'ณัฐวุฒิ' ย้ำ 'กมธ.แก้ รธน.' เร่งทำเนื้อหาหลักต้องสมบูรณ์พรุ่งนี้ พร้อมแล้วเสร็จใน 26 พ.ย. หวังที่ประชุม ครม. 25 พ.ย. จะไฟเขียวให้เปิดสมัยวิสามัญ ขู่หากไม่เปิด 'ปชน.' ไม่มีทางเลือก ต้องใช้กลไกสอบ 'รัฐบาล'
20 พ.ย. 2568 - ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา เปิดเผยความคืบหน้าการพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ที่รัฐสภาได้รับหลักการมา ว่า ขณะนี้ กระบวนการ และหลักการที่กรรมาธิการฯ กำหนดไว้ ทั้งกลไกร่างรัฐธรรมนูญ การรับฟังความเห็น กระบวนการรัฐสภา หลักการพื้นฐาน และข้อห้ามบางประการ สาระสำคัญทั้งหมด กรรมาธิการฯ จะพิจารณาให้แล้วเสร็จทั้งหมดในวันที่ 21 พ.ย.นี้ อย่างละเอียดรอบคอบ
นายณัฐวุฒิ มั่นใจว่า จะแล้วเสร็จตามกำหนด ซึ่งในสัปดาห์หน้า จะเชิญผู้ที่แปรญัตติมาชี้แจง และจัดทำรายงานสรุปให้แล้วเสร็จในวันพุธที่ 26 พ.ย.นี้ ก่อนแจ้งให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา ได้รับทราบ เพื่อได้แจ้งต่อคณะรัฐมนตรี ในการขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อมาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อในวาระที่ 2 ของที่ประชุมรัฐสภา
นายณัฐวุฒิ หวังว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จะมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภา สมัยวิสามัญ ให้ที่ประชุมรัฐสภา สามารถเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระที่ 2 ได้ในห้วงวันที่ 8-11 ธ.ค.นี้ ก่อนการเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญต่อไป เพื่อไม่ให้กระทบกรอบเวลาการลงมติทั้งวาระ 2 และวาระ 3 รวมถึงคำถามในการออกเสียงประชามติ ที่คณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาตั้งคำถาม โดยมีญัตติคำถามที่จะตั้งจากรัฐสภาต่อไป
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการยุบสภา ที่ดูเหมือนจะสัมพันธ์ และส่งผลกระทบต่อกัน จนทำให้ร่างรัฐธรรมนูญถูกจับเป็นตัวประกัน และมีโอกาสที่จะต้องแท้งไปนั้น นายณัฐวุฒิ ยอมรับว่า ในช่วงต้นของการพิจารณา กรรมาธิการฯ มีความกังวล แต่กรรมาธิการฯ ขอทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ในฐานะกรรมาธิการฯ โดยไม่ได้จำกัดว่า พรรคใด หรือสภาใด ซึ่งกรรมาธิการฯ จะทำหน้าที่ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อให้มีหลักประกันว่า หากกรรมาธิการฯ ดำเนินการอย่างรวดเร็ว และมีการพิจารณาเป็นลำดับ
เนื่องจากตนเองก็ไม่ต้องการให้เหตุผลอื่น ๆ ทางการเมืองมีผลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อปลดล็อกการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เกิดขึ้น แต่หากสุดท้ายแล้ว การเมืองจะเป็นเช่นไรต่อไป ก็เกินกว่าที่กรรมาธิการฯ จะตอบได้ แต่ยืนยันว่า ในสัปดาห์หน้า กรรมาธิการฯ จะเร่งดำเนินขั้นธุรการ และส่งเรื่องให้ประธานรัฐสภา ประสานคณะรัฐมนตรี เพื่อเปิดสมัยประชุมสภา สมัยวิสามัญ ซึ่งตนเองมั่นใจว่า หากมีการเปิดสภาสมัยวิสามัญได้ ความสนใจของสังคม ก็จะกลับมาพิจารณารัฐธรรมนูญ
นายณัฐวุฒิ กล่าวในฐานะแกนนำพรรคประชาชน ถึงความชัดเจนของการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ว่า ในช่วงนี้พรรคประชาชน ได้ให้ความสำคัญเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหลัก พร้อมยอมรับว่า ตามข่าวหลายประเด็นในสังคมเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล และมีหลายคนอยู่ในข่ายที่จะต้องพิจารณา หรือปรับเปลี่ยน และเชื่อว่า หากมีพรรคการเมืองใดเริ่มต้นในการยื่นอภิปราย พรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้าน ก็พร้อมทำหน้าที่เต็มที่
ส่วนจะเป็นการยื่นจากพรรคประชาชนเองหรือไม่นั้น นายณัฐวุฒิ ย้ำว่า พรรคประชาชนยังอยู่ในขั้นการพิจารณาประกอบเงื่อนไขข้อตกลงตาม MOA ซึ่งพรรคประชาชน ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ตามเงื่อนไข 2 ใน 5 ข้อของ MOA นั้น เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ ที่พรรคประชาชนให้ความสำคัญ
นายณัฐวุฒิ ยังเห็นว่า เรื่องคุณสมบัติของรัฐมนตรีรายคน หากคณะรัฐมนตรีเห็นว่า บุคคลใดมีคุณสมบัติที่มีปัญหา หรือมีข้อกังขา ก็สามารถใช้กลไกอื่นดำเนินการได้ เพื่อให้การเดินหน้าตาม MOA เป็นไปด้วยดี และเป็นไปตามที่รัฐบาลประกาศเดินหน้าปราบปรามธุรกิจสีเทา แต่ท้ายที่สุด ผลจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับความจริงใจของรัฐบาล แต่หากรัฐบาลไม่มีความจริงใจแก้ปัญหา เงื่อนไขการเปิดอภิปรายไม่ว่าจะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 หรือ 152 หรือการยื่นตรวจสอบคุณสมบัติอื่นๆ ก็ยังเป็นอาวุธที่ฝ่ายค้านเตรียมไว้ทุกมิติ
เมื่อถามว่าหากพรรคประชาชนพิจารณาแล้ว จำเป็นจะต้องยื่นอภิปราย จะเป็นไปในรูปแบบ 151 หรือ 152 เพราะยังมีเรื่องรัฐธรรมนูญที่ยังคงถูกมองเป็นตัวประกัน นายณัฐวุฒิ ย้ำว่า หากพรรคประชาชนมองว่า รัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน พรรคประชาชนก็คงเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะมีฝ่ายใดดึง แค่ยืนบนพื้นฐานที่ทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว มีเนื้อหาครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่มีประเด็นนำไปสู่การยื่นตีความอีก
สำหรับพรรคประชาชนเอง สส.ก็มีการหารือกันว่า จะใช้เครื่องมือใด ทั้ง 151 หรือ 152 เป็นรายบุคคล หรือทั้งคณะ แต่สุดท้าย ก็จะต้องมีการประชุมในที่ประชุม สส. หรือที่ประชุม สส.ร่วมกับกรรมการบริหารพรรคต่อไป
นายณัฐวุฒิ ยังย้ำว่า พรรคประชาชน จะดูความจริงใจของรัฐบาล หากกรรมาธิการฯ เร่งกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในชั้นกรรมาธิการฯ แล้วเสร็จ รัฐบาลจะมีเหตุผลใด ที่จะไม่เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพราะเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่พรรคประชาชนสื่อสารชัดเจนว่า หากไม่เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ก่อนเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ พรรคประชาชนก็ไม่มีทางเลือกอื่น ที่จะต้องใช้กลไกตรวจสอบรัฐบาลให้เข้มข้นยิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สส.ปชน. เรียกร้องรัฐบาลเยียวยาน้ำท่วมภาคกลางให้มีมาตรฐานเดียวกับภาคใต้
"เต้ ทวิวงศ์" จี้รัฐบาลอย่า 2 มาตรฐาน ช่วยน้ำท่วมใต้แล้ว หันมาช่วยน้ำท่วมภาคกลางด้วย บอก "ภราดร" ลองกลับมาถามคนอ่างทอง หากรอการเยียวยาเป็นลำดับถัดไปไหวหรือไม่ เหตุอยุธยาจมน้ำมา 4-5 เดือนแล้ว คนเสียชีวิตไปกว่า 20 ราย ชี้ ชาวบ้านต้องทำมาหากิน ควรมีมาตรการชดเชย-ช่วยเหลือเต็มรูปแบบเหมือนกัน
อภิปรายถกแก้รัฐธรรมนูญวาระ 2 ไม่ตีกรอบเวลาปิดประชุม!
'เลขาฯ สภาฯ' เผย 'ประธานรัฐสภา' พิจารณาเปิดสมัยประชุมวิสามัญ 10–11 ธ.ค.นี้ ถกร่างแก้รัฐธรรมนูญวาระสอง ย้ำไม่กำหนดกรอบเวลา เปิดทางสมาชิกอภิปรายอย่างเต็มที่
บก.ลายจุด อวยว่าที่นายกฯ ฝึกงานล้างบ้าน เก็บขยะ มีพัฒนาการที่ดี ลงท้ายแขวะ 'อภิสิทธิ์'
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด โพสต์ภาพนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กำลังล้างบ้านน้ำท่วมที่หาดใหญ่ พร้อมข้อความระบุว่า ใครทนอ่านเรื่องส้มไม่ได้ให้ข้ามไปก่อน
อึ้ง! คลิปผู้ช่วยสส.พท. สร้างจากเอไอ ยืนแช่น้ำท่วมที่หาดใหญ่ เรียกร้อง ปชน.ตรวจสอบรัฐบาล
เพจเฟซบุ๊ก Cofact โคแฟค โพสต์ข้อความ เรื่อง เนื้อหาที่ตรวจสอบ : คลิปผู้ช่วย สส. ยืนแช่น้ำท่วมที่หาดใหญ่เรียกร้องพรรคประชาชนตรวจสอบรัฐบาลอนุทิน ระบุว่า
ตาสว่างกันได้หรือยัง ’รักชนก‘ ประจานเพื่อไทยโหนเสื้อแดงหากินไปวัน ๆ
นางสาวรักชนก ศรีนอก หรือ “ไอซ์” สส.กรุงเทพฯ พรรค ประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ตาสว่างกันได้หรือยัง ว่าใครที่ตั้งใจอยากคืนความยุติธรรมให้คนเสื้อแดง ใครแค่
ขนลุก! กูรูใหญ่ สาปแช่งพรรคเพื่อไทย หลังข่าวซูเอี๋ยพรรคส้ม
ความคิดที่เพื่อไทยและประชาชนจะจับมือกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งแล้วเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือท่าดีทีล้มละลายทางการเมือง


