การเคหะแห่งชาติชูไอเดีย Smart Home บ้านเพื่ออนาคต ลดการใช้ไฟฟ้า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

การเคหะแห่งชาติปรับปรุงแบบบ้านให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้า สนับสนุนการใช้วัสดุก่อสร้างและการออกแบบตัวอาคารให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย หนุนใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยในชุมชน การรันตีด้วยฉลากบ้านเบอร์ 5 โดยการรับรองตามเกณฑ์จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติมีนโยบายช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการของการเคหะแห่งชาติโดยเฉพาะด้านพลังงานและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดรับกับนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่เน้นย้ำ “การสร้างสังคมให้น่าอยู่” โดยเริ่มตั้งแต่การก่อสร้างที่คำนึงถึงความยั่งยืน ได้แก่ การออกแบบอาคารที่ลดการใช้พลังงาน การใช้วัสดุก่อสร้างหรือทรัพยากรที่เป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น การเคหะแห่งชาติได้นำหลักเกณฑ์ในการออกแบบสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับทุกคน (UNIVERSAL DESIGN) มาใช้เป็นแนวทางในการออกแบบวางผังโครงการที่อยู่อาศัยและออกแบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเข้าร่วมโครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยของการไฟฟ้าผลิตแห่งประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา รวมทั้งยกระดับการออกแบบที่อยู่อาศัยการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ และอุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5

ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน จังหวัดชลบุรี (บ่อวิน) ระยะที่ 2 เป็นหนึ่งในโครงการที่ผ่านเกณฑ์การประเมินประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านอยู่อาศัย (เบอร์ 5) และได้การรับรองแบบตามเกณฑ์ของบ้านเบอร์ 5 จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งได้ทำการประเมินผลการประหยัดพลังงาน พบว่าสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 415,000 หน่วยต่อปี ลดภาระค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของผู้พักอาศัยได้ประมาณ 1,660,000 บาทต่อปี และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประมาณ 210 ตันต่อปี นอกจากนี้ยังการันตีด้วยรางวัลอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น FIABCI-Thai Prix d'Excellence Awards 2023 ประเภทที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อย โดยสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล (FIABCI-Thai) เนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้วัสดุก่อสร้างและวัสดุประกอบอาคารเพื่อลดการใช้พลังงาน เมื่อเข้าพักอาศัยจะรู้สึกเย็นสบาย อีกทั้งการออกแบบตัวอาคารเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยอีกด้วย

ปัจจุบันการเคหะแห่งชาติมีแบบบ้านเบอร์ 5 ที่ได้รับการรับรองจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำนวน 16 โครงการ รวมทั้งสิ้น 3,963 หน่วย อาทิ โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนจังหวัดสุพรรณบุรี(อู่ยา 1) โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนจังหวัดปทุมธานี (รังสิตคลอง 5) โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนจังหวัดจันทบุรี โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนจังหวัดข่อนแก่น (เมืองเก่า - กรีนวิลล์ ขอนแก่น)ระยะที่ 2 ฯลฯ สามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 4.82 ล้านหน่วยต่อปี ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของผู้พักอาศัยได้ประมาณ 17.35 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 2,300 ตันต่อปี

“ในอนาคตการเคหะแห่งชาติมีแผนพัฒนาการออกแบบบ้านและอาคาร รวมถึงการใช้วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนการดำเนินมาตรการการใช้พลังงานในอาคารตามแผนอนุรักษ์พลังงานของประเทศที่ไม่ได้ช่วยแค่ประหยัดไฟ แต่ยังทำให้สังคมและสิ่งแวดล้อมน่าอยู่อน่างยั่งยืน ตามนโยบายการพัฒนาที่อยู่อาศัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

การเคหะแห่งชาติ ชูแนวคิด ปี 2569 “Go Green & Growth Together” เดินหน้าพัฒนาเมือง – ที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

การเคหะแห่งชาติสนองนโยบาย “พม. ใกล้คุณ” ของ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน ผ่านกระบวนการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุมชนและเมือง พร้อมบริการทางสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยบูรณาการด้านสิ่งแวดล้อม

การเคหะแห่งชาติรับมอบสิ่งของธารน้ำใจ จากชุมชนต่าง ๆ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้

พลเอก สุพจน์ มาลานิยม ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ ได้มอบเงินจำนวน 50,000 บาท ให้แก่การเคหะแห่งชาติ เพื่อใช้สำหรับจัดซื้อสิ่งของอุปโภค–บริโภคที่จำเป็นและเวชภัณฑ์ในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

การเคหะแห่งชาติห่วงใยประชาชนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในจังหวัดสงขลา พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

ภายใต้นโยบาย “พม.ใกล้คุณ” ของนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมุ่งเน้นการลงพื้นที่เชิงรุกและบูรณาการการทำงานของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวง เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสวัสดิการและความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ภัยพิบัติ การเคหะแห่งชาติจึงได้เร่งดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าวอย่างเข้มข้น เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง

NHA ส่งเสริมสุขภาพผู้ปฏิบัติงาน ด้วยกิจกรรม Work–Life Balance

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 การเคหะแห่งชาติ จัดโครงการ “ส่งเสริมสุขภาพกายและใจ ด้วย Work–Life Balance” โดยมีนายทวีพงศ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ

การเคหะแห่งชาติจัดพิธีถวายความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระพันปีหลวง

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 การเคหะแห่งชาติ โดยนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นำคณะผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงาน ร่วมพิธีถวายความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยได้จัดพิธีถวายราชสดุดีและถวายความอาลัย