ลิเวอร์พูลทำสำเร็จ ตีตั๋วเข้าชิงฯเอฟเอคัพหนแรกในรอบทศวรรษ

ลิเวอร์พูล บดเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แช่งลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ด้วยสกอร์หวุดหวิด 3-2 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบรองฯ เมื่อคืนวันเสาร์ ผ่านเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยรายการนี้ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษหลังนำทีมเรือใบที่สบักสะบอมมาจากเกมสุดเดือดกับแอตเลติโก มาดริดถึง 3 ลูกตั้งแต่ครึ่งแรก
          เกมนัดนี้หลายคนว่าจบไปแล้วสำหรับซิตี้ตั้งแต่ก่อนเริ่มเกมการแข่งขัน เนื่องจากต้องขาดขุนพลคนสำคัญอย่าง เควิน เดอ บรูย์น ที่ได้รับบาดเจ็บจาเกกับ แอตเลติโก มาดริด ขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆก็หมดสภาพจาเกมศึกหนักที่ ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ ยิ่งเห็นรายชื่อที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ประกาศออกมาก่อนหน้าคิกออฟเกมที่เวมบลี่ย์ราวหนึ่งชั่วโมง ก็น่าจะแบเบอร์แล้วสำหรับทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ หลังจากที่แบ็คโฟร์ตัวหลัก 3 คนหายไปจาก 11 คนแรก แม้แต่ผู้รักษาประตูก็ต้องใช้บริการ แซ็ค สเตฟเฟน แทน เอแดร์สัน รวมแล้วตัวหลักหาย 7 คน ตอกย้ำด้วยการที่บอสทีมเรือใบสีฟ้า ยอมรับก่อนเกมว่า จำเป็นต้องทุ่มไปที่พรีเมียร์ลีกกับแชมเปี้ยนส์ลีกมากกว่า
          หันไปดูทาง เจอร์เกน คล็อปป์ ก่อนหน้านี้สามารถพักผู้เล่นตัวหลักได้หลายคนในเกมกับ เบนฟิกา ตอกย้ำด้วยการประกาศรายชื่อออกมาก่อนเกมว่า 11 ตัวแรกชอง ลิเวอร์พูล ล้วนตัวหลัก
          และเพียงแค่ 9 นาที ลิเวอร์พูล ก็ขึ้นนำ จาก อิบราฮิมา โนาเต้ และ ซาดิโอ มาเน่ เหมา 2 ลูกให้ ทีมนำห่าง 3 ลูกตั้งแต่ก่อนพักครึ่ง ในนาทีที่ 17 และ 45
          ครึ่งหลังกลับมาเล่นได้ 2 นาที แจ็ค กรีลิช ยิงให้ ซิตี้ ตีไข่แตกได้ แต่สกอร์กว่าจะขยับอีกครั้งก็เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ เบร์นาร์โด ซิลวา ช่วยให้ ทีมเรือใบสีฟ้า ไล่มาเป็น 3-2 ในาทีที่ 90+1 ก่อนจะจบเกม ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายชนะไป 3-2 ทะยานเข้าไปรอเตะนัดชิงชนะเลิศต่อไป
          ส่วนครั้งสุดท้าย ที่ ลิเวอร์พูล ได้เข้าถึงนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลรายการนี้ เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2011-2012 ครั้งนั้นแพ้ เชลซี 1-2

เพิ่มเพื่อน