คริสเตียโน โรนัลโด กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ขึ้นแทนเป็นนักเตะที่เก็บชัยชนะกับทีมชาติมากที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังพาทีม “ฝอยทอง” เปิดบ้านชนะไล่ถล่ม โปแลนด์ 5-1 ในศึกยูฟ่า เนชันส์ ลีก เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
การแข่งขันที่สังเวียน เอสตาดิโอ โด ดราเกา ทัพ “ฝอยทอง” ทำ 5 ประตูในครึ่งหลัง จาก ราฟาเอล เลเอา นาทีที่่ 59, คริสเตียโน โรนัลโด ทำ 2 ประตูนาทีที่ 72 (จุดโทษ) และ 87 ส่วนอีก 2 ประตู ได้จาก บรูโน แฟร์นันด์ส และ เปโดร เนโต ขณะที่ทีมเยือนตีไข่แตกจาก โดมินิค มาร์ชซุค นาทีที่ 88
จากชัยชนะในเกมนี้ส่งผลให้ โรนัลโด เก็บชัยชนะกับ โปรตุเกส เป็นเกมที่ 132 ขึ้นแท่นเป็นนักเตะที่คว้าชัยกับทีมชาติมากที่สุดในโลก หลังจากที่ก่อนหน้านี้สถิติของเขาเทียบเท่ากับ เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังทีมชาติสเปน ที่ 131 เกม ส่วนอันดับ 3 เป็นของ อีเคร์ คาซิยาส ที่ 121 เกม
2 ประตูในแมตช์นี้ ทำให้เจ้าตัวเพิ่มสถิติทำประตูกับทีมชาติเป็น 135 ลูก รวมแล้วตลอดอาชีกเจ้าตัวกดไปแล้ว 910 ประตู โดยประตูหลัก 900 โรนัลโด้ ทำได้ในเกมกับ โปรตุเกส เมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา
“เอาตามตรง ผมไม่ได้คิดเกี่ยวกับสถิติ 1,000 ประตูในอาชีพเลย แน่นอนว่าคุณต้องการทำสถิติอยู่เสมอ แต่ผมไม่ได้โฟกัสสถิตินั้นในตอนนี้” โรนัลโด กล่าวกับสื่อหลังจบเกม
ด้าน โรแบร์โต มาร์ติเนซ เฮดโค้ชโปรตุเกส ให้สัมภาษณ์หลังพาทีมถล่ม โปแลนด์ ขาดลอย 5-1 ว่า “นี่เป็นเกมที่มีสองส่วน ในครึ่งแรกนั้นแย่เอามากๆ สำหรับสิ่งที่เราต้องการทำ เราสูญเสียโฟกัส และก็หงุดหงิดพอสมควร”
“แต่ครึ่งหลังเป็นครึ่งที่ดีสุดที่ผมเคยเห็น มันไม่ง่ายในการเอาชนะทุกเกม และยิงได้ถึงห้าประตูในครึ่งเดียว แน่นอนการชนะต่อหน้าแฟนบอลก็มีความพิเศษด้วย”
“สำหรับ วิตินญา เขาลงมาเป็นตัวสำรอง และทำผลงานได้ดีมาก ความแตกต่างระหว่างสองทีมไม่ใช่นักเตะเพียงคนเดียว เราปรับเปลี่ยนแนวคิด และเพิ่มความเข้มข้นจริงจังในการเล่น รวมถึงช่วยเหลือกัน และกัน เราไม่ปล่อยให้โปแลนด์ได้เล่นในเกมของเขา” เฮดโค้ชทัพฝอยทอง ปิดท้าย
