'เท้ง' แทงกั๊กเลิก MOU 43-44 ชงศึกษา 4 ข้อส่งต่อรัฐบาลหน้า มีความชอบธรรมสูงกว่า

"หัวหน้าพรรคประชาชน" มองไม่จำเป็นต้องรีบหาข้อสรุปยกเลิก MOU 43-44 แต่ควรศึกษาไว้เป็นแนวทาง 4 ข้อ เพื่อส่งต่อให้รัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งและมีความชอบธรรมสูงกว่านี้ ชี้ต้นตอปัญหามาจากรัฐบาลปัจจุบัน-ผู้นำสองประเทศขัดแย้งกัน 

28 สิงหาคม 2568 - เวลา 14.40 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฏร คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกและทางทะเล (MOU 43 และ 44)

นายณัฐพงษ์ อภิปรายว่า ถึงแม้สมาชิกทั้งหมดในสภาฯ ร่วมกันส่งข้อสรุปและส่งให้รัฐบาล ก๊เชื่อว่าปัญหาจะไม่จบ เพราะปัญหานี้มีต้นตอจากรัฐบาลปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้นำประเทศ ความขัดแย้งของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ เกิดขึ้นเพราะผู้นำ

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องสำคัญอย่างยิ่งคือความชอบธรรมของรัฐบาล คือความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการแก้ไขปัญหา แม้ผลการศึกษาของสภาจะดีแค่ไหน แต่สุดท้ายประชาชนคนไทยไม่เชื่อถือ ต่างประเทศไม่ให้ความเคารพ ปัญหาจะได้แก้ไขหรือไม่

“จึงเสนอให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาก่อน หาทางออกที่ดีที่สุดให้กับประเทศ และส่งต่อไปยังรัฐบาลชุดหน้า ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และมีความชอบธรรมสูงกว่านี้” นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เข้าใจดีว่าสมาชิกบางส่วนกังวลว่า MOU เป็นกลไกที่ขาดประสิทธิภาพ แต่อย่าลืมว่า MOU ทั้ง 2 ฉบับนี้ ที่เราทำมากว่า 20 ปี ช่วยให้เราเดินหน้าปักปันเขตแดนไปแล้ว 74 หลักเขตด้วยกัน ดังนั้น สมาชิกทุกคนไม่มีความจำเป็นต้องรีบเร่งส่งข้อสรุปให้รัฐบาลที่ไร้ความชอบธรรมดำเนินการแก้ไขปัญหาในตอนนี้

สำหรับกรอบในการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญนี้ ประกอบด้วย 1. ศึกษาผลกระทบกฎหมายระหว่างประเทศ และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นต่อเวทีระหว่างประเทศ

2. ศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับกระบวนการทวิภาคีในการเจรจาปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา

3. ถ้าศึกษาเรื่องการยกเลิก ก็อย่าลืมคิดเผื่อว่าจะมีกลไกใดมาแทนที่ ระหว่างที่ยังไม่มีข้อตกลงฉบับใหม่

และ 4. การบริหารจัดการความมั่นคงชายแดนระหว่าง 2 ประเทศ ระหว่างมีสภาวะช่องว่างที่ขาดกลไกการเดินหน้าปักปันเขตแดนระหว่างประเทศ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปชน. ค้านนัดโหวตแก้ รธน. วาระ 3 หลังปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ

"ณัฐวุติ" ย้ำโหวตแก้ รธน. วาระ 3 ต้องเสร็จก่อนปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ เสี่ยงผิด MOA เชื่อไม่มีเงื่อนไขให้ สว. ควํ่าวาระ 3 เผย หลังโหวตเสร็จ ปชน. เตรียมชง 2 คำถามประชามติให้สภาฯ เคาะทันที

ปิดด่าน 5 เดือน การค้าชายแดนคลองใหญ่เสียหาย 5 พันล้าน สินค้าเถื่อนทะลัก วอนรัฐบาลเยียวยา

เศรษฐกิจการค้าชายแดนคลองใหญ่ทรุดหนัก เสียหาย 5 พันล้าน ท่องเที่ยววูบปิดท่าเรือหนี ผู้ประกอบการจี้รัฐเยียวยา หลังปิดด่าน 5 เดือน ขณะสินค้าเถื่อนทะลักเข้า-ออก

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)