26 ม.ค.2566 - เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยคำชี้แจงกรณีทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม ผู้ต้องขังคดี 112 ซึ่งได้ประกาศอดน้ำอดข้าวเมื่อวันที่ 19 มกราคม ว่า ในวันที่ 25 มกราคม 2566 ทนายความได้เข้าเยี่ยมตะวันและแบม พร้อมทั้งได้เข้าพูดคุยปรึกษาอาการกับแพทย์ที่เป็นผู้ดูแลทั้งคู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์
ทนายความของทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และอรวรรณ ขอชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดอาการและรายละเอียดการเข้าพบตะวันและแบม ในวันที่ 25 มกราคม 2566 ต่อสาธารณชนดังต่อไปนี้
ทนายความได้เข้าพบตะวันและแบมในเวลา 14.52 น. ในห้องของโรงพยาบาลซึ่งมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เฝ้าอยู่ในห้องด้วยตลอดเวลาจำนวน 4 คน พบทั้งคู่นอนอยู่บนเตียงเดี่ยว ตะวันมีลักษณะผอมลงเป็นอย่างมากและเห็นรูปโครงหัวกะโหลกจากศีรษะค่อนข้างชัด ทั้งคู่ใส่เสื้อหนาวสีสันสดใสเป็นลายคู่กันนอนข้างกันอยู่บนเตียง
จากการสอบถามปรากฏว่าเมื่อวานขณะมาถึงและได้รับการตรวจ ตะวันมีอาการหัวใจจะหยุดเต้นจากการขาดโพแทสเซียม จึงตัดสินใจรับโพแทสเซียมจากพยาบาลของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ แต่ทั้งคู่ยังคงยืนยันว่าจะทำตามความตั้งใจเดิมและมั่นใจในการดูแลของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ คืออดน้ำ อดอาหาร ไม่ใส่สายน้ำเกลือ ไม่กินเกลือแร่ ไม่กินวิตามิน ไม่กินน้ำหวานและอื่นๆ
ในวันนี้สภาพจิตใจของทั้งคู่ดีขึ้นมาก แบมแสดงอาการตื้นตันใจเมื่อได้รับทราบว่าพ่อแม่ของแบมไปยืนหยุดขัง
จากการปรึกษาอาการกับแพทย์ โดยภาพรวม ทั้งคู่มีการรู้สติในเกณฑ์ปกติ มีอาการอ่อนเพลีย สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ ได้ทำการเจาะเลือดตรวจและทำการเอกซเรย์ โดยในเกณฑ์นี้ยังไม่มีอะไรเข้าขั้นวิกฤต ซึ่งสำหรับการอดอาหารแบบไม่รับยา ไม่ทานยานั้น จะมีอาการปวด ทุกข์ทรมานโดยไม่มีอาการบรรเทา ซึ่งเมื่อคนไข้ปฏิเสธรับยาและการรักษา โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ก็จะเคารพการตัดสินใจของคนไข้ และทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์จะใช้วิธีการดูแลคนไข้ด้วยการตามมาตรฐาน เช่นในกรณีที่คนไข้ไม่รับการรักษา โรงพยาบาลจะดูแลด้วยการตรวจจับสัญญาณชีพตามมาตรฐาน คือทุก 4 – 6 ชั่วโมง
โดยสิ่งที่เริ่มเห็นจากร่างกายของคนไข้ คือการขาดเกลือแร่ และเกลือแร่บางตัวเช่นโพแทสเซียม หากต่ำไปจะทำให้หัวใจหยุดเต้น ซึ่งในขณะนี้คนไข้มีอาการดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ หากอาการยังคงเป็นไปเช่นนี้ โดยคนไข้ยังปฏิเสธการรับเกลือแร่ อาการก็จะไม่ดีขึ้น แต่สาเหตุของการไม่ดีขึ้นหรือมีอันตรายถึงชีวิตต่อร่างกายจะเกิดขึ้นได้โดยหลายปัจจัย
โดยแพทย์ และตะวันกับแบมได้ยืนยันกับทนายตรงกันว่า ทั้งคู่รับทราบถึงอาการของร่างกายของตนเองเป็นอย่างดี มีความเข้าใจว่าจะสามารถเกิดอะไรขึ้นได้กับร่างกายของตน โดยตะวันได้บอกว่า หากเมื่อร่างกายเข้าขั้นวิกฤตแล้วจริงๆ รับทราบดีว่าสามารถมีอาการหัวใจวายได้ “ถึงตอนนั้นก็คือหนูก็จะไม่รู้อะไรแล้ว”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปล่อยตัว 6 ผู้ต้องขังทางการเมือง ที่เข้าเกณฑ์อภัยโทษ แต่ยอดผู้ถูกจองจำยังอยู่ที่ 47 คน
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองจำนวน 6 คน ได้แก่ อัญชัญ ปรีเลิศ, สมบัติ ทองย้อย, สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ, ธนายุทธ ณ อยุธยา, ธนพร และ ทีปกร ทยอยได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ 5 แห่ง หลังเข้าเกณฑ์ตาม พ.ร.ฎ.อภัยโทษ พ.ศ. 2568 ที่ออกมาในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา
'อานนท์' นอนคุกยาว ศาลฎีกายังไม่ให้ประกัน แม้ยกความเห็น UN กังวลการใช้ ม.112
เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความว่า ศาลฎีกายังไม่ให้ประกัน “อานนท์” แม้ยกความเห็น UN กังวลการใช้ ม.112
อ่วม! ศาลเชียงใหม่ สั่งจำคุก 'อานนท์ นำภา' ปราศรัยผิด ม.112 รวม 20 ปี 19 เดือน
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษาคดี “อานนท์ นำภา” กรณีปราศรัยที่หอศิลป์ มช. เห็นว่าผิดตาม ม.112 ลงโทษจำคุก 3 ปี ให้การเป็นประโยชน์ ลดเหลือจำคุก 2 ปี
ศูนย์ทนายฯ จับตา ย้ายผู้ต้องขังทางการเมืองจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปเรือนจำอื่น
เพจ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. 2568 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่าเริ่มมีการย้ายตัวผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองที่เคยถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไ
ลูกเกดหารือสภาจี้ ม.รามฯ ไฟเขียว 'ก้อง-อุกฤษฏ์' สอบในเรือนจำ!
สส.ปชน. จี้ ม.รามคำแหงไฟเขียว 'ก้อง-อุกฤษฏ์' ผู้ต้องขังคดี 112 สอบในเรือนจำ
ศาลสั่งคุก 'อานนท์ นำภา' 2 ปี ผิด ม.112-พรบ.คอมพ์ รวมโทษจำคุก 5 คดี กว่า 16 ปี
ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำอ.1395/2565 ที่อัยการสำนักงานคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง นายอานนท์ นำภา ทนายความและแกนนำม็อบราษฎรในความผิดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และพระราชินีฯ มาตรา 112


