30 ม.ค. 2568 - นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึง กรณีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำหน่ายไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้านนั้น เบื้องต้นการทำสัญญา มีหลักการว่า “ถ้าคู่สัญญาไม่ทำผิดสัญญาคู่สัญญาจะไปละเมิดไม่ได้ ” ซึ่งไฟฟ้าเป็นสินค้าที่พิเศษ พลังงานไฟฟ้าเป็นสินค้าเกี่ยวกับความมั่นคง ถึงแม้กระทรวงมหาดไทย จะเป็นกระทรวงเกี่ยวกับความมั่นคงแต่เป็นความมั่นคงภายในประเทศ ไม่ได้มีอำนาจนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใดบางอย่างที่เกี่ยวข้องระหว่างประเทศก็ต้องระมัดระวัง
นายคารม กล่าวต่อว่า จะเห็นได้ว่าการขายไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ต้องเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ไม่ได้มีอำนาจโดยพลการการขายไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้าน เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จะนำเพียงข้อสันนิษฐานว่า “เมื่อคู่สัญญาซื้อขายไฟฟ้านำไปขายให้พวกแก๊งคอลเซนเตอร์ แล้วตัดไฟฟ้าที่ขายให้เขาเลยนั้น” เป็นการกระทำที่ไม่ชอบตามกฎหมาย เพราะในสัญญาระบุไว้หากฝ่ายคู่สัญญานำไฟฟ้าไปใช้ในกิจการที่ผิดกฎหมาย หรือเป็นภัยต่อความมั่นคง ต้องให้หน่วยงานความมั่นคงยืนยัน สั่งการให้ กฟภ. ดำเนินการระงับการจ่ายไฟฟ้า
ทั้งนึ้ การจะยกเลิกสัญญาได้นั้น กฟภ.จะยกเลิกสัญญา ได้ในกรณี ดังนี้ 1. ดำเนินการตามกฎหมาย 2. ดำเนินการตามสัญญา 3.ดำเนินการตามนโยบายฝ่ายความมั่นคง 4. ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล
“นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตระหนักถึงปัญหาเรื่องการหลอกลวงประชาชนของแก๊งคอลเซนเตอร์ พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลเสมอ แต่การที่จะสั่งการให้ กฟภ.ไม่จ่ายกระแสไฟฟ้า ให้กับคู่สัญญา นั้น แตกต่างจากกรณี ที่เราเห็นคนในตึกใดตึกหนึ่ง จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับคนร้าย หรือกระทำผิดเห็น ๆ จึงต่างกัน เหมือนในการปราบปรามยาเสพติด แม้เรารู้ว่ายาเสพติดไม่ดี และเป็นเรื่องที่ต้องปราบปรามอย่างเด็ดขาด เราจะสั่งฆ่าสั่งยิงใครโดยไม่ผ่านกระบวนการตามกฎหมายไม่ได้ ถึง แม้ใจเราอยากทำก็ไม่อาจทำได้ เพราะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผิดหลักการหลายอย่าง” นายคารม ย้ำ
นายคารม กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่กำกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมตัดไฟฟ้าถ้ามีการสั่งการจากหน่วยงานความมั่นคงทั้งหมด และนายอนุทิน ฯ ไม่เคยเจอตอ หรือไม่กลัวตอใด ๆ ตามที่นายรังสิมันต์ โรม กล่าว ตนเองชื่นชมนายรังสิมันต์ โรม ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องควรทำ แต่ถ้ายังไม่ชัด ก็อย่ากล่าวหาคนอื่นตามความคิดของตัวเอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อนุทิน’ เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง ข้าราชการการเมือง 1 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๔๔๕/๒๕๖๘ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ
โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ
ภาพเก่าถูกยกมาปั่น! เกมเบี่ยงศึกสแกมเมอร์หมื่นล้านในยุคอนุทิน
วันที่ภาพเก่าหลายเฟรมของ “เบน สมิธ” ถูกดันกลับขึ้นมาในโซเชียล คือวันเดียวกับที่ ปปง. แถลง ยึด-อายัดทรัพย์ 289 รายการ มูลค่ากว่า 10,165 ล้านบา
'เพื่อนธนาธร' โยงปมภาพหลุด 'อนุทิน-เบน สมิธ' ปล่อยจากเด็กผู้จัดการ 'สนธิ' อยู่ตรงไหนในเกมนี้!
เพื่อนธนาธร ‘ธนาพล อิ๋วสกุล’ วิเคราะห์ทิศทางข้อมูล เมื่อภาพหลุด ‘อนุทิน-เอกนิติ’ ร่วมเฟรม ‘เบน สมิธ’ โผล่ครั้งแรกจากคนของเครือผู้จัดการ ทั้งที่ ‘สนธิ’ เพิ่งปกป้องเบนสมิธหมาด ๆ ก่อนเปิดช้อยให้เลือก, ปรับจุดยืนหลัง ปปง.ยึดทรัพย์, หรืออ่านเกมว่ารัฐบาลไม่ไม่รอด-กลัวตกขบวน-หรืออาจ “ถูกทุกข้อ”
ฉับไว! ปชป. แถลงจี้ ‘อนุทิน-เอกนิติ’ แจงภาพถ่ายร่วม ‘เบน สมิธ’
พรรคประชาธิปัตย์ออกแถลงการณ์ขอให้นายอนุทิน และนายเอกนิติ ชี้แจงความเกี่ยวข้อง หลังมีภาพถ่ายร่วมผู้ถูกอายัดทรัพย์ในคดีเครือข่ายสแกมเมอร์ ชี้เพื่อความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นต่อภารกิจปราบอาชญากรรมข้ามชาติ


