'แฟร์เท็กซ์ ไฟท์-ไทวัสดุ แชมป์ฯซีซั่น3' ทุ่มอัดฉีด3แชมป์เปี้ยน มูลค่ารวมกว่า1ล้าน

ไทวัสดุ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าเพื่อบ้าน ภายใต้ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ประกาศความสำเร็จในการจัดการแข่งขันมวยไทย  “Fairtex Fight Thaiwatsadu Champions Tournament Season 3” รอบชิงชนะเลิศ ณ สนามมวยลุมพินี รามอินทรา เรียกเสียงเชียร์กระหึ่มจากแฟนมวยไทยทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงลูกค้าไทวัสดุที่ได้รับเชิญเข้าร่วมเชียร์ติดขอบเวทีมวยอย่างล้นหลาม ท่ามกลางบรรยากาศการแข่งขันสุดเข้มข้นและโปรดักชันแสง สี เสียงที่ยิ่งใหญ่ตระการตา โดยไทวัสดุ เป็นผู้สนับสนุนหลักของรายการ พร้อมมอบเข็มขัดแชมป์ไทวัสดุและเงินรางวัลอัดฉีด รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท แก่นักมวยที่ชนะทั้ง 3 รุ่นน้ำหนัก ได้แก่ ปิ่นเพชร ม.ราชภัฎโคราช รุ่น 52 กิโลกรัม เมอห์แดด คานซาเดห์ รุ่น 57 กิโลกรัม และแสนศักดิ์ พิมายพงศธร รุ่น 67 กิโลกรัม  ซึ่งนอกเหนือจากรางวัลอันทรงเกียรติที่นักมวยแชมเปี้ยนจะได้รับแล้ว ยังเป็นการสานฝันสู่เส้นทางเวทีมวยนานาชาติต่อไปในอนาคต

การแข่งขันดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักมวยไทยชายและหญิง ที่จะมาประดับวงการมวยไทยและยกระดับมาตรฐานมวยไทยสู่เวทีมวยโลก ซึ่งในปีนี้ ไทวัสดุ ร่วมกับแฟร์เท็กซ์ ไฟท์ โปรโมชั่น จัดเวทีแข่งขันมวยไทยดังกล่าวผ่านรายการ “FAIRTEX FIGHT มวยมันส์พันธุ์ EXTREME” ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD และได้มีการดำเนินการแข่งขันคัดเลือกผู้ชนะในแต่ละรอบตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา จนเดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 10 พฤษภาคม 2568  โดยผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในแต่ละรุ่นมีดังนี้

• รุ่น 52 กิโลกรัม: ปิ่นเพชร ม.ราชภัฎโคราช ชนะ อลีน เซย์เบิดธ์
• รุ่น 57 กิโลกรัม: เมอห์แดด คานซาเดห์ ชนะ ฟ้าสดใส ต.หมอศรี
• รุ่น 67 กิโลกรัม: แสนศักดิ์ พิมายพงศธร ชนะ ธนูเพชร ว.เทคโนหลวงปู่สรวง

หนึ่งในแมตช์สุดเดือดที่สร้างความประทับใจและเรียกเสียงฮือฮาทั้งสนาม คือการดวลของ แสนศักดิ์ พิมายพงศธร ผู้ชนะรุ่น 67 กิโลกรัม ที่โชว์ลีลาอาวุธหมัดหนักสุดเฉียบคม ด้วยเทคนิกชั้นเชิงมากประสบการณ์และไวกว่าคู่แข่งอีกฝ่าย จึงสามารถคว้าแชมป์ปีนี้ไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ เปิดเผยความรู้สึกอย่างภาคภูมิใจหลังคว้าแชมป์ว่า ดีใจสำหรับชัยชนะครั้งนี้ ความเจ็บหายไปหมด รู้สึกคุ้มค่ากับการที่ฝึกซ้อมหนักทุกวันกว่าหนึ่งเดือนสำหรับการแข่งนี้โดยเฉพาะ  ซึ่งเวทีนี้จะช่วยให้ตนเองได้ก้าวต่อไปในการแข่งเวทีที่ใหญ่ขึ้น

ทั้งนี้ การแข่งขัน Fairtex Fight Thaiwatsadu Champions Tournament Season 3 เป็นอีกหนึ่งรายการแข่งขันมวยไทยชั้นนำที่ได้รับความนิยมสูงจากผู้ชมชาวไทยและต่างชาติ อีกทั้งยังเป็นการเอาใจกลุ่มลูกค้าหลักของไทวัสดุ ที่เป็นช่างมืออาชีพ ผู้รับเหมา และเจ้าของบ้าน ซึ่งมีความชื่นชอบกีฬามวยไทยอยู่แล้ว เป็นการเชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับกิจกรรมไลฟสไตล์ในด้านกีฬาของลูกค้า ซึ่งเป็นจุดร่วมระหว่างแบรนด์ไทวัสดุและลูกค้าได้อย่างทรงพลัง

นางสาวอุทัยวรรณ พรหมเดเวช ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ไทวัสดุ ขอแสดงความยินดีกับแชมป์เปี้ยนทั้ง 3 รุ่น ในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นอีกก้าวสำคัญในการเดินทางสู่เวทีมวยไทยในระดับนานาชาติ  โดยทางไทวัสดุ ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนกีฬามวยไทย เพราะเราเชื่อมั่นในศักยภาพของนักมวยรุ่นใหม่ ที่พร้อมจะก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพระดับสากล หากมีเวทีให้ได้แสดงฝีมืออย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง ซึ่งเวทีการแข่งขัน Fairtex Fight Thaiwatsadu Champions Tournament ก็ถือเป็นหนึ่งในเวทีสำคัญที่ช่วยผลักดันและเปิดโอกาสให้นักมวยไทยได้พัฒนาทักษะ สร้างชื่อเสียง และยกระดับอาชีพมวยไทยให้เป็นที่ยอมรับในสายตาชาวโลกมากยิ่งขึ้น สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ เรายังได้มอบประสบการณ์สุดพิเศษแก่ลูกค้า โดยเชิญลูกค้าไทวัสดุเข้าร่วมชมการแข่งขันแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อสัมผัสความสนุก ตื่นเต้น และเร้าใจจากการเชียร์นักมวยที่ชื่นชอบ”

ทางด้าน นายอริยะวัฏ บุษราคัมวงษ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแฟร์เท็กซ์ ไฟท์ โปรโมชั่น กล่าวเสริมว่า “รู้สึกดีใจมากครับที่ได้ร่วมงานกับไทวัสดุต่อเนื่องเป็นซีซันที่ 3 เพราะเราเห็นตรงกันในเรื่องการสนับสนุนนักกีฬามวยไทย โดยเฉพาะน้องๆ ที่มีฝีมือแต่ยังขาดโอกาสในการขึ้นชกบนเวทีใหญ่ ซึ่งเวทีมวยลุมพินีแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของมวยไทยระดับประเทศ และเป็นความฝันของนักมวยหลายคน การที่ไทวัสดุร่วมเปิดเวทีมวย Fairtext Fight Thaiwatsadu Champions Tournament นี้ให้กับนักมวยรุ่นใหม่จากต่างจังหวัดหรือผู้ที่ไม่มีโอกาสมากนัก ได้เข้ามาพิสูจน์ความสามารถของตนเอง ถือเป็นการปูทางสู่เส้นทางอาชีพและเวทีระดับนานาชาติ และหวังว่าจะได้ร่วมจัดกับไทวัสดุต่อไปอีกหลายซีซันครับ”

การแข่งขัน Fairtex Fight Thaiwatsadu Champions Tournament Season 3 ไม่เพียงเป็นการประชันฝีมือของนักสู้บนเวทีผ้าใบ แต่ยังเป็นความเชื่อมโยงศิลปะมวยไทยและผู้คนได้อย่างกลมกลืน อีกทั้งยังตอกย้ำบทบาทของไทวัสดุในฐานะผู้สนับสนุนหลักที่เปิดโอกาสให้นักมวยได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ตลอดจนมุ่งขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่เวทีโลก พร้อมสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทุกคน