ศึกลูกหนังเวิลด์ คัพ 2022 ที่ประเทศกาตาร์ คืนวันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน นี้ เข้าสู่การแข่งขันในแมตช์ที่ 3 แมตช์สุดท้ายของแต่ละทีมในรอบแบ่งกลุ่ม โดยกลุ่มเดียวกันจะเตะเวลาเดียวกัน เพราะจะได้ไม่รู้สกอร์ได้-เสีย เอาเปรียบกัน เกมที่น่าสนใจในกลุ่ม B ขุนพล "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ จะลงทำศึกสายเลือดบริติช พบ "มังกรแดง" ทีมชาติเวลส์ โดยมีตั๋วรอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นเดิมพัน ฟาดแข้งกันที่ อาหมัด บิน อาลี สเตเดียม เวลา 02.00น. ตามเวลาประเทศไทย ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ถ่ายทอดสด
- สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม
อังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของ แกเร็ธ เซาต์เกธ ชวดคว้าตั๋วรอบน็อกเอาท์ตั้งแต่เกมที่แล้วหลังทำได้แค่เสมอกับสหรัฐอเมริกา ไปแบบไร้สกอร์ 0-0 เกมนี้พวกเขาขอแค่ผลเสมอเป็นอย่างน้อย ก็จะผ่านเข้ารอบทันที แต่ถ้าจบด้วยผลเสมอ หรือแพ้ ต้องไปลุ้นผลการแข่งขันอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน โดยเกมรุกของทีมดูเหมือนจะมีปัญหาพอสมควร ไม่สามารถเจาะแนวรับทีมจากแดนลุงแซมได้ ทำให้ต้องมาลุ้นเหนื่อยในเกมนี้ คาดว่าทีมอาจมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นในเกมรุก ราฮีม สเตอร์ลิง และเมสัน เมาท์ ที่ฟอร์มแย่จากเกมก่อนอาจถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง แล้วส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด, แจ็คกรีลิช หรือฟิล โฟเดน ลงเป็น 11 คนแรก ในส่วนของปีกขวาน่าจะยังไว้วางใจ บูกาโย ซากา ตัวรุกดาวรุ่งจากอาร์เซนอล
ในขณะที่ตำแหน่งศูนย์หน้า แฮร์รี เคน เป้าสะอาดมาแล้ว 2 เกมติดต่อกัน เกมนี้เจ้าตัวหวังทำประตูให้ได้เพื่อช่วยทีมคว้าตั๋วเข้ารอบน็อกเอาท์ต่อไป ขณะที่แผงมิดฟิลด์น่าจะยังใช้บริการ 2 นักเตะที่ฟอร์มคงเส้นคงวา และกำลังเข้าขากันดี ทั้ง ดีแคลน ไรซ์ และจูด เบลลิงแฮม ด้านเกมรับ แฮร์รี แม็กไกวร์ จะยังได้ประจำการคู่กับ จอห์น สโตนส์ โดยมี คีแรน ทริปเปียร์ และลุค ชอว์ ยืนวิงแบ็คขวา-ซ้าย ตามเดิม
ด้าน เวลส์ ของกุนซือโรเบิร์ต เพจ ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในเกมที่แล้ว ต้องเหลือ 10 คนท้ายเกม และพ่ายแพ้ให้อิหร่าน 0-2 โดยเกมรับปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสยิงมากถึง 21 ครั้งเลยทีเดียว ซึ่งเกมนี้พวกเขามีเงื่อนไขเดียวเท่านั้นคือต้องเอาชนะอังกฤษให้ได้ ถึงจะได้ลุ้นเข้ารอบน็อกเอาท์ต่อไป อย่างไรก็ตาม "มังกรแดง" จะชวดใช้งาน เวย์น เฮนเนสซี นายทวารมือหนึ่งที่โดนใบแดงไล่ออกจากเกมที่แล้ว ต้องเปลี่ยนมาใช้ แดนนี วอร์ด ยืนเฝ้าเสาแทน
ขณะที่เกมรุกของทีมถูกวิจารณ์พอสมควรเพราะยังทำประตูจากจังหวะโอเพนเพลย์ไม่ได้ 2 นัดที่ผ่านมายิงได้แค่ลูกเดียวจากจุดโทษในเกมพบ สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะยังนำทัพมาโดย แกเร็ธ เบล ปีกตัวเก่งของทีม โดยมี แฮร์รี วิลสัน คอยปั่นป่วนทางฝั่งซ้าย และใช้ อารอน แรมซีย์ คุมแดนกลางร่วมกับ อีธาน อัมปาดู ด้านเกมรับทั้ง เบน เดวีส์, โจ โรดอน และคริส เมแฟม น่าจะต้องรับภาระหนักในการรับมือแนวรุกของ "สิงโตคำราม"
- ผู้เล่นที่น่าจับตามอง
อังกฤษ มีแนวรุกหลายคนที่น่าสนใจ แต่ผู้เล่นที่น่าจับตามองยังคงเป็น แฮร์รี เคน หัวหอกจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ในฟุตบอลโลก 2022 ยังเบิกสกอร์แรกให้ตัวเองไม่ได้ โดยเกมนี้เขามุ่งมั่นตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะพังตาข่าย เวลส์ ให้ได้
ทางฝั่ง เวลส์ แน่นอนว่าซูเปอร์สตาร์ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด ได้แก่ แกเร็ธ เบล ที่พอจะฝากผีฝากไข้ได้อยู่บ้าง ถึงแม้สภาพร่างกายจะไม่ได้ฟิตเหมือนตอนหนุ่มๆ แต่ตอนนี้เจ้าตัวคือหัวใจสำคัญของทัพ "มังกรแดง" ในเกมเล่นเกมรุก
- สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม
ทั้งสองทีมถือเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงที่อยู่ในเครือสหราชอาณาจักรเหมือนกัน หากนับเฉพาะเกมที่ฟีฟ่าให้การรับรอง เคยด้วลแข้งกันมาทั้งสิ้น 12 นัด อังกฤษ ข่มมิด เอาชนะไปได้ถึง 11 นัด เสมอ 1 นัด โดย เวลส์ ไม่เคยเอาชนะได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว โดยเงื่อนไขการเข้ารอบของคู่นี้ "สิงโตคำราม" ขอแค่ผลเสมอก็จะเพียงพอต่อการคว้าตั๋วรอบ 16 ทีมสุดท้ายทันที ขณะที่ "มังกรแดง" ไฟต์บังคับต้องเก็บชัยให้ได้เท่านั้น
คู่นี้ดูแล้ว"สิงโตคำราม" อังกฤษ เหนือกว่าทั้งขุมกำลัง และสถิติการเจอกันก็เหนือกว่าเวลส์มาก คืนนี้อังกฤษจะเป็นฝ่ายคว้าชัยได้ไม่ยาก พร้อมคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีม ตามมหาอำนาจลูกหนังโลก อย่าง บราซิล,ฝรั่งเศสและโปรตุเกส ที่เข้าไปรอแล้ว
- คู่อื่นๆ ในวันเดียวกัน
กลุ่ม A เอกวาดอร์ พบ เซเนกัล เวลา 22.00 น. CH8 หมายเลข 27 และทรูฯ ถ่ายทอดสด เกมนี้สูสีเป็นอย่างมาก ดูแล้วอาจออกผลเสมอ แต่ถ้าให้เลือกฝั่งชนะ เอกวาดอร์ มีทีเด็ดมากกว่า
กลุ่ม A เนเธอร์แลนด์ พบ กาตาร์ เวลา 22.00น. ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ถ่ายทอดสด ทีมจากแดนกังหันลมเหนือกว่าเจ้าภาพที่ตกรอบไปแล้วหลายขุม โดย เนเธอร์แลนด์ กำลังลุ้นเข้ารอบ ไม่น่าพลาดที่จะเก็บชัย
กลุ่ม B อิหร่าน พบ สหรัฐอเมริกา เวลา 02.00น. จีเอ็มเอ็ม 25 และทรูฯ ถ่ายทอดสด คู่นี้ถือมีความสำคัญทั้งเรื่องในสนาม และนอกสนาม ทั้งสองทีมดูสูสีเป็นอย่างมาก แต่ดูแล้ว อิหร่าน มีแรงฮึด และทีเด็ดมากกว่า
