'รัฐสภา' เริ่มถก แก้รธน.วาระ2 'ภราดร' เสนอญัตติทำคำถามที่1 ส่งให้รัฐบาลทันที เจอ 'จุลพันธ์' สวน ครม.มีอำนาจ ทำไมไม่ทำเอง ด้าน 'วันนอร์' ให้วิป 3 ฝ่ายไปตกลงกัน
10 ธ.ค.2568 - ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ)เป็นพิเศษ โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่..)พ.ศ…. ที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)พิจารณาเสร็จแล้ว โดยเป็นการพิจารณาเรียงรายมาตรา ในวาระ 2
นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า การปเปิดวิสามัญเราเปิดเป็นการประชุมพิเศษ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมในมาตรา 256 โดยให้เพิ่มมาตรา 15/1 ซึ่งก็ไม่ได้มีมาตราอะไรมากมาย และก็มีการสงวนความเห็นและผู้แปรญัตติ แต่ถ้าสามารถจะรวบรวมเป็นหมวดหมู่ ซึ่งประธานกมธ.ฯ คงจะชี้แจงได้ และอภิปรายกันไม่ยึดเยื้อ โดยเราจะดูหน้างาน และวันนี้เราสามารถพิจารณาได้ถึงเวลา 24.00 น. แต่ถ้าเห็นหน้างานว่าเราไปได้สวย ไปได้มาก การพิจารณากก็อาจจะไม่จำเป็นต้องถึงเวลา 24.00 น.ก็ได้ ดังนั้นขึ้นอยู่กับสมาชิกและการอภิปราย แต่เนื่องจากการลงมติแต่ละมาตรา องค์ประชุมต้องอยู่ครบ จึงขอความร่วมมือสมาชิกที่มาประชุมอย่างน่้อย 2วันนี้ ขอให้อยู่ใกล้ๆ ห้องประชุม เพื่อที่จะลงมติได้เร็ว เพื่อที่เราจะได้ไปเร็ว หากต้องรอลงมติก็จะเสียเวลา
“ดังนั้นหน้างานผมอยากให้ประธานวิป 3 ฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาล และวุฒิสภา หารือได้ตลอดเวลา เพื่อที่การอภิปรายได้ไปเร็วหากมีปัญหาจะได้แจ้งมาที่ประธานได้”ประธานรัฐสภา กล่าว
ด้านนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย หารือว่า การกำหนดช่วงเวลาของประธานที่ได้ระบุว่าวันที่ 10 ธ.ค. ให้ถึงเวลา 24.00 น. คิดว่าให้ดูหน้างาน ว่าองค์ประชุมจะสามารถเดินหน้าไปได้หรือไม่ เพราะหากวันนี้เราเดินหน้าไปได้เร็วก็ไม่จำเป็นต้องถึงเวเลา 24.00 น. และไปต่อในวันที่ 11 ธ.ค. ก็สามารถจบได้ อย่างไรก็ตามวันนี้พวกจะยื่นญัตติด่วนต่อประธานด้วย เป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกับการพิจารณา คือญัตติด่วนเพื่อให้รัฐสภาให้มีมติเพื่อยื่นไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องการทำประชามติครั้งที่ 1 เพื่อไม่ต้องเสียเวลาไปรอการลงมติในวาระที่ 3 นั่นคือเมื่อพิจารณาวาระที่ 2 เสร็จแล้ว จึงอยากขอความกรุณาให้เพื่อนสมาชิกร่วมพิจารณาญัตติด่วนเพื่อที่ทำคำถามที่ 1 ส่งไปที่รัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลทำคำถามประชามติในครั้งที่ 1 เสียก่อน ส่วนหลังจากที่ลงมติในวาระที่ 3 เรียบร้อย ประธานอาจจะให้สภาพิจารณาในเรื่องคำถามเพื่อที่ส่งไปให้รัฐบาล เพื่อทำคำถามประชามติในคำถามที่ 2 ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็สามารถทำได้ ทั้งนี้พวกตนเองได้เสนอญัตติกับรัฐสภาไว้แล้วและรอประธานบรรจุระเบียบวาระ หากไม่ขัดข้องเราจะได้พิจารณาในญัตติด่วนหลังจากที่พิจารณาวาระที่ 2 เสร็จ
ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า จริงๆแล้วข้อเรียกร้องของนายภราดรตรงกับพรรคเพื่อไทย ที่เรียกร้องให้สร้างหลักประกันให้กับสังคมไทย ด้วยการให้รัฐบาลส่งคำถามประชามติคำถามที่ 1 ไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในทันที เพื่อยืนยันว่าไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เรากำลังพิจารณากันอยู่จะสะดุดติดขัดหรือจะเดินหน้าอย่างไร สุดท้ายวันที่มีการเลือกตั้งจะต้องมีคำถามที่1 ถามประชาชนว่าต้องการให้มีร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ หากในวันที่มีการลงมติประชาชนเห็นชอบ สิ่งที่ประชาชนจะได้คือหลักประกันว่าหลังจากมีรัฐบาลชุดใหม่ มีสภาชุดใหม่แล้ว ยืนยันว่ากระบวนการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน เพราะมีประชามติของประชาชนเป็นหลังพิง
นายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ขัดข้องที่นายภารดรเสนอว่าหลังพิจารณาจบวาระ2 จะขอให้มีการพิจารณาเป็นญัตติด่วนเพื่อส่งคำถามที่1 ไปยังรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลส่งต่อ แต่เห็นว่าเป็นการทำงานเกินความจำเป็นหรือไม่ เพราะอำนาจของ ครม.มีอยู่แล้วในกรณีที่ต้องการส่งคำถามประชามติ ครม.ไม่ต้องมาถามรัฐสภา สามารถส่งคำถามประชามติคำถามที่ 1 ไปที่ กกต.ได้เลย ซึ่งการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ก็ดำเนินการได้ แต่ไม่ดำเนินการ เพราะฉะนั้นจะมาผลักภาระให้รัฐสภา ซึ่งไม่ติดขัด แต่ทำไม่ท่านไม่ดำเนินการเอง เพราะกฏหมายเปิดช่องอยู่แล้ว
ทำให้นายภราดร อภิปรายว่า ไม่ได้เห็นต่างจากนายจุลพันธ์ แต่เรื่องการทำประชามติครั้งที่ 1 ซึ่งเคยหารือกับนายกรัฐมนตรีแล้ว เห็นตรงกันว่า ครม. สามารถดำเนินการตั้งคำถามประชามติครั้งที่1 ได้ เพียงแต่ได้สอบถามไปยังกฤษฎีกา โดยทางกฤษฎีกาได้มีคำตอบและแนวทางตอบกลับนอกรอบกับ ครม. ซึ่งตัวหนังสือกำลังได้สรุปและส่งให้ในวันที่ 15 ธ.ค. ฉะนั้น วันนี้ไม่สามารถเอาหลักฐานหนังสือจากกฤษฎีกามายืนยันในสภาแห่งนี้ได้ แต่เป็นแนวทางเดียวกันและคิดตรงกันว่า ครม. สามารถดำเนินการกับคำถามครั้งที่ 1 ได้ แต่เมื่อกฤษฎีกาทักท้วง ว่าอาจจะขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ แม้ว่ากฎหมายประชามติจะอนุญาตให้ ครม.ทำได้ แต่เมื่อกฤษฎีกาทักท้วงว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเริ่มต้นที่รัฐสภา ก็ควรที่จะให้รัฐสภานั้น เสนอคำถามต่อ ครม. เพื่อให้ ครม.ดำเนินต่อไปและส่งให้ กกต.เพื่อให้เกิดความรอบคอบ และความถูกต้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้นายวันมูหะมัดนอร์ ได้ชี้แจงว่า เราจะดำเนินการต่อไป และจะต้องมีการหารือระหว่างวิปทั้ง 3 ฝ่ายด้วย เพราะหลักใหญ่ค่อนข้างจะเห็นตรงกันแล้ว
จากนั้นนายณัฐวุฒิ บัวประชุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประธานกมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ รายงานผลการพิจารณาของกมธ.ฯ ต่อที่ประชุม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'จุลพันธ์' กั๊กวันยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ลั่น 'ต่อให้รู้ก็บอกไม่ได้'
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุหากจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นช่วงเวลาใด ต่อให้รู้ก็บอกไม่ได้
อภิปรายถกแก้รัฐธรรมนูญวาระ 2 ไม่ตีกรอบเวลาปิดประชุม!
'เลขาฯ สภาฯ' เผย 'ประธานรัฐสภา' พิจารณาเปิดสมัยประชุมวิสามัญ 10–11 ธ.ค.นี้ ถกร่างแก้รัฐธรรมนูญวาระสอง ย้ำไม่กำหนดกรอบเวลา เปิดทางสมาชิกอภิปรายอย่างเต็มที่
ได้เท่าหาดใหญ่! ภราดรเผยกลางที่ประชุม ศป.กฉ.เสียชีวิตในอุทกภัยใต้ได้ค่าปลงศพ 2 ล้าน
'ภราดร' ถก 'ศป.กฉ.' บอกผู้ว่าฯปัตตานี นอกพื้นที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะได้รับค่าปลงศพรายละ 2 ล้านบาทเช่นกัน บี้ผู้ว่าฯ นราธิวาส เร่งเบิกจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม หลังพบเบิกช้าไม่ถึง 10%
หวังคณะกรรมการถอดบทเรียนหาดใหญ่จบก่อนยุบสภา
'ภราดร' เผย นายกฯตั้ง คกก.ถอดบทเรียนรับมือมหาภัยในอนาคต เชิญนักวิชาการ-เอกชนให้ข้อคิด ระบุ รวบรวมให้เสร็จก่อนยุบสภา
'ศศิน' ฝาก 4 ข้อการรับมือภัยพิบัติ ผ่าน รองเลขาฯสทนช. ก่อนถก 'คณะกรรมการน้ำแห่งชาติ'
นายศศิน เฉลิมลาภ นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นักวิชาการอิสระ อดีตประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร โพสต์ช้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า
'พท.' ยันไม่ใช่เวลายื่นอภิปราย อ้างเปิดทางรัฐบาลแก้น้ำท่วมใต้ก่อน หวั่นฉวยยุบสภากระทบเยียวยา ปชช.
หัวหน้าพรรค พท.ชี้การติดตามตรวจสอบรัฐบาลไม่ได้หยุดนิ่ง แต่กระบวนการพูดคุยการยื่น หรือไม่ยื่นญัตติ ในช่วงนี้ขออนุญาตยังไม่พูดคุย

