'สมศักดิ์' ปัดขู่แพทยสภา หลังหอบเอกสารคำพิพากษาศาลปกครอง อาจโดนฟ้องร้อง

"สมศักดิ์" แจงแพทยสภา ปมลงโทษ 3 แพทย์ เตือน "ตีวัวกระทบคราด" วงการหมอสั่นคลอน มวลชนโห่ไล่

12 มิถุนายน 2568 - เวลา 12.20 น. ที่อาคารมหิตลาธิเบศร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแพทยสภา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการแพทยสภา เกี่ยวกับการใช้อำนาจยับยั้ง (วีโต้) มติแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568 ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย

นายสมศักดิ์ ใช้เวลา 15 นาทีในการชี้แจง พร้อมยื่นเอกสารประกอบ 10 หน้า โดย 2 หน้าเน้นประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการแพทยสภา พร้อมแนบคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เพื่อชี้ให้เห็นถึงความถูกต้องตามกฎหมายและป้องกันปัญหาการลงคะแนนที่อาจนำไปสู่การฟ้องร้องในอนาคต เขาระบุว่า ฝ่ายกฎหมายแนะนำให้ยื่นเอกสารดังกล่าวในที่ประชุม

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การชี้แจงในที่ประชุมเน้นเหตุผลที่ใช้อวีโตมติลงโทษแพทย์ทั้ง 3 ราย โดยระบุว่าการลงโทษนี้อาจกลายเป็น "บรรทัดฐานใหม่" ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของแพทย์ในการรักษาผู้ป่วย ซึ่งอาจนำไปสู่อันตรายต่อผู้ป่วยในระยะยาว เขายกตัวอย่างกรณีโรงเรียนแพทย์ส่งผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้ตรวจโรคเดียว แต่แพทย์ตรวจพบถึง 3 โรค ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่าย แต่สะท้อนถึงความเอาใจใส่ในการรักษา เขากล่าวว่า การกระทำเช่นนี้ไม่ควรถูกมองเป็นความผิด

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์วิจารณ์กระบวนการพิจารณาของแพทยสภา โดยระบุว่า คณะกรรมการใช้เวลากว่า 5 เดือนในการส่งเรื่องพิจารณาโทษ แต่คณะกรรมการกลั่นกรองจริยธรรมกลับประชุมเพียงครั้งเดียวก่อนการประชุมบอร์ด 7 วัน และใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมงในการปรับแก้โทษทั้งหมด ซึ่งที่ประชุมอาจไม่ได้พิจารณารายละเอียดอย่างถี่ถ้วนก่อนมีมติลงโทษ เขายังระบุว่า ได้ให้แนวทางในเอกสารประกอบ 4 ข้อท้าย โดยขอให้คณะกรรมการทบทวนมติหากรู้สึกผิดหรือพิจารณาว่ากรณีนี้เกี่ยวข้องกับบุคคลใกล้ชิดของตนเอง

เมื่อถูกถามว่าทำไมต้องแนบคำสั่งศาลปกครองสูงสุดในเอกสาร นายสมศักดิ์ อธิบายว่า ประเด็นผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนหรือโหวตในแพทยสภาอาจกลายเป็นปัญหาในอนาคต และอาจมีบุคคลที่สามฟ้องร้อง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายได้ เขายืนยันว่า การชี้แจงครั้งนี้ไม่ใช่การข่มขู่แพทยสภา แต่เป็นการทำตามกฎหมายเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจนำไปสู่การใช้จ่ายงบประมาณรัฐในคดีความ เขากล่าวว่า “ถ้าเราไม่พูดในที่ประชุมแล้วไปพูดทีหลังก็ไม่มีประโยชน์” และย้ำว่า การเริ่มต้นด้วยความโปร่งใสจะนำไปสู่การดำเนินการที่ถูกต้อง

เมื่อถามว่าในที่ประชุมมีการสอบถามเพิ่มเติมหรือไม่ นายสมศักดิ์ระบุว่า ไม่มีการสอบถาม โดยเขาใช้เวลา 15 นาทีตามที่กำหนด และออกจากห้องประชุมตามมารยาทเมื่อครบเวลา

นายสมศักดิ์ อ้างถึงผลสำรวจของนิด้าโพล ซึ่งระบุว่าความน่าเชื่อถือของแพทยสภาอยู่ที่ 54% ซึ่งถือว่าต่ำ และหากการตัดสินใจไม่รอบคอบ ความน่าเชื่อถืออาจลดลงอีก

เขายังกล่าวถึงวลีในเอกสารว่า “ตีวัวกระทบคราด” โดยอธิบายว่า การลงโทษแพทย์ในครั้งนี้ไม่เพียงกระทบตัวแพทย์ แต่จะสะเทือนทั้งระบบ ทำให้แพทย์รุ่นใหม่ขาดแรงจูงใจในการทำงาน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อวงการแพทย์โดยรวม

นายสมศักดิ์ระบุว่า เขาไม่ทราบจำนวนกรรมการที่เข้าร่วมประชุมและไม่รู้ว่ามาครบหรือไม่ แต่ย้ำว่าได้ทำหน้าที่ในฐานะสภานายกพิเศษครบถ้วนตามมาตรา 24 โดยให้ข้อคิดและแนวทางต่างๆแก่แพทยสภาแล้ว หากมติแพทยสภายังไม่เปลี่ยนแปลงตามที่วีโต้ ก็จะเป็นหน้าที่ของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป เขายังกล่าวว่า หลังจากนี้จะมีแพทย์ที่ต้องถูกตรวจสอบเพิ่มเติม

