
“เพื่อไทย” ชี้ คำพูดไร้วุฒิภาวะ-เสียพันธมิตร ทำประเทศเสี่ยงทั้งอธิปไตยและเศรษฐกิจ กว่า 3 ล้านล้านต่อปี ที่ประชาชนหลายสิบล้านคนจะได้รับผลกระทบ รวมทั้งปัญหาคอลเซนเตอร์
16 พ.ย. 2568 – นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีสหรัฐอเมริกาแจ้งขอ “ระงับ” การเจรจาภาษีการค้ากับไทยชั่วคราว หลังรอคำยืนยันว่าฝ่ายไทยจะกลับเข้าสู่ Joint Declaration (MOU ร่วม) ไทย-กัมพูชาอีกครั้ง โดยระบุว่า การบริหารของรัฐบาลปัจจุบันทำให้ประเทศเสียหายจนประเมินไม่ได้
นายศึกษิษฏ์กล่าวว่า เราทุกคนมีความรักชาติเหมือนกัน แต่วิธีการบริหารที่ต่างกัน จะสร้างความเสียหายแบบที่ประเมินไม่ได้
โฆษกพรรคเพื่อไทยย้ำว่า พรรคเชื่อมั่นว่าไทยมีสิทธิและหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตย รวมถึงสิทธิในการตอบโต้ที่ได้สัดส่วนเมื่อถูกรุกล้ำ และเราก็ได้ดำเนินการบนรากฐานความคิดนั้นมาตลอด โดยที่ผ่านมารัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยได้ทำงานร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ได้ตอบโต้ผู้ที่รุกล้ำอธิปไตยและสร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนไทย โดยได้แสดงแสนยานุภาพในการตอบโต้จนเป็นที่ประจักษ์ ข่าวลือข่าวปลอมต่างๆ ที่ว่าเราสั่งให้หยุดก็พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง
นายศึกษิษฏ์ ระบุว่า ในช่วงเดียวกัน พรรคเพื่อไทยยังเดินหน้า “การทูตเชิงรุก” ผ่านทั้งกลไกทวิภาคี (สองฝ่าย) และพหุภาคี (หลายฝ่าย) เพื่อรักษาสมดุลระหว่างอธิปไตยและเศรษฐกิจ จนนานาประเทศทั่วโลกหันมาฟังและพร้อมที่จะสนับสนุนเรา เอาโลกมาล้อมคู่กรณี
นายศึกษิษฏ์เปรียบเทียบกับการบริหารของรัฐบาลชุดปัจจุบันว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่คำพูดที่สับสน ไม่มีวุฒิภาวะ ทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศไทย หรือบางคำอาจจะนำไปสู่การเสียดินแดน ผลักพันธมิตรออกห่าง ไม่เดินการทูตเชิงรุกจนเราเสียพันธมิตรทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี
พรรคเพื่อไทยได้เสนอแนะรัฐบาลตั้งแต่แรกให้รีบทำงานเชิงรุกผ่านประเทศมหาอำนาจ โดยพรรคเพื่อไทยได้เสนอแนวทางมาตั้งแต่หลังเกิดเหตุ ให้นายกรัฐมนตรีเร่งพูดคุยกับอเมริกาและจีน ประเทศมหาอำนาจที่เป็นผู้ผลักดันและสักขีพยานในปฏิญญาสันติภาพ และให้กรอบกลไกนานาชาติต่างๆ เพื่อนำข้อมูลของประเทศเราออกไปก่อน แสดงให้โลกรู้ว่าเราไม่ได้เริ่มก่อนแต่กัมพูชาเป็นคนฉีกกติกา และใช้ยุทธศาสตร์โลกล้อมกดดันกัมพูชา เหมือนที่เราเคยทำ
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ผลลัพธ์จากการบริหารงานไร้ประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศอยู่ในจุดที่กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก นอกจากเผชิญหน้ากัมพูชาแล้ว ยังเจอกับแรงกดดันจากอเมริกาอีกด้วย ทั้งที่สามารถรับมือสถานการณ์ได้ดีกว่านี้โดยไม่ขยายประเด็นเปิดช่องให้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถึงแม้ว่าเราจะไม่พอใจกับท่าทีของสหรัฐอย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงคือมูลค่าการค้าขายกว่า 3 ล้านล้านบาท ภายใต้ตัวเลขเหล่านี้คือพี่น้องประชาชนจำนวนหลายสิบล้านคนที่จะได้รับผลกระทบ เสียหายทั้งในด้านอธิปไตยและด้านเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบถึงความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องก็ต้องติดค้างอยู่ด้วย
ท้ายที่สุด นายศึกษิษฏ์ตั้งคำถามต่อพรรคฝ่ายค้านว่า “สิ่งที่รัฐบาลนี้ได้กระทำ นับเป็นความผิดพลาดเพียงพอที่จะไว้วางใจให้บริหารประเทศต่อไปหรือไม่” โฆษกพรรค กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
‘เอ็ดดี้’ จี้ ‘เพื่อไทย-ส้ม’ อย่าดีแต่ปาก กลัวอะไรอยู่ ยื่นซักฟอกเลย
เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความว่า เห็นขู่กันฮึ่มๆ ว่าจะจะยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่น่าไว้วางใจ
‘ปลอดประสพ’ คาใจการทำงานของ ‘อนุทิน’ เกทับสู้ตัวเองสมัย สึนามิ-น้ำท่วมใหญ่ภาคกลางไม่ได้
ปลอดประสพ สุรัสวดี แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความว่าน้ำท่วมหาดใหญ่ มีเรื่องค้างคาใจ ผมเป็นรัฐมนตรีที่ผ่านภัยพิบัติใหญ่ที่แสนวิ
‘เทพไท’ เปิดสาเหตุ 'เพื่อไทย' ไม่กล้ายื่นซักฟอก ทั้งที่ตัวเองได้เปรียบ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิประบุว่า
'พท.' ยันไม่ใช่เวลายื่นอภิปราย อ้างเปิดทางรัฐบาลแก้น้ำท่วมใต้ก่อน หวั่นฉวยยุบสภากระทบเยียวยา ปชช.
หัวหน้าพรรค พท.ชี้การติดตามตรวจสอบรัฐบาลไม่ได้หยุดนิ่ง แต่กระบวนการพูดคุยการยื่น หรือไม่ยื่นญัตติ ในช่วงนี้ขออนุญาตยังไม่พูดคุย
'จุลพันธ์' เลี่ยงตอบ 'ยศชนัน' ลูกชายเจ๊แดงหลานทักษิณ นั่งแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทยหรือไม่
‘จุลพันธ์' เลี่ยงตอบ ‘ยศชนัน’ ลูกอดีตนายกฯสมชาย-เจ๊แดง และหลานทักษิณ นั่งแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทยหรือไม่ บอก เป็นไปได้อาจมีคนในพรรคร่วมเป็นแคนดิเดต แต่ต้องเป็นมติพรรค-หน้าที่กก.บห. ย้ำ เปิดตัวกลาง ธ.ค.นี้


