เพื่อไทยอัด 'ปิยบุตร' เกินไปแล้ว ย้อนถามถ้า 'ชาญ' แพ้จะมีใครมาไล่บี้หรือไม่

4 ก.ค.2567 - ที่รัฐสภา นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้วและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ระบุถึงกรณีคดีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี โดยระบุว่ามีสองแนวทางคือให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายหรือให้นายชาญออก ว่า ที่นายปิยบุตรพูดนั้นเกินเลยไปแล้ว ซึ่งสิ่งที่นายชาญโดนอยู่ตอนนี้เป็นคดีเก่า และการเลือกตั้งก็ผ่านมาแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรอง ส่วนเรื่องคดีความของนายชาญก็ต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรมของศาล ฉะนั้น การออกมาให้ข้อมูลต่างๆ ตนมองว่าน่าจะเป็นการละเมิดอำนาจศาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรอให้ศาลอาญาทุจริตสั่งอาจต้องลากยาวจนกว่าจะถึงที่สุด ระหว่างนี้ก็ให้ดำเนินต่อไปคือมีทีมรองนายก อบจ. หากที่สุดศาลสั่งจะสร้างปัญหาการทำงานในทีมหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรค พท. เรามองว่า ขั้นตอนอยู่ในกระบวนการของศาล หากจะให้ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ต้องมีคนร้อง เพราะวันที่ศาลประทับรับฟ้อง ไม่มีคำสั่งห้อยท้ายว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พท. ก็ได้ย้ำถึงเรื่องว่า ต้องมีผู้ร้อง ไปร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกระบวนการหลังรับรองแล้ว มีคนไปร้องหรือไม่ ใช้เวลานานหรือหากมีคนร้องใช้เวลานานเท่าไหร่

นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า หากนายชาญได้เป็นนายกอบจ. แล้วเข้าไปแต่งตั้งรองนายกอบจ. หากศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่รองนายก อบจ. ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือในกรณีที่ไม่ได้ตั้งใครเลย แต่กกต. รับรองเป็นนายกอบจ.แล้ว ปลัดอบจ.เป็นผู้รักษาการแทน และตัวนายชาญก็ต่อสู้ในคดีความที่ตนเองถูกกล่าวหาต่อไป

เมื่อถามถึง กรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อ้างไม่อยากเสี่ยงพร้อมบอกว่าจะเดินตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฏีกาเสนอ ที่ระบุว่า หากเข้ารับตำแหน่งแล้ว ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ถ้าไม่หยุดให้ผู้ว่าฯ ตั้งกรรมการสอบหยุดปฏิบัติ นายสรวงศ์ กล่าวว่า แต่ละจังหวัดผู้ที่มีอำนาจสูงสุดคือผู้ว่าฯ การปฎิบัติหน้าที่ของอบจ. องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือข้าราชการในแต่ละจังหวัด หากเห็นว่ามีการทุจริตหรือมีผู้ไปร้อง แล้วเป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯ ที่จะออกหนังสือเพื่อสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ นี่เป็นเรื่องปกติ ของกระทรวงมหาดไทยอยู่แล้ว และนายอนุทินก็กำกับกระทรวงมหาดไทยจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ท่านจะสอบถามไปที่คณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ที่ออกมาให้ความเห็นคือเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา

นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นองค์คณะ ท่านจะออกคำตอบมาไม่เหมือนกับเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ได้ แต่หากออกมาเหมือนแล้วมีการปฏิบัติอย่างไร ตนย้ำว่าเราน้อมรับ และตัวนายชาญก็ต้องยอมรับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น แต่ตนอยากให้แยกออกจากกันระหว่างเรื่องของการเลือกตั้งกับการปฏิบัติหน้าที่

เมื่อถามว่า บางกระแสมีการเรียกร้องให้พรรค พท. แสดงสปิริตออกมาขอโทษประชาชนและให้นายชาญลาออก นายสรวงศ์ กล่าวว่า นายชาญมีคุณสมบัติเป็นผู้สมัครนายก อบจ.ฯ 100% และก่อนที่จะรับสมัครเราก็ตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว ซึ่งก็ไม่มีอะไร มีเพียงแค่คดีติด และคดีติดตัวหากไปดูในสภาฯ ก็มีคนที่มีคดีติดตัว แต่ตัวเองอยู่ในขั้นตอนการต่อสู้ และหากศาลสั่งว่ามีความผิดก็ต้องออก นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น

