เผยโฉม'โรงหนังนางเลิ้ง'หลังบูรณะ

กว่า 32 ปีที่โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมธานี หรือ“โรงหนังนางเลิ้ง” ยุติการให้บริการฉายภาพยนตร์มอบความสุขและบันเทิงให้กับคนกรุง กาลเวลาผ่านไปโรงหนังนางเลิ้งแห่งนี้ที่มีโครงสร้างทำจากไม้แม้จะแข็งแรงมากเพียงใด แต่ก็ย่อมชำรุดทรุดโทรมไปตามสภาพด้วยอายุเก่าแก่เกิน 100 ปี นำมาสู่การบูรณะครั้งสำคัญ โดยหัวเรือใหญ่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์  เป็นการบูรณะตัวโครงสร้างดั้งเดิมของโรงภาพยนตร์ เน้นการสงวนรักษาอัตลักษณ์โดดเด่นของเดิมและคงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ รวมถึงให้แข็งแรงมั่นคงปลอดภัยอยู่คู่กับประเทศไทย

โรงหนังนางเลิ้งหลังบูรณะใหม่  เผยโฉมโรงหนังไม้แห่งเดียวในประเทศไทย มรดกศิลปวัฒนธรรมล้ำค่าที่บูรณะซ่อมแซมอย่างสวยงาม ตั้งตระหง่าน ขรึมขลัง แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวให้คนทุกเจนเนอเรชั่นได้ชื่นชม ล่าสุด สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ร่วมกับ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) และชุมชนรอบตลาดนางเลิ้ง จัดกิจกรรม “107 ปี ศาลาเฉลิมธานี…ที่คิดถึง” เปิดโรงหนังนางเลิ้งที่เพิ่งบูรณะให้ประชาชนได้เข้าชมเป็นครั้งแรกเย็นวันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา  พร้อมทำหน้าที่จัดฉายภาพยนตร์ขึ้นจอใหญ่อีกครั้งภายในโรงไม้เก่าแก่อายุ 107 ปีแห่งนี้

ภายในอาคารศาลาเฉลิมธานี  หอภาพยนตร์(องค์การมหาชน) ร่วมออกบูธให้ผู้ร่วมงานประดิษฐ์ทำภาพค้างติดตา เอาหนังกระโปรงมาให้ผู้ชมถ้ำมอง ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงาน รวมถึงเปิดโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมธานีให้ทำหน้าที่การจัดฉายภาพยนตร์อีกครั้ง กับหนังเรื่อง “ปีหนึ่ง…เพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม” ผลงานการกำกับของ คิง-  สมจริง ศรีสุภาพ นำแสดงโดย ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง และ มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์  นักแสดงชื่อดัง ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่มีฉากถ่ายทำในโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมธานี หรือโรงหนังนางเลิ้ง ในอดีตเป็นส่วนสำคัญของเรื่อง  ว่าด้วยเรื่องราวของสองพี่น้องที่รักใคร่และชอบไปดูหนังด้วยกันเป็นประจำ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์พลิกผันในชีวิต ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยมมากออกฉายในปี 2536 ปีเดียวกับที่โรงหนังนางเลิ้งยุติการให้บริการ

ก่อนฉายหนังดังในตำนานในงาน107 ปี ศาลาเฉลิมธานี…ที่คิดถึง คิง-สมจริง   ผู้กำกับภายนตร์และผู้จัดคนเก่งของวงการบันเทิงไทย มาร่วมพูดคุยกับผู้ชมทั้งที่อยู่ในชุมชนที่เคยสัมผัสประสบการณ์ในการชมภาพยนตร์ในโรงหนังนางเลิ่งแห่งนี้ และผู้คนที่เดินทางมาชมบรรยากาศของการจัดฉายหนังในโรงหนังสแตนด์อโลนเก่าแก่ที่สุดในประเทศ และเป็นโรงหนังโครงสร้างไม้เพียงแห่งเดียวที่ยังคงเหลืออยู่จนเต็มโรงภาพยนตร์  นอกจากนี้จัดเต็มการแสดงบนเวที ทั้งโขนชุดยกรบ กลุ่มอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่น  ศิลปะมวยไทย  คีตะมวยไทยต่อสู้ ชุมชนศุภมิตร 1  ละครชาตรีชุมชนวัดสุนทรธรรมทาน หรือที่คนกรุงรู้จักในชื่อ”วัดแคนางเลิ้ง” ฯลฯ     แม้อากาศร้อนอบอ้าว ภายในโรงหนังไม่มีเครื่องปรับอากาศ  แต่ผู้ชมก็ไม่ถอย แต่ละคนพกอุปกรณ์สู้ความร้อน เช่น พัด หรือ พัดลมมือถือส่วนตัวมาด้วย โดยทางผู้จัดงานจัดเตรียมพัดลมมาช่วยระบายความร้อนให้แก่ผู้มาร่วมกิจกรรม

ลานหน้าอาคารศาลาเฉลิมธานีก็มีชีวิตชีวา เปิดพื้นที่เรียนรู้ด้านวัฒนธรรมกับซุ้มกิจกรรม Art & Craft ชุมชนศุภมิตร 2  นำเสนอผลงานสร้างสรรค์และงานคราฟท์โดยคนในชุมชน , ซุ้มปั้นแป้งพวง และปิ่นปักผม  ชุมชนวัดแคนางเลิ้ง, งานปักสะดึง บ้านนาราศิลป์ , งานฝีมือชมรมมีดีคลับ ,ฉายหนังจอจิ๋ว โดยหอภาพยนตร์ และวาดภาพเสมือนจริงพร้อมนิทรรศการผลงานสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) ที่น่าชม

ถือเป็นงานที่ผสานความร่วมมืออนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม ควบคู่กับการต่อยอดทุนวัฒนธรรมผ่านศิลปะร่วมสมัย ช่วยสร้างการรับรู้เรื่องราวศาลาเฉลิมธานี ชุบชีวิตโรงหนังไม้ให้กลับมามีสีสันคู่ย่านนางเลิ้งตลอดไป

ภาพ:หอภาพยนตร์(องค์การมหาชน)

เพิ่มเพื่อน