“จิรายุ” บ่น ”สมชาย“ เอาใจยาก หลังแขวะนายกฯไปอังกฤษ ชี้ไปแค่3วันยังดึงเงินเข้าประเทศได้มหาศาล เชื่อหากดึง F1 จัดในไทยได้ มูลค่าการลงทุนเป็นแสนๆล้านแน่นอน” ย้ำทำงานให้คนอิจฉา ดีกว่านั่งอิจฉาคนทำงาน“
22 พฤษภาคม 2568 - นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่นายสมชาย แสวงการ อดีตสว. เจ้าประจำออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่านายกรัฐมนตรีเดินทางไปอังกฤษไม่ได้พบกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษและไม่มีการเชิญสื่อมวลชนไปนั้น จริงๆนายสมชายก็เคยเป็นสื่อมวลชนน่าจะทราบว่าภารกิจรัฐบาลในต่างประเทศมีทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ จึงขอเรียนว่าภารกิจบางอย่างรัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องไปชุดใหญ่ เพราะมีสถานเอกอัครราชทูตอยู่แต่ละประเทศ ซึ่งมีทั้งเอกอัครราชทูต ทูตพาณิชย์ ทูตทหาร มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายโสตฯ จำนวนมาก พอท่านนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงและไปภารกิจที่ใด ก็ส่งข่าวได้อย่างรวดเร็ว ให้กับสื่อมวลชนทราบตลอดไม่มีตกหล่น
“พอพาสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ไปชุดใหญ่ก็ค่อนแคะว่าเปลืองงบประมาณ พอไปน้อยก็ถามอีกว่าทำไมไม่เอาสื่อไป พอนายกฯไปเชิญชวนนักธุรกิจมาลงทุนและโปรโมทสินค้าไทยก็อารมณ์เสียอีกว่าทำไมไม่ได้พบกับผู้นำประเทศนั้น จนบางทีก็เอาใจคนวัยนี้ได้ยากจริงๆ หรือเป็นเพราะอารมณ์แห่งความเกลียดชังเลยบดบังทัศนียภาพความเจริญของประเทศไทยใช่หรือไม่“นายจิรายุกล่าว
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยวนเวียนอยู่กับความขัดแย้ง อิจฉาตาร้อนแบบนี้มาเป็นสิบๆปี มีหลายปัจจัยที่เป็นตัวถ่วงเศรษฐกิจของประเทศ การเดินทางครั้งนี้เป็นเรื่องของการไปส่งเสริมสินค้า และภาคธุรกิจของไทย นักธุรกิจไทยที่นั่นต่างขอบคุณและดีใจที่ผู้นำไทยให้ความสำคัญ แต่กลับมีบางคนที่เมืองไทยนั่งตาร้อน ท้้งนี้ ตนยังมั่นใจในคติพจน์แต่โบราณในการทำงานที่ว่า ทำงานให้คนอิจฉา ดีกว่านั่งอิจฉาคนทำงาน
นายจิรายุกล่าวอีกว่า การเดินทางของนายกรัฐมนตรีแต่ละครั้งกลับมา ไม่เคยที่จะไม่มีอะไรติดมือมาสักครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ด้านการลงทุนในเวทึระดับโลก และความสามารถเชิญชวนนักลงทุนระดับโลก รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่นำเสนอให้กับนานาอารยะประเทศมาลงทุนได้เป็นจำนวนมาก ฉะนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฝ่ายตรงข้ามบางคนยังติดอารมณ์หงุดหงิด เพราะไม่ว่าคนในครอบครัวนี้ จะทำอะไรที่ดีต่อประเทศชาติมากแค่ไหนก็จะมองไม่เห็น แม้แต่องคุลี
นายจิรายุ กล่าวว่า การเดินทางครั้งนี้ไปเพียงแค่ 2-3วัน ตนเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีมีประสบการณ์ในการเดินทางเชิญชวนนักลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยสามารถขยายในตลาดโลกได้มากขึ้น รวมทั้งหากประเทศไทยได้มีโอกาสจัดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลก อย่างการจัดการแข่งขันรถยนต์สูตร 1 ฟอร์มูล่าวัน ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกมีเพียงไม่กี่ประเทศที่ได้สิทธิ์ในการจัดการแข่งขัน อย่างประเทศเพื่อนบ้านของเรา ที่เซปัง มาเลเซียและสิงคโปร์ก็จัดการแข่งขันมาแล้วเป็น 10 ปีโกยเงินเข้าประเทศไม่รู้กี่แสนล้านบาทแล้ว ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน จึง
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หากนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ "แพทองธาร ชินวัตร“ จะทำให้บ้านเมืองเจริญ มีนักลงทุนมามาก ประชาชนกินดีอยู่ดีแล้ว อาจจะทำให้บุคคลบางกลุ่มตาร้อนบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ธนกร' ชี้ผู้นำพรรคตัวชี้ขาดเลือกตั้ง หนุนภูมิใจไทยกลับมาเป็นรัฐบาล
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเลือกตั้งว่า แม้วันนี้อาจจะมีบางฝ่ายออกมาประเมินว่า การเลือกตั้งครั้งนี้กระแสจะกลายเป็นตัวชี้ขาด แต่เท่าที่ตนมอ
'ดร.สุวิทย์' ปลุกคนไทย ตื่นตัวเลือกตั้ง69 สกัดทุนเทา-สแกมเมอร์ | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันพุธที่ 31 ธันวาคม 2568
คนไทยหวังปี 2569 ได้นายกรัฐมนตรี-รัฐบาลที่ดี
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน
ครม.ไฟเขียวแนวปฏิบัติเลือกตั้ง สส. ควบประชามติ
ครม.อนุมัติแนวทางปฏิบัติในการเลือกตั้ง สส.-แนวทางปฏิบัติในการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ
🛑LIVE แซงผงาด !! 'ปชป.' กรีดเลือดฟ้า การเมืองเพื่อประชาชน | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568
🛑LIVE ทัพน้ำเงินพร้อม..พร้อม!! 'ภูมิใจไทย'ปักธงกลับมานำรัฐบาล | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568

