
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 ภาพรวมผลการดำเนินงานปรับลดลง จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันปิโตรเลียมเทียบกับราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับตัวลดลง และการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน
นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า “ในไตรมาส 3/2567 กลุ่มไทยออยล์ขาดทุนสุทธิ 4,218 ล้านบาท สาเหตุจากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลกับราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลง เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันช่วงฤดูกาลขับขี่ในประเทศสหรัฐอเมริกา (สหรัฐฯ) ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และมีอุปทานเพิ่มขึ้นจากโรงกลั่นน้ำมันใหม่ ทำให้ระดับน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และประเทศจีนยังคงอ่อนแอ ในส่วนธุรกิจอะโรเมติกส์ปรับตัวลดลงเช่นกันจากส่วนต่างราคาสารพาราไซลีนกับน้ำมันเบนซิน 95 ที่ปรับลดลงจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจภายในประเทศจีนที่ยังคงเปราะบาง นอกจากนี้ ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดปรับลดลงเล็กน้อยจากอุปสงค์ที่ถูกกดดันในช่วงฤดูมรสุมในประเทศอินเดีย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่ธุรกิจผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานปรับตัวดีขึ้นจากต้นทุนราคาน้ำมันเตาที่ลดลง
ราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 3/2567 ปรับลดลงจากราคาเฉลี่ยในไตรมาส 2/2567 จากตัวเลขการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของประเทศจีนต่ำกว่าคาดการณ์ รวมถึงการหดตัวของภาคการผลิต (PMI) ในประเทศสหรัฐฯ และจีน ทำให้อุปสงค์น้ำมันโลกเติบโตในระดับจำกัด ส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน 5,380 ล้านบาท หรือ 5.4 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มรวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันลดลง 7.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลจากไตรมาส 2 ของปี 2567”
นายบัณฑิตฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับภาพรวมธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันในไตรมาสที่ 4 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันในช่วงฤดูหนาว รวมถึงการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว ในขณะที่ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังปรับลดลงจากไตรมาสที่ 3 ส่งผลให้ส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานกับราคาน้ำมันดิบดูไบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น สำหรับปี 2568 ถึงแม้ว่าอุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปจะเพิ่มขึ้น แต่อุปทานจากโรงกลั่นน้ำมันใหม่ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทั้งจากในประเทศจีน และเม็กซิโก ที่จะทยอยเปิดดำเนินการในปีนี้และปีหน้า ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าการกลั่นปรับเพิ่มขึ้นในระดับจำกัด
ทั้งนี้ ไทยออยล์จะติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทาง การแข่งขันในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการเร่งรัดการก่อสร้างโครงการพลังงานสะอาดให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด ตลอดจนแสวงหาโอกาสในธุรกิจใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ Megatrends เพื่อมุ่งเติบโตเป็นองค์กร 100 ปี อย่างมั่นคง ภายใต้วิสัยทัศน์ สร้างสรรค์คุณภาพชีวิต ด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยออยล์รับรางวัล 2025 Mercer Best Employers Thailand
คุณจิราภรณ์ กมลอินทร์ ผู้จัดการแรงงาน/พนักงานสัมพันธ์ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) รับมอบรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นประเทศไทย ประจำปี 2568 (2025 Mercer Best Employers Thailand) จาก คุณพิรทัต ศรีสัจจะเลิศวาจา, กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์เซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
ไทยออยล์ ได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ประจำปี 2568 ในระดับสูงสุด AAA ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับการประเมินสูงสุด ระดับ AAA เป็นปีที่ 3 จากการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ประจำปี 2568
ไทยออยล์ จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2568 อนุมัติโครงการบริหารจัดการทรัพย์สินเพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 – บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2 ประจำปี 2568 เพื่อพิจารณาโครงการบริหารจัดการทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ไทยออยล์คว้ารางวัลเกียรติคุณ การเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน Sustainability Disclosure Award ประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลเกียรติคุณการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน “Sustainability Disclosure Award” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 จากงานมอบรางวัลการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน ประจำปี 2568 จัดโดยสถาบันไทยพัฒน์
ไทยออยล์ร่วมบรรจุถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดสงขลา
คุณบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) นำทีมผู้บริหาร พร้อมด้วยพนักงานจิตอาสา ร่วมบรรจุถุงยังชีพกว่า 400 ใบ เพื่อส่งต่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ จ.สงขลา โดยภายในถุงยังชีพประกอบด้วยอาหารแห้ง น้ำดื่ม ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็นสำหรับการดำรงชีพในช่วงวิกฤต ณ อาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์
ไทยออยล์ได้รับคะแนนประเมิน CGR ระดับ "ดีเลิศ" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 17
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” (Excellent) หรือ 5 ตราสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุด

