
ธีรพงศ์ ศิลาชัย ยกเหล็กหนุ่มวัย 20 ปี จอมพลังจาก ต.กระหวัน อ.ขุนหาญ ศรีสะเกษ ยกสุดพลัง ไม่พลาดเลยแม้แต่หนเดียว ผงาดคว้าเหรียญเงินในปารีสเกมส์ สำเร็จ หลังทำน้ำหนักจบเป็นอันดับที่ 2 ในรุ่น 61 กิโลกรัม ชาย ถือเป็นเหรียญรางวัลที่ 3 ของทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิก 2024
การแข่งขันกีฬายกน้ำหนัก ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส วันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา รุ่น 61 กิโลกรัม ชาย ธีรพงศ์ ศิลาชัย ยกเหล็กหนุ่มวัย 20 ปี ลงทำการชิงเหรียญทอง
เริ่มจากท่าสแนช ธีรพงศ์ ศิลาชัย เริ่มเรียกน้ำหนัก 127 กิโลกรัม ยกผ่านแบบไม่มีปัญหา เช่นเดียวกับครั้งที่ 2 และ 3 ที่เรียกน้ำหนัก 130 กับ 132 กิโลกรัม ตามลำดับ จบท่านี้เจ้าตัวรั้งออันดับ 3 ในตาราง เป็นรองแค่ หลี่ ฟาปิน เจ้าของสถิติโลกคนปัจจุบันจากจีน ที่ยกได้ 143 กิโลกรัม ทำลายสถิติโอลิมปิกเกมส์ และอินโดนีเซีย ที่ยกได้ 135 กิโลกรัม
มายกกันต่อในท่าคลีน แอนด์ เจิร์ก ยกเหล็กหนุ่มจากจังหวัดศรีสะเกษ เรียกน้ำหนักครั้งแรกที่ 167 กิโลกรัม โดยยกผ่านแบบไม่มีปัญหา ส่วนครั้งที่ 2 เรียกน้ำหนักที่ 169 กิโลกรัม แม้จะมีไฟแดงติด 1 ดวง แต่ก็ยังผ่าน ส่วนครั้งที่ 3 เจ้าตัวเรียกน้ำหนัก 171 กิโลกรัม ก็ยังคงผ่านฉลุย รวม 2 ท่า ทำได้ 303 กิโลกรัม ดีพอจบอันดับที่ 2 คว้าเหรียญเงินไปครอบครอง
ส่วนอันดับ 1 เป็นของเต็งหนึ่ง และเจ้าของสถิติโลกท่าสแนช อย่าง หลี่ ฟาปิน จากประเทศจีน ที่ทำน้ำหนักรวม 310 กิโลกรัม (สแนช 143 กก., คลีน แอนด์ เจิร์ก 167 กก.) คว้าเหรียญทองไปครอง และอันดับ 3 เป็นของ มอร์ริส แฮมป์ตัน จากสหรัฐอเมริกา ทำน้ำหนักรวมได้ 298 กิโลกรัม (สแนช 126 กก., คลีน แอนด์ เจิร์ก 172 กก.)