“นายชาญไม่ใช่กรณีแรก การที่พรรคเพื่อไทยส่งนายชาญไม่มีอะไรผิด เพราะนายชาญมีคุณสมบัติเป็นผู้สมัคร และกกต.ก็รับรองเป็นผู้สมัครจนการเลือกตั้งเสร็จไปแล้ว ลองถามกลับกันหากคุณชาญแพ้จะมีใครมาไล่บี้แบบนี้หรือไม่ ฉะนั้น ผมมองว่าต้องแยกแยะเรื่องของการเลือกตั้งและการปฏิบัติหน้าที่” นายสรวงศ์ กล่าว

ถามว่า มีความมั่นใจแค่ไหนว่านายชาญจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรค พท. ไม่ว่าจะเป็นนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือนายชูศักดิ์ เราคิดตรงกันว่าทุกอย่างในตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของศาล ไม่ว่าจะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือคณะกรรมการกฤษฎีกา ตนอยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย หากศาลออกมาว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยอัตโนมัติ เราก็ไม่ติดอะไร พร้อมน้อมรับคำสั่งของศาล

เมื่อถามว่า หากนายชาญต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มี เพราะจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ก็ต่อเมื่อ กกต.รับรองนายชาญเป็นนายก อบจ.แล้ว และตอนนี้การเลือกตั้งได้ผ่านมาแล้ว ซึ่งก็ต้องรอ กกต. หาก กกต.เห็นว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่สุจริต ไม่ยุติธรรม และไม่มีการรับรองเกิดขึ้นนั้นก็จะเป็นสิ่งที่พรรค พท.ต้องกังวล แต่ตอนนี้การเลือกตั้งผ่านมาแล้ว ถ้ากกต.รับรองถือว่าการเลือกตั้งจบลงแล้ว หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องของการปฎิบัติหน้าที่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' ง้างมือศาลรธน. เชือด 'รมต.รัฐบาลอนุทิน'  

'พท.' จ่อร้อง 'ศาล รธน.' เอาผิดจริยธรรม 'รมต.รัฐบาลอนุทิน' ก่อนยื่นซักฟอกต่อ 'สุทิน' ขอรอดูถกร่าง รธน.วาระ 2 ก่อนเคาะวัน เย้ย ควรยกธงขาวเตรียมเผ่นหลังขู่ยุบสภาหนี เตือนฝ่ายค้ำระวังล้มทับกันเอง

ดร.ณัฏฐ์ ผ่าเกมแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 3 คือดักทาง ยุบสภาปี 68 เป็นศูนย์

นักกฎหมายมหาชนชี้ แก้รัฐธรรมนูญแม้ผ่านวาระ 2 ไม่ยาก แต่ต้องแช่แข็งร่าง 15 วันก่อนขึ้นวาระ 3 ทำเกมยุบสภาไร้ทางเกิดขึ้นภายในปีนี้ ขณะตัวแปรชี้ชะตาอยู่ที่เสียง สว. สีน้ำเงิน ในขั้นสุดท้ายก่อนประชามติ

รัฐสภาประชุมแก้ รธน. 10-11 ธ.ค. เชื่อผ่านวาระสาม สภาสูงไม่ตีตก

ในช่วงวันที่ 10-11 ธันวาคม จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา อันเป็นการประชุมรัฐสภาในช่วงการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ

สะพัดเตรียมชงที่ประชุมสส.เพื่อไทยเปิดซักฟอก 'อนุทิน' ปมแก้น้ำท่วม-สแกมเมอร์ กดดัน พรรคส้มร่วมวง

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่ากรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ได้ประชุมกันอย่างไม่เป็นทางการ มีความเห็นร่วมกันว่า จะยื่นญัตติเปิ

'เด็จพี่' โผล่หยัน 'ปชน.' ไม่กล้าซักฟอก 'อนุทิน' กลัว 'ยุบสภา' ทำแก้รัฐธรรมนูญค้างเติ่ง

‘พร้อมพงศ์’ อัด ปชน. ตรรกกะย้อนแย้ง จี้ ‘อนุทิน’ ปลดรัฐมนตรีทุนเทา ไม่ได้ผล สอนมวย ยื่นอภิปรายใช้เสียงสภาฯ เกินครึ่งโหวตคว่ำ ปลดได้แน่ ผิดหวังห่วงเรื่องแก้รธน. มากกว่า ซักฟอกในสภาฯ ชี้ ทำแฟนคลับผิดหวัง เตรียมโดนลงโทษวันเลือกตั้ง

🛑LIVE ‘ดร.สุวิชา’ เปิดชัดๆ นิด้าโพล เลือกตั้ง’69 พลิกล็อก.!? พรรคต่อพรรค-ภาคต่อภาค | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร

‘ดร.สุวิชา’ เปิดชัดๆ นิด้าโพล เลือกตั้ง’69 พลิกล็อก.!? พรรคต่อพรรค-ภาคต่อภาค อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 06 ธันวาคม พ.ศ.2568