10 พ.ย.2564 - นายสหรัฐ สุขคำหล้า หรือ โฟล์ค อายุ 21 ปี อดีตสามเณรที่เพิ่งลาสิกขาเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จากกรณีเคลื่อนไหวร่วมชุมนุมกับม็อบราษฎรอย่างต่อเนื่อง จนถูกดำเนินคดีหลายข้อหา โดยเฉพาะกระทำความผิดตามมาตรา 112
ล่าสุดได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า เมื่อครั้นตอนผมสึก ผมได้กล่าวกับพระอาจารย์ไว้ว่า ขอให้พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายโปรดจดจำว่าข้าเป็นคฤหัสถ์(คนธรรมดา) เมื่อครั้นที่สอง ขอให้พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายโปรดจดจำว่าข้าเป็นคฤหัสถ์ (คนธรรมดา)
"เมื่อครั้นที่สาม ขอให้พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายโปรดจดจำว่าข้าเป็นคอมมิวนิสต์นั้น"
คำว่าคอมมิวนิสต์นั้นมันมีความหมายที่ว่า ตัวผมไม่ใช่คนธรรมดา แต่ผมเป็นคนที่เคลื่อนไหวเรื่องเกี่ยวกับสิทธิ และความเสมอภาคทั้งทางด้านความเสมอทางการเมืองและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจที่โลกทุนนิยมให้ไม่ได้
ทุนนิยมให้คุณซื้อบ้านแต่มันไม่ให้เวลาคุณอยู่บ้าน ทุนนิยมให้คุณซื้อเตียงได้แต่มันไม่ให้เวลาคุณนอนเตียง ทุนนิยมให้คุณซื้อประกันสุขภาพแต่ไม่ให้คุณภาพชีวิตที่ดี ทุนนิยมให้คุณซื้อหนังสือแต่มันไม่ให้คุณมีเวลาอ่านหนังสือ
ปัญหาเหล่านี้มาจากทุนนิยมทั้งสิ้นในสิ่งที่ผมประสบพบเจอมาที่ตัวศาสนาแก้ไม่ได้ จริงอยู่ที่มาร์กซ์กล่าวว่า ศาสนาคือยาฝิ่น แต่การยาฝิ่นมันเป็นส่วนประสมในการยาชาในการรักษาฝันหรือถอดฝัน ที่เยียวหาความจริงอันแสนเจ็บปวดที่คนบางกลุ่มรับไม่ได้ แต่ไม่ใช่ยาฝิ่นจะเป็นยาสารพัดนึกที่รักษาหายได้ทุกโรคตลอดไปใช่หรือไม่?
"ทำให้ผมต้องปฏิญาณต่อหน้าพระสงฆ์จงจดจำว่าผมเป็นคอมมิวนิสต์ที่คิดถึงความเทียมอย่างแท้จริง"
ตลาดเสรีไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องค้าขายได้เท่าเทียม แต่ผมจะสร้างโลกใหม่ที่ไม่เหมือนคอมมิวนิสต์ยุคสงครามเย็นที่ผ่านมา โลกที่ผมอยากเห็นคือผู้คนตระหนักรู้ถึงภาพจุดตัดทางประวัติศาสตร์ ว่าคุณจะเป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร หรือคุณจะเป็นจุดตัดทางประวัติศาสตร์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยรอยเรียงกันเป็นภาพใหญ่ได้อย่างไร
การตระหนักรู้ทางชนชั้นบัดนี้มันเกิดขึ้นพร้อมกับการล้มสลายของทุกสถาบันทางการเมืองของสังคมเรา ไม่ว่าจะเป็นสถาบัน ทหาร ตำรวจ ศาสนา การศึกษา ศาล ตุลาการ รัฐสภา แม้กระทั่งสถาบันพระมหากษัตริย์ของสังคมของเรา
คำถามคือว่าประชาชนทนกับระบอบเดิมได้มากแค่ไหน อันแรงงานชาวนามีจำนวน แม้นประมวลก็มากครั้น ถึงคราต้องรวมกันเป็นเพลิงป่า กำจัดสิ่งอันสิ้นค่าทางประวัติศาสตร์ อย่าให้ชนชั้นใดมาปรามาส ต่ออำนาจสถาบันประชาชน
ด้วยรักและการปฏิวัติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พูดแบบนี้ได้ยังไง! อดีตลูกจ้างวอยซ์ ลั่นไม่เห็นใจทักษิณ หลังคดี 112 ถูกอุทธรณ์
อินฟลูเอนเซอร์สายการเมือง และอดีตพิธีกรข่าววอยซ์ทีวีของตระกูลชินวัตร แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อออนไลน์ หลังอัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ข
โฆษกอัยการ เเจงกรณีขอขยายอุทธรณ์คดี 112 'ทักษิณ'
นายเสวต อภัยรัตน์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดี มาตรา 112 และความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ฯ นาย
ตุลาการภิวัฒน์ นิติสงคราม: จาก 'นั่งลงลูก' ถึงคำพิพากษาที่สังคมตัดสินซ้ำ!
ศาลเคยถูกมองว่าเป็น ตุลาการภิวัฒน์ เมื่อคำพิพากษาพ้องใจกับฝ่ายหนึ่ง และถูกมองว่าเป็น นิติสงคราม เมื่อไม่ตรงใจกับอีกฝ่าย กระทั่งถ้อยคำสั้น ๆ ที่กลุ่มหนึ่งยืนยันว่าได้ยินว่า “นั่งลงลูก” ขณะที่อีกกลุ่มบอกว่า “นั่งลงครับ” ก็ยังถูกขยายเป็นชนวนความระแวง ที่ทำให้ทุกคำพิพากษาไม่เคยหยุดอยู่แค่บัลลังก์ หากยังถูกสังคมตัดสินซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า
ฉับไว 'พิกุลทอง' ขอบคุณศาลยกฟ้องคดี 112 ท่านทักษิณ
นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยโพสต์เฟซบุ๊กว่า ขอบคุ
เตือน 'ทักษิณ' รอด 1 คดี ไม่ได้แปลว่ารอดหมด!
อดีต สส.นครศรีธรรมราช วิเคราะห์หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ของทักษิณ ระบุอย่าดีใจกันเกินไป ยังเหลืออีก 2 คดีใหญ่ ทั้ง “แพทองธาร” เสี่ยงหลุดเก้าอี้ และคดีชั้น 14 ลุ้นคำสั่งศาลฎีก
เมื่อฝนซา พายุใหญ่ยังตั้งเค้า: คดีทักษิณกับชะตากรรมการเมืองไทย
การรอดพ้นจากคดี 112 ของ ทักษิณ ชินวัตร อาจคล้ายฝนที่ขาดเม็ดลงชั่วขณะ แต่ขอบฟ้ายังเต็มไปด้วยเงามืดของ พายุใหญ่—คดีบังคับโทษในศาลฎีกาฯ ที่รออยู่เบื้องหน้า มิใช่เพียงการตัดสินชะตาชายคนหนึ่ง หากคือการวัดพลังและรอยร้าวของการเมืองไทยทั้งผืน ที่ไม่เคยสมานได้ตลอดกว่าสองทศวรรษ