ทั้งนี้ถือเป็นการคว้าเหรียญในกีฬายกน้ำหนักโอลิมปิกเกมส์ เหรียญที่ 15 ของนักยกเหล็กจากไทย หลังก่อนหน้านี้ได้รวมกันมาทั้งหมด 14 เหรียญ แบ่งเป็น ทอง 5 เหรียญ เงิน 2 เหรียญ และทองแดง 7 เหรียญ และกลายเป็นนักกีฬายกน้ำหนักชายของไทยคนที่ 2 ที่มีเหรียญรางวัลในโอลิมปิกติดไม้ติดมือกลับบ้าน ต่อจาก สินธุ์เพชร กรวยทอง ที่ได้เหรียญทองแดง ที่ริโอเกมส์ ปี 2016
พร้อมกันนี้ ธีรพงศ์ ศิลาชัย ยังขึ้นแท่นนักกีฬายกน้ำหนักคนที่ 13 ของไทย ที่คว้าเหรียญในโอลิมปิกเกมส์สำเร็จ ต่อจาก เกษราภรณ์ สุตา (ทอง 2000), ปวีณา ทองสุก (ทอง 2004), อุดมพร พลศักดิ์ (ทอง 2004), อารีย์ วิรัฐถาวร (ทองแดง 2004), วันดี คำเอี่ยม (ทองแดง 2004 กับ 2008), ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล (ทอง 2008), เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล (ทองแดง 2008), พิมศิริ ศิริแก้ว (เงิน 2012 กับ 2016), ศิริภุช กุลน้อย (ทองแดง 2012), โสภิตา ธนสาร (ทอง 2016), สุกัญญา ศรีสุราช (ทอง 2016) และสินธุ์เพชร กรวยทอง (ทองแดง 2016)
นอกจากนี้การคว้าเหรียญเงินในปารีสเกมส์ ทำให้ ธีรพงศ์ ศิลาชัย ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย (NSDF) 7.2 ล้านบาท หากเลือกการรับเงินแบบแบ่งจ่ายโดยรับก่อน 50% และที่เหลืออีก 50% จะจ่ายรายเดือนในเวลา 4 ปี แต่หากเลือกรับก้อนเดียวเต็ม จะได้อยู่ที่ 6 ล้านบาท
โดยเหรียญเงินในกีฬายกน้ำหนักของ ธีรพงศ์ ถือเป็นเหรียญรางวัลที่ 3 ของทัพนักกีฬาไทยในปารีสเกมส์ ต่อจาก กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (เหรียญเงิน แบดมินตัน) และจันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง (เหรีญทองแดง มวยสากลสมัครเล่น)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฟุตซอลไทยแพ้ทางอินโดฯ ชุดU16พ่าย3-4 จบรองแชมป์อาเซียน2025
วันที่ 29 ธันวาคม 2568 เวลา 16.00 น. ณ นนทบุรี สเตเดียม การแข่งขันฟุตซอลชายชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี 2025 รอบชิงชนะเลิศ ฟุตซอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ลงสนามพบกับ อินโดนีเซีย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี
'แล็กลัน'ล็อกเข่า'มาร์เซโล' คว้ารางวัล'ซับมิชชันยอดเยี่ยม' ประจำปี2568
ตลอดปี 2568 ได้มีเหล่าสุดยอดนักกีฬาการต่อสู้หลายรายในการแข่งขัน MMA และปล้ำจับล็อกที่สามารถเผด็จศึกคู่ต่อสู้ได้อย่างสวยงามด้วยท่าซับมิชชัน ซึ่งการปิดเกมด้วยการซับมิชชันที่ ONE ยกให้เป็น “ซับมิชชันยอดเยี่ยม ประจำปี 2568” อันดับ 1 เกิดขึ้นในการแข่งขันคู่ระหว่าง “แล็กลัน ไจลส์” นักรัดดาวดังจากออสเตรเลียที่เปิดตัวใน ONE พบกับ “มาร์เซโล การ์เซีย” เจ้าตำนานนักรัดจากบราซิล ในกติกาปล้ำจับล็อก รุ่นไลต์เวต (155-170 ป.) ในศึก ONE Fight Night 38 เมื่อ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา
โรบินฮู้ดพาราไทยฟิตเต็มร้อย ตั้งเป้าคว้า4เหรียญทอง อาเซียนพาราเกมส์ที่โคราช
ความเคลื่อนไหวของทัพยิงธนูพาราทีมชาติไทย ก่อนลงทำศึก อาเซียนพาราเกมส์ 2025 ช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ล่าสุดประกาศความพร้อมเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว หลังเก็บตัวฝึกซ้อมเข้มอย่างต่อเนื่อง ณ ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
พรีเมียร์ลีกเตะมาราธอนข้ามปี 'หงส์-เรือ-สิงห์-ผี-ปืน'เขย่าศักราชใหม่ Monomaxสดไม่มีพัก
ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ระเบิดความมันส์ต่อเนื่องแบบไม่มีพัก กับโปรแกรมการแข่งขันสุดเข้มข้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่อัดแน่นต่อเนื่องยาวตั้งแต่ คืนวันพุธที่ 31 ธันวาคม 2568 ไล่ยาวข้ามศักราชไปจนถึงเช้ามืด วันจันทร์ที่ 5 มกราคม 2569 ในรูปแบบ “มาราธอนฟุตบอล” ครบทุกอรรถรสทั้งเกมลุ้นแชมป์ เกมแย่งท็อปโฟร์ และศึกหนีตกชั้น ซึ่ง Monomax ถ่ายทอดสดครบทุกคู่และบางคู่ผ่านหน้าจอ ช่อง MONO29