กรณีเครือข่ายแพทย์ 750 คน ล่ารายชื่อสนับสนุนมติแพทยสภา และบางกลุ่มเสนอให้ยกเลิกตำแหน่งสภานายกพิเศษ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต้องดำรงควบ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เขาไม่ยึดติดกับตำแหน่งนี้ และทำหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อป้องกันการร้องเรียน เขาระบุว่า ตำแหน่งนี้ไม่ใช่งานที่ง่าย ต้องพิจารณาหลายเรื่อง และบางครั้งต้องจัดการกับความขัดแย้งของผู้อื่น เขายังกล่าวถึงประวัติการทำงานว่าเป็นนักการเมืองที่พยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และมุ่งทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด

นายสมศักดิ์ย้ำว่า หากแพทย์ที่ถูกมติลงโทษต้องเผชิญคดีตามกฎหมาย กระทรวงสาธารณสุขไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง เขายังกล่าวถึงว่า การลงโทษแพทย์ในกรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ “กรณีอดีตนายกรัฐมนตรี” ที่จบไปแล้ว แต่การลงโทษครั้งนี้อาจกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ ทำให้แพทย์รุ่นใหม่และนักเรียนแพทย์รู้สึกกังวล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสัมภาษณ์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะที่หน้าอาคารมหิตลาธิเบศร มีกลุ่มมวลชนปักหลักชุมนุม ตะโกนขับไล่นายสมศักดิ์ และตั้งคำถามว่า “สภานายกพิเศษมีไว้ทำไม” หลังนายสมศักดิ์สัมภาษณ์เสร็จและขึ้นรถยนต์ออกจากพื้นที่ มวลชนบางส่วนขว้างรองเท้าใส่รถยนต์ที่กำลังเคลื่อนตัว

มีรายงานว่า การประชุมแพทยสภามีกรรมการเข้าร่วม 68 คน ส่วน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เข้าร่วมประชุมในช่วงเช้า ก่อนมอบหมายให้ผู้แทนเข้าร่วมประชุมแทน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โอ๊ค' เข้าเยี่ยม 'ทักษิณ' คุยเรื่องหลานๆ พร้อมฝากให้กำลังใจ 'ยศชนัน'

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน กรุงเทพมหานคร ระหว่างการเดินทางเข้าเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการเข้าเยี่ยมครั้งที่ 27 ภายหลังถูกคุมขังครบ 3 เดือน เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา การเข้าเยี่ยมครั้งนี้มี นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค บุตรชายคนโตของนายทักษิณ ชินวัตร

‘สมศักดิ์-อนุชา’ ลุยอยุธยา รับฟังชาวนา เจอปัญหาข้าวดีด-ต้นทุนพุ่ง

“สมศักดิ์-อนุชา” พาผู้สมัคร “จิรทัศ” ลงพื้นที่อยุธยา รับฟังปัญหาเกษตรกร เจอปัญหา”ข้าวดีด”หลังห้ามเผาฟาง ทำต้นทุนผลิตสูง ไร่ละ 6,000 บาท ชาวนาหวังช่วยการันตีข้าวดิบตันละ 8,000 บาท แนะ แก้ปัญหายั่งยืน ทำกฎหมายข้าว คิดต้นทุนใหม่-ให้กำไรเกษตรกร 30% ขอเชื่อมั่น เพื่อไทย ทำได้อย่างแน่นอน

‘อิ๊งค์-ปอ’ เข้าเยี่ยม ‘ทักษิณ’ คุยแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ฝากกำลังใจยศชนัน

“อิ๊งค์-ปอ” ตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยม “ทักษิณ ชินวัตร” ครั้งที่ 26 ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เผยมีการพูดถึงแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย พร้อมส่งกำลังใจให้ “ศ.ยศ

'แนน บุณย์ธิดา' จวก 'รมต.เรียงหิน' ให้เครดิตคนอื่นบ้าง ยันค่าป่วยการ 'อสม.' 2 พันบาท เกิดสมัย 'ลุงตู่-อนุทิน'

จากกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวปราศรัยถึงบทบาท อสม. โดยระบุว่าพรรคเพื่อไทยให้ความ

'หมอวรงค์' มองภาพ 'เบนสมิธ' ร่วมวง 'ทักษิณ-ธรรมนัส' น่ามีผลต่อปท. มากกว่ารูปเก่า 'อนุทิน'

ภาพที่มีเบน สมิธกับทักษิณ และมีธรรมนัส น่าจะมีน้ำหนักสร้างผลกระทบต่อประเทศชาติมากกว่า เมื่อเทียบกับภาพเมื่อ 10 ปีที่แล้วของนายอนุทิน แต่สิ่งที่นายอนุทินต้องพิสูจน์ อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างผ่านมาทางธรรมนัสก็ได้

‘เสรีพิศุทธ์’ จัดเต็ม ‘ทักษิณ’ ยังไม่สิ้นกรรม แฉลึก...ศึกสีกากี

กลายเป็นเรื่องที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมาก กับการออกเปิดโปง-แฉข้อมูลเรื่องตำรวจรับผลประโยชน์ รับส่วยจากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์