ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 3/2568 ว่า ที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้าผลไม้ (ทุเรียน ลำไย และมะม่วง) ระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเน้นย้ำเรื่องการดูแลสุขอนามัยพืชให้ปลอดสารเคมี (Food Safety) และเร่งส่งรายชื่อล้งที่มีความปลอดภัยสูง จำนวน 307 ล้ง ให้ทางการจีนตรวจสอบเพื่อสร้างความมั่นใจในตัวสินค้าเกษตรไทย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้ง มีมติเห็นชอบแผนติดตามและบริหารความเสี่ยงในการดำเนินงานบริหารจัดการผลไม้ ปี 2568 ในช่วงพฤษภาคม-มิถุนายน ที่กำลังจะออกผลผลิตสู่ท้องตลาด ได้แก่ เตรียมการบริหารจัดการน้ำ การควบคุมผลผลิตให้ได้มาตรฐาน ป้องกันการสวมสิทธิ์ การเพิ่มประสิทธิภาพห้องปฏิบัติการตรวจรับรองผล การสุ่มตรวจคุณภาพผลไม้อย่างเข้มข้น การส่งเสริมองค์ความรู้ให้เกษตรกรเตรียมการรับมือภัยแล้งและพายุฤดูร้อน (Climate Change) และประชาสัมพันธ์ให้เกิดการบริโภคผลไม้ในประเทศ รวมถึงอำนวยความสะดวกการค้าระหว่างแดนและข้ามแดน
“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะดูแลคุณภาพสินค้าให้มีมาตรฐานและมีความปลอดภัย เพื่อส่งต่อให้กระทรวงพาณิชย์ทำงานได้สะดวกในด้านการส่งออกและการกระจายสินค้าภายในประเทศ ทั้งนี้ ขอให้คณะกรรมการและทุกภาคส่วนบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษามาตรฐานและยกระดับสินค้าเกษตรไทยอย่างเคร่งครัด อีกทั้งช่วยป้องกันผลผลิตล้นตลาด ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ และผู้บริโภคได้รับสินค้าที่มีคุณภาพดี” ศ.ดร.นฤมล กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานตามแผน/มาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2568 ด้านตลาดและการตลาด โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามสถานการณ์ด้านการผลิตการตลาดในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และดำเนินการจัดหาคำสั่งซื้อล่วงหน้าผ่านภาคีเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน จัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ในพื้นที่แหล่งบริโภคที่มีศักยภาพสูง (Thai Fruits Festival) เช่น ห้าง Modern Trade ห้างท้องถิ่น ตลาดกลาง ตลาดค้าส่ง-ค้าปลีก แหล่งชุมชน งานธงฟ้า ฯลฯ เพื่อเร่งเชื่อมโยงระบายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตในช่วงที่ออกสู่ตลาดมากต่อไป อีกทั้ง ร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สนับสนุนบรรจุภัณฑ์พร้อมค่าขนส่ง (กล่องขนาดบรรจุ 10 กก. และตะกร้า 5 กก.) รวม 200,000 ชิ้น เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการขนส่งให้กับเกษตรกรในการจำหน่ายผลผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรงผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งกำหนดเป้าหมายบริหารจัดการผลไม้ 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.68) อยู่ที่ 122,500 ตัน
สำหรับสถานการณ์การผลิตและข้อมูลเอกภาพไม้ผลภาคตะวันออก ปี 2568 ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ของ 3 จังหวัดภาคตะวันออก (ระยอง จันทบุรี ตราด) ปี 2568 มีเนื้อที่ยืนต้นรวม 996,047 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีจำนวน 958,608 ไร่ (เพิ่มขึ้น 37,439 ไร่ หรือร้อยละ3.91) เนื้อที่ให้ผลรวม 745,430 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีจำนวน 680,838 ไร่ (เพิ่มขึ้น 64,592 ไร่ หรือร้อยละ 9.49) ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 1,742 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 1,468 กิโลกรัม (เพิ่มขึ้น 274 กิโลกรัม หรือร้อยละ 18.66) มีปริมาณผลผลิตรวม 1,298,482 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีจำนวน 999,211 ตัน (เพิ่มขึ้น 299,271 ตัน คิดเป็นร้อยละ 29.95) ปริมาณผลผลิตไม้ผลทั้ง 4 ชนิด ในปีนี้เพิ่มขึ้นเนื่องจากปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญและสภาพอากาศแปรปรวน ปริมาณผลผลิตน้อย จึงทำให้ได้พักต้นสะสมอาหาร สภาพต้นสมบูรณ์พร้อมออกดอกติดผลได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับปีนี้สภาพอากาศหนาวเย็น เอื้ออำนวยต่อการออกดอกและติดผล โดยผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่เพิ่มขึ้นทั้ง 4 ชนิด ประกอบกับทุเรียนที่ปลูกในระยะหลายปีที่ผ่านมา เริ่มให้ผลผลิตเป็นปีแรกเพิ่มขึ้น จำนวน 72,908 ไร่ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.69
ทั้งนี้ แม้ในบางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกชุกในช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคม 2568 ทำให้ดอกและผลเล็กร่วง แต่ภาพรวมผลผลิตรวมของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา สำหรับการกระจายตัวของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด เริ่มทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนตุลาคม 2568 โดยจะออกกระจุกตัวสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2568 คิดเป็นร้อยละ 40.87 ของผลผลิตทั้งหมด
ในส่วนสถานการณ์การผลิตและข้อมูลประมาณการไม้ผลภาคใต้ ปี 2568 ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ของ 14 จังหวัดภาคใต้ ปี 2568 มีเนื้อที่ยืนต้นรวม 1,256,652 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีจำนวน 1,214,015 ไร่ (เพิ่มขึ้น 42,637 ไร่ หรือร้อยละ 3.51) เนื้อที่ให้ผลรวม 1,000,882 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีจำนวน 970,071 ไร่ (เพิ่มขึ้น 30,811 ไร่ หรือร้อยละ 3.18) ปริมาณผลผลิตรวม 923,250 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีจำนวน 712,406 ตัน (เพิ่มขึ้น 210,844 ตัน หรือร้อยละ 29.60) ปริมาณผลผลิตไม้ผลทั้ง 4 ชนิด ในปีนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นผลจากสภาพอากาศหนาวเย็น เอื้ออำนวยต่อการออกดอกติดผลในขณะที่ปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญและสภาพอากาศแปรปรวน ปริมาณผลผลิตน้อยจึงทำให้ได้พักต้นสะสมอาหาร สภาพต้นสมบูรณ์พร้อมออกดอกติดผลได้อย่างเต็มที่ โดยผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่เพิ่มขึ้นทั้ง 4 ชนิด ประกอบกับต้นทุเรียนที่ปลูกในระยะหลายปีที่ผ่านมาเริ่มให้ผลผลิตเป็นปีแรกเพิ่มขึ้นมากทำให้ภาพรวมผลผลิตรวมของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา สำหรับการกระจายตัวของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด เริ่มทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนธันวาคม 2568 โดยจะออกกระจุกตัวสูงสุดในเดือนสิงหาคม 2568 มีปริมาณ 250,382 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 27.12 ของผลผลิตทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อปริมาณและคุณภาพผลผลิตของไม้ผลทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำในหลายพื้นที่ให้เพียงพอ ทั้งนี้ เกษตรกรควรเตรียมความพร้อมรับมือใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ กักเก็บน้ำ ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการบริหารจัดการน้ำและหน่วยงานที่ข้องเร่งบูรณาการวางแผนจัดสรรน้ำให้เพียงพอเพื่อรองรับการผลิตผลไม้ภาคใต้ตลอดฤดูกาลเก็บเกี่ยว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“รมว.นฤมล”เร่งสำรวจความเสียหายโรงเรียน หลังน้ำท่วมหาดใหญ่ เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติงบฟื้นฟูให้กลับมาเปิดเรียนโดยเร็ว ชี้ เด็กสามารถมาเรียนได้ โดยไม่ต้องใส่ชุดนักเรียน หลังทรัพย์สินเสียหายจากน้ำท่วม
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม เวลา 15.40 น.ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจสภาพความเสียหายบริเวณวงเวียนสายสงขลา–หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
Fix It Center เต็มกำลัง! “รมว.นฤมล”ตระเวนทั่วหาดใหญ่ตรวจความพร้อม กำชับ เร่งงาน รวดเร็ว ปลอดภัย และทั่วถึง ช่วยชาวบ้านซ่อมของเสียจากน้ำท่วม
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายสุเทพ แก่งสันเทียะ
'นฤมล' ยันดูแล 'นร.-ครอบครัว' ประสบภัยน้ำท่วมสำคัญสุด เร่งฟื้นฟูโรงเรียนทุกแห่ง กลับสู่ภาวะปกติ
‘รมว.นฤมล’ ลุยฟื้นหาดใหญ่หลังน้ำลด สั่งเร่งกู้โรงเรียนเสียหายหนัก ตั้ง 50 ศูนย์ Fix It ช่วยซ่อมของประชาชนกว่า 1 หมื่นคัน ย้ำ จะเคียงข้าง ปชช.จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
“รมว.นฤมล”นำถก บอร์ด ก.ค.ศ. ไฟเขียว ย้ายครูปี 69 ไม่สะดุด ใช้เกณฑ์เดิม “ว 18/2566” ชั่วคราว ระหว่างพัฒนาระบบ TRS ระยะที่ 3 คุมเข้มการย้ายครู ต้องโปร่งใสทุกขั้นตอน
วันที่ 27 พ.ย. 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2568 ว่า จากการลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคของพี่น้องข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ผ่านมา การเก็บข้อมูลเชิงวิจัย รวมทั้งการหารือร่วมกับคณะกรรมการในที่ประชุม
‘รมว.นฤมล’ ระดมทุกวิทยาลัยลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมใต้-อพยพ-แจกอาหารน้ำ-เปิดศูนย์พักพิง พร้อมส่งทีม Fix It ฟื้นฟูหลังน้ำลด ส่งกำลังใจให้ชาวใต้และ จนท.สู้ไปด้วยกันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายจังหวัดภาคใต้ว่า กระทรวงศึกษาธิการได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัด (สอจ.) เร่งเข้าพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนโดยทันที พร้อมประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่ว
‘รมว.นฤมล’ หารือ CLEC จีน กระชับความร่วมมือด้านภาษาจีน-อาชีวศึกษา ดันทุนครูไทย เพิ่มห้องเรียนขงจื่อ พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล
ศ.ดร.นฤมล ได้นำเสนอนโยบายและทิศทางการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย พร้อมเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทย–จีน และความสำคัญของการยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ภาษาจีนให้ทันสมัยและตอบโจทย์อนาคต


