สปสช.ประกาศชื่อ 129 สถานพยาบาลให้บริการนอกเวลาราชการ

สปสช.ประกาศรายชื่อสถานพยาบาล 129 แห่งให้บริการนอกเวลาราชการแก่ผู้มีสิทธิบัตรทองที่มีอาการป่วยกะทันหัน หรือเหตุจำเป็นแต่ไม่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยฉุกเฉิน

05 เม.ย.2566 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาครัฐโดยกระทรวงสาธารณสุขได้มีการปรับปรุงบริการด้านสาธารณสุข ให้ประชาชนได้รับบริการการรักษาพยาบาลกรณีป่วยฉุกเฉินที่มีคุณภาพและมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อ โดยได้ดำเนินนโยบายจัดบริการห้องฉุกเฉินคุณภาพในหน่วยบริการ ด้วยการสนับสนุนให้โรงพยาบาลจัดห้องบริการเฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่มารับบริการนอกเวลาราชการด้วยอาการเจ็บป่วยกะทันหัน หรือด้วยเหตุจำเป็นอื่นที่คัดกรองแล้วยังไม่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยแยกผู้ป่วยกลุ่มนี้ออกจากห้องฉุกเฉินที่เป็นพื้นที่สำหรับผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินจริงๆ

ภายใต้นโยบายจัดบริการห้องฉุกเฉินคุณภาพนี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดงบประมาณเข้าไปสนับสนุน โดยให้ผู้มีสิทธิบัตรทองที่มีอาการป่วยที่มีอาการป่วยกะทันหัน หรือมีความจำเป็นที่ไปโรงพยาบาลนอกเวลาราชการ เมื่อคัดกรองพบว่าไม่เข้าเกณฑ์ฉุกเฉิน สามารถเข้ารับบริการได้ที่ห้องซึ่งแยกต่างหากจากห้องฉุกเฉินโดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ และถือว่ากรณีนี้เป็นเหตุจำเป็น โดยที่โรงพยาบาลหรือหน่วยบริการสามารถเบิกค่าใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์ของ สปสช.ได้

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับหน่วยบริการหรือโรงพยาบาลที่ผู้มีสิทธิบัตรทองสามารถเข้ารับบริการนอกเวลาราชการดังกล่าวนั้น จะต้องเป็นไปตามประกาศของสำนักงาน สปสช. ซึ่งหลังจากได้นำร่องโครงการมาตั้งแต่ปี 2562 สปสช. ก็ได้ประกาศเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลที่ประชาชนผู้ถือบัตรทองสามารถเข้ารับบริการได้อย่างต่อเนื่อง และล่าสุด ณ วันที่ 3 เม.ย.2566 ได้ออกประกาศ เรื่อง รายชื่อหน่วยบริการที่ให้บริการนอกเวลาราชการที่เป็นความจำเป็นของผู้มีสิทธิในหน่วยบริการอื่น พ.ศ. 2566 ระบุจำนวนหน่วยบริการ/โรงพยาบาลที่ให้บริการรวมทั้งหมด 129 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด

ทั้งนี้ สามารถอ่านประกาศฉบับเต็มและรายชื่อหน่วยบริการ/โรงพยาบาลทั้ง 129 แห่งได้ที่ https://bit.ly/3Mj7M74_129หน่วยบริการ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ความจำเป็นที่กระทรวงสาธารณสุขได้ขับเคลื่อนนโยบายห้องฉุกเฉินคุณภาพนี้ เนื่องด้วยในอดีตที่ผ่านมา มักจะมีผู้ป่วยกลุ่มไม่ฉุกเฉินไปรักษาที่โรงนอกเวลาราชการ โดยเข้าใจว่าอาการที่ตนเองเป็นคืออาการฉุกเฉิน ซึ่งส่วนนี้ไม่ได้เป็นความผิดของผู้ป่วย เนื่องจากผู้ป่วยเองรู้เพียงว่าตนป่วยกะทันหันแต่ไม่ได้ทราบว่าเกณฑ์ใดเป็นการป่วยฉุกเฉินหรือไม่ ทำให้เกิดความแออัดในห้องฉุกเฉิน เมื่อมีผู้ป่วยฉุกเฉินรุนแรงจริงๆ เข้ารักษาก็ไม่สามารถให้บริการได้เต็มที่ ซึ่งข้อมูลจากสถานการณ์จริงที่ผ่านมานั้นพบว่า เกือบร้อยละ 60 ของการใช้บริการห้องฉุกเฉินในไทยเป็นผู้ป่วยไม่ฉุกเฉิน

“การที่ สปสช. ออกประกาศเพิ่มจำนวนหน่วยบริการเป็น 129 แห่งนี้จะช่วยให้ประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองได้รับบริการกรณีป่วยฉุกเฉินหรือด้วยเหตุจำเป็นที่มีคุณภาพ ขณะที่หน่วยบริการก็จัดบริการที่ได้มาตรฐาน มีหลักเกณฑ์การสนับสนุนค่าใช้จ่ายจาก สปสช.ที่ชัดเจน ลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยอุบัติเหตุและวิกฤตฉุกเฉินได้ในระยะยาว” น.ส.ไตรศุลีกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยพร้อม 100%นับถอยหลังเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33 จองตั๋วเข้าชมพิธีเปิดฟรี

นับถอยหลังกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไทยเจ้าภาพพร้อม 100% 'แบมแบม' เตรียมขึ้นเวทีโชว์ รัฐบาลเชