ปมที่ดินสนามกอล์ฟอนุทินเดือด! อธิบดีกรมที่ดินโบ้ย ส.ป.ก. ต้องถาม พม. ไม่ใช่มาถามเรา

อธิบดีกรมที่ดินแจงปมสนามกอล์ฟ อ.ปากช่อง ที่ 'อนุทิน' ถูกโยงถือครองที่ดิน ชี้เป็นที่ดินนิคมสร้างตนเองที่ พม. จัดสรร ไม่เกี่ยวกับกรมที่ดิน โยน ส.ป.ก. ไปถาม พม. เองว่าทับซ้อนหรือไม่ ย้ำการออกโฉนดเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ถ้าชาวบ้านมีหลักฐานครอบครองก่อนประกาศเขต ส.ป.ก. ก็ต้องออกให้

15 ก.พ.2568 - นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ออกมาชี้แจงกรณีที่ดินสนามกอล์ฟใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเชื่อมโยงถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินดังกล่าว โดยนายอนุทิน ยืนยันว่า ที่ดินได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นการซื้อต่อจากชาวบ้าน ไม่ใช่มือแรก

นายพรพจน์ ระบุว่า ที่ดินดังกล่าวเป็น นิคมสร้างตนเองกว่า 1,000 แปลง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตั้งแต่ปี 2515 โดยเมื่อประชาชนเข้าทำประโยชน์เป็นเวลา 5 ปี ก็สามารถขอเปลี่ยนเป็นที่ดิน น.ค.3 และต่อมาออกเป็นโฉนดได้ตามกฎหมาย เมื่อพ้นกำหนด 5 ปี ตามเงื่อนไข ก็สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตาม ได้เกิดข้อกังขาว่าพื้นที่ดังกล่าว อาจทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ซึ่งทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า การออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่นี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ นายพรพจน์ ชี้แจงว่า กรมที่ดินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง เพราะการออกโฉนดเป็นการดำเนินการตามเอกสารสิทธิ์ของนิคมสร้างตนเองที่ พม. หรือกรมประชาสงเคราะห์เดิม เป็นผู้ดูแล ดังนั้น หาก ส.ป.ก. มีข้อสงสัยว่าพื้นที่ดังกล่าวทับซ้อนกันจริง ควรไปสอบถาม พม. ไม่ใช่มาถามกรมที่ดิน

“ที่ดินทั้งหมดออกจาก พม. ถ้าจะถามว่าทับซ้อนหรือไม่ ส.ป.ก. ต้องไปเคลียร์กับ พม. เอง ไม่ใช่มาถามกรมที่ดิน เพราะกรมที่ดินเป็นเพียงปลายทาง เราดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายชัดเจน” อธิบดีกรมที่ดินกล่าว

นายพรพจน์ อธิบายเพิ่มเติมว่า หากพื้นที่ใดถูกประกาศเป็นเขต ส.ป.ก. แต่มีประชาชนครอบครองมาก่อน และมีหลักฐาน เช่น ส.ค.1 หรือใบจองที่ดิน ส.ป.ก. ก็ไม่มีอำนาจไปห้ามการออกโฉนดได้ เพราะสิทธิของประชาชนได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน หากเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. จริง และประชาชนต้องการให้กรมที่ดินเข้าไปสำรวจออกโฉนดในภายหลัง กรมที่ดินก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เนื่องจากกฎหมายห้ามไว้ ซึ่งปัญหาลักษณะนี้มีอยู่ใน 122 อำเภอทั่วประเทศ และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไข

ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน หลังจากรับทราบข้อมูลจากกรมที่ดิน ก็ยังคงยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวได้มาอย่างถูกต้อง และ ไม่มีความกังวล ต่อประเด็นที่เกิดขึ้น เนื่องจากได้ปฏิบัติตามกฎหมายทุกขั้นตอน

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของ คณะทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีแผนจะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม แต่กรมที่ดินยืนยันว่าไม่มีประโยชน์ หากต้องการข้อมูล ควรเชิญ พม. มาชี้แจงเหตุผลว่าทำไมถึงไปตั้งนิคมสร้างตนเองในพื้นที่ดังกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ

โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ

ภาพเก่าถูกยกมาปั่น! เกมเบี่ยงศึกสแกมเมอร์หมื่นล้านในยุคอนุทิน

วันที่ภาพเก่าหลายเฟรมของ “เบน สมิธ” ถูกดันกลับขึ้นมาในโซเชียล คือวันเดียวกับที่ ปปง. แถลง ยึด-อายัดทรัพย์ 289 รายการ มูลค่ากว่า 10,165 ล้านบา

'เพื่อนธนาธร' โยงปมภาพหลุด 'อนุทิน-เบน สมิธ' ปล่อยจากเด็กผู้จัดการ 'สนธิ' อยู่ตรงไหนในเกมนี้!

เพื่อนธนาธร ‘ธนาพล อิ๋วสกุล’ วิเคราะห์ทิศทางข้อมูล เมื่อภาพหลุด ‘อนุทิน-เอกนิติ’ ร่วมเฟรม ‘เบน สมิธ’ โผล่ครั้งแรกจากคนของเครือผู้จัดการ ทั้งที่ ‘สนธิ’ เพิ่งปกป้องเบนสมิธหมาด ๆ ก่อนเปิดช้อยให้เลือก, ปรับจุดยืนหลัง ปปง.ยึดทรัพย์, หรืออ่านเกมว่ารัฐบาลไม่ไม่รอด-กลัวตกขบวน-หรืออาจ “ถูกทุกข้อ”

ฉับไว! ปชป. แถลงจี้ ‘อนุทิน-เอกนิติ’ แจงภาพถ่ายร่วม ‘เบน สมิธ’

พรรคประชาธิปัตย์ออกแถลงการณ์ขอให้นายอนุทิน และนายเอกนิติ ชี้แจงความเกี่ยวข้อง หลังมีภาพถ่ายร่วมผู้ถูกอายัดทรัพย์ในคดีเครือข่ายสแกมเมอร์ ชี้เพื่อความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นต่อภารกิจปราบอาชญากรรมข้ามชาติ