จากเหตุแผ่นดินไหวที่เมียนมาเมื่อ 28 มี.ค. ในครั้งนี้มันไม่ใช่แค่แผ่นดินสั่น แต่ใจคนไทยก็สั่นตาม ยิ่งคนที่อยู่หรือทำงานในกรุงเทพฯมีสภาพไม่ต่างกัน เพราะไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน พื้นบ้านโยกเยก

หายหน้าหายตาไปจากแวดวงการเมืองเสียนาน สำหรับ “อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ” อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ศิษย์ก้นกุฏิ นายหัวชวน หลีกภัย ภายหลังจากที่ค่ายพระรามหกผลัดใบ บรรยากาศในพรรคหลายอย่างเปลี่ยนไป ดร.บิล จึงถอยออกมา

สะท้อนภาพการเมืองตอนนี้ ประชาชนเบื่อหน่าย หนักหน่อยก็รู้สึกสิ้นหวังกับ สส.-สว.ประเทศไทยไปเลย เพราะวันๆ มัวแต่สุมหัวเล่นเกมการเมือง รักษาอำนาจตัวเองเป็นหลัก

แม้ว่าร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ยังจะไม่สะเด็ดน้ำ แต่ก็มีการโยนหินถามทางเป็นระยะๆ ตั้งแต่ร่างกฎหมาย เวอร์ชั่นรัฐบาล เรื่อยมาจนถึงเวอร์ชั่นที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ไปปรับปรุงมาล่าสุด ตอนนี้กำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน โดยจะสิ้นสุดการรับฟังในวันที่ 1 มี.ค.นี้

“ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” เมื่อวานนี้ถือเป็นวันไหว้ วันนี้เป็นวันตรุษจีน วันขึ้นปีใหม่ของใครหลายคน โดยเฉพาะคนที่เชื้อสายจีน หลายที่รัฐบาลร่วมมือกับภาคเอกชนจัดงานยิ่งใหญ่ สร้างบรรยากาศคึกคัก หวังจะมีนักท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยสร้างรายได้จนเกิดเป็นสภาพคล่องให้คนภายในประเทศ

ต้องยอมรับอย่างหนึ่ง “บ้านเพื่อคนไทย” เปรี้ยงจริง จนถึงขณะนี้บางช่วงเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับลงทะเบียนในการซื้อบ้าน ซื้อคอนโดในแคมเปญนี้ยังล่ม ยังค้างอยู่เลย แสดงให้เห็นถึงว่าฮิตฮอตในหมู่ประชาชน

โบราณว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” จริงที่สุด ดูการเมืองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน

ส่งท้ายปี 67 ต้อนรับปีใหม่ 68 มะเส็ง งูเล็ก ด้วยบทกลอนการเมืองจาก “บัญญัติ บรรทัดฐาน” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยกให้เป็น สส.ในตำนานท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นที่กล่าวขานโดยเฉพาะเวลาได้ลุกขึ้นอภิปรายในสภา ในฐานะฝ่ายค้าน ชาวบ้านหลายคนติดตามรับฟัง เพราะมีลีลาที่เป็นเฉพาะตัว

เทศกาลแห่งความสุขเริ่มต้นขึ้นแล้ว เพราะช่วงปลายปีแบบนี้มีวันแห่งความสนุกสนานอยู่ นั่นคือวันคริสต์มาส ผู้คนต่างพากันจัดงานฉลองเฉลิมรื่นรมย์ อีกทั้งหลายๆที่ในบ้านเราบรรยากาศเป็นใจ มีลมเย็นพัดโชย บางจุดถึงขั้นหนาว ยิ่งทำให้มีความสุขกายสบายใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม

น้ำท่วมภาคใต้ปีนี้ได้เห็นน้ำใจจากทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ภาครัฐระดมกำลังเต็มที่ แม้จะทำให้ทุกข์หมดไปทั้งหมดไม่ได้ แต่ก็ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และทำให้ประชาชนอุ่นใจว่าข้าราชการไม่ได้ทอดทิ้ง

นักการเมืองไทยรุ่นเก๋าหลายคนบ่นอุบ ยอมรับว่าเปลี่ยนยุคไปไว มีสส.หน้าใหม่เข้าสู่วงการจำนวนมาก ส่วนสส.รุ่นใหญ่นับวันก็จะมีแต่คนโบกมืออำลาวงการ ส่วนใครที่ยังใจรักก็อยู่ทำงานต่อแบบเหงาๆ เพราะเพื่อนที่รุ่นราวคราวเดียวกันก็ออกไปนั่งดูอยู่ห่างๆ แทน

ช่วงนี้สภาปิดสมัยประชุม แต่ยังคงมีภารกิจต่อเนื่อง ยังมีประชุมคณะกรรมาธิการคณะต่างๆ โดยเฉพาะวันพุธ วันพฤหัสบดี ทว่าไม่ยุ่งเหมือนช่วงเปิดสมัยประชุม ซึ่งกำลังจะเปิดในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ และยาวไปจนถึงเดือน เม.ย.68