร่งใส่และซื่อสัตย์
14 ก.ย. 2568 - “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความคาดหวังต่อพรรคการเมืองไทย ณ วันนี้” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,232 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 9-12 กันยายน 2568 พบว่า บทบาทของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่ประชาชนอยากเห็นมากที่สุด คือ ทำงานเชิงรุก แก้ปัญหาจริง ตรวจสอบได้ ร้อยละ 75.27 ในขณะที่บทบาทของพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่อยากเห็น คือ ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์ ร้อยละ 68.32 เรื่องที่อยากให้พรรคการเมืองไทยปรับปรุงมากที่สุด คือ ความโปร่งใสและซื่อสัตย์ ร้อยละ 64.29 หากมีการเลือกตั้ง ณ วันนี้ จะเลือกพรรคประชาชน ร้อยละ 23.94 รองลงมา คือ พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 14.20 และยังไม่ตัดสินใจ ร้อยละ 21.35
‘ดุสิตโพล’ ชี้คนไทยไม่เชื่อมั่นการสงเสริมนักท่องเที่ยวของรัฐบาลปัจจุบัน
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับการท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,189 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 17-20 มิถุนายน 2568 พบว่า จากเศรษฐกิจและค่าครองชีพปัจจุบันยังพอมีเงินพอเที่ยวได้บ้าง
ดุสิตโพล ชี้ดัชนีการเมือง พ.ย. คะแนนตก สะท้อนประชาชนไม่เชื่อมั่นรัฐบาล
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนพฤศจิกายน 2567” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,078 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 25-29 พฤศจิกายน 2567 พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนพฤศจิกายน 2567 เฉลี่ย 4.92 คะแนน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2567 ที่ได้ 5.01 คะแนน
'ธนกร' ปลื้มเรตติ้ง 'พีระพันธุ์' พุ่งต่อเนื่อง
'ธนกร' ปลื้ม โพลเผยเรตติ้ง “พีระพันธุ์” พุ่งต่อเนื่อง หลังทุ่มเททำงานจ่อออกกม.ปฏิรูปรื้อลดปลดสร้างด้านพลังงานทั้งระบบ ชี้ เหตุผลงานรัฐบาลโดดเด่น แก้ปัญหารวดเร็ว ขณะฝ่ายค้านคะแนนลด ต้องปรับปรุง


