สภาฯ เสียงเอกฉันท์ รับหลักการ ร่างกม.ติดดาบ ป.ป.ท. ปราบทุจริต “สมศักดิ์” แจงสภาฯ ต้องปรับแก้ให้สอดคล้องรธน. ยกระดับการตรวจสอบทุจริต ให้อำนาจ ป.ป.ท.ไต่สวน-ชี้มูล คนทำผิดทุกเรื่อง ไม่จำกัดเฉพาะทุจริตคอร์รัปชั่น
20 ธ.ค.2566 - ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่...) พ.ศ... ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอ และฉบับที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอต่อสภาฯ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ ชี้แจงรายละเอียด ว่า ร่างกฎหมายดังกล่าว ผ่านการแก้ไข 3 ครั้ง เพื่อได้ปรับปรุงกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงการทำงานที่ล่าช้า และมีปัญหาในทางปฏิบัติในรูปแบบทุจริตที่ซับซ้อน รวมถึงให้กรรมการป้องกันและปรามบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) มีอำนาจรองรับภารกิจของรัฐ ส่งเสริมสนับสนุนและให้ความรู้กับประชาชนอันตรายในการทุจริตในภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ประชาชนรวมตัวรณรงค์ ต่อต้าน ชี้เบาะแสโดยได้รับความคุ้มครองจากรัฐ ส่วนการแก้ไขล่าสุด เป็นครั้งที่ 4 เพื่อให้ปรับปรุงหน้าที่อำนาจ ของ ปปท. ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ รวมถึงพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ส่วนที่เกี่ยวกับการประพฤติมิชอบให้ครอบคลุมการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รัฐทุกมิติ ของ ป.ป.ท. รวมถึงสร้างความน่าเชื่อถือของการทำงานในองค์กร เพราะมีหน่วยงานภาครัฐเข้าไปกำกับ โดยแก้ไขเพิ่มเติมประเด็นสำคัญ อาทิ นิยาม ประพฤติมิชอบ ให้ ป.ป.ท. มีอำนาจ รับเรื่อง ไต่สวน ชี้มูลความผิด และให้ครอบคลุมความผิดวินัยเจ้าหน้าที่รัฐทุกเรื่อง ไม่เฉพาะเรื่องประพฤติมิชอบเท่านั้น
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า เพิ่มอำนาจขอศาลออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาหลังจาก ป.ป.ท.ชี้มูลความผิด , เพิ่มสิทธิชี้แจงข้อกล่าวหาจนกว่ามีมติชี้มูลความผิด, ให้สิทธิทบทวนมติชี้มูลความผิดของ ป.ป.ท. กรณีมีพยานหลักฐานใหม่ที่เป็นสาระสำคัญ, เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อสกัดปัญหาการทุจริต ประพฤมิชอบ และตรวจสอบการทุจริตได้ทันสถานการณ์ ที่สอดคล้องกับการประเมินการจัดอันดับของไทย
“ป.ป.ท.ตรวจสอบได้ โดยไม่ต้องรอ ป.ป.ช.มอบหมายและเริ่มไต่สวนได้ตามกฎหมาย ไม่ต้องตั้งอนุกรรมการไต่สวน สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ที่ให้ลดมีกรรมการ โดยทำให้เสร็จ 2 ปี ขยายไม่เกิน 3 ปี เพื่อให้การทำงานสำเร็จเร็วในกรอบเวลาและนำมาซึ่งการลงโทษผู้กระทำผิดรวดเร็ว รวมถึงเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนเข้าถึงได้”นายสมศักดิ์ กล่าว
ขณะที่นายวิโรจน์ นำเสนอรายละเอียดเช่นกันว่า ต้องการปรับปรุงเพื่อให้การตรวจสอบการทุจริต ของเจ้าหน้าที่รัฐให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะประเด็นปัญหาส่วยที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการอภิปรายของสภาฯ ไม่มี สส. คนใดคัดค้านในรายละเอียด ก่อนจะลงมติรับหลักการด้วยเสียงเอกฉันท์ 414 เสียง จากนั้นได้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) จำนวน 25 คน เพื่อพิจารณา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภราดร' ชงสภาฯ เปิดประชุมวิสามัญ 8-10 ธ.ค. เร่งแก้ รธน. หวังวาระ 3 จบก่อนปีใหม่
“ภราดร” ชง สภา เปิดวิสามัญ 8-10 ธ.ค. พิจารณาแก้ รธน. หวังโหวตวาระ 3 เสร็จก่อนปีใหม่ มีเวลาให้ กกต. ทำประชามติพร้อมเลือกตั้ง ยํ้า กมธ.เห็นพ้อง หาทางรอดคำวินิจฉัยศาล เล็งสูตรคนละครึ่ง สมัครก่อน ให้สภาจับกลุ่มเคาะ เลี่ยงเข้าคูหาโดยตรง
จับตา! การเมืองช่วงปิดประชุมสภา ไฟสุมขอน 'รัฐบาลอนุทิน'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จับตาการเมืองช่วงปิดสมัยประชุมสภา
อดีตผู้พิพากษาอาวุโสข้องใจคดีนันทนาเทียบกับคดีฮั้ว สว.
นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา
'พรรคไทรวมพลัง' แถลงขออภัย ชี้แจง สส. ใส่เสื้อชมพูเข้าสภาฯ โวยสื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง
กรณี นายสมศักดิ์ บุญประชม สส.อุบลราชธานี พรรคไทรวมพลัง สวมเสื้อผ้าไทยโทนสีชมพู เข้าประชุมสภาฯ ทั้งที่ สส.ทุกคน ที่มาร่วมประชุม ต่างแต่งกายด้วยชุดสูทสากลโทนสีดำไว้ทุกข์ เพื่อถวายอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
สภาฯทุลักทุเล! ผ่าน พรบ.ครู ประธานกดออดเรียกรัวๆ เพื่อไทยจี้ยุบสภา ท้าฝ่ายค้ำซักฟอก
ดันทุรังผ่าน! ‘เพื่อไทย’ รุมจี้ สส.รัฐบาล เข้าเป็นองค์ประชุม ขณะพิจารณาพ.ร.บ.ครู หลังกระท่อนกระแท่นหลายมาตรา ด้าน ‘ธีระชัย’ ตะเพิดไม่พร้อมก็ยุบสภาไปเลย เหน็บ ‘ฝ่ายค้ำ’ กล้ายื่นซักฟอกหรือไม่ ขณะที่ ‘สหัสวัต’ ถามเครื่องแสดงตนมีปัญหาหรือไม่
สส.อุบลฯ พรรคไทรวมพลัง เปลี่ยนชุดแล้ว พร้อมแจงเหตุใส่เสื้อชมพูเข้าประชุมสภาฯ
นายสมศักดิ์ บุญประชม สส.อุบลราชธานี พรรคไทรวมพลัง ที่ได้สวมเสื้อผ้าไทยโทนสีชมพูเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้กลับออกไปเปลี่ยนชุดสูทสากลสีกรมท่า โดยผูกเนคไทสีดำ กลับเข้ามาร่วมประชุมสภาฯตามปกติแล้ว


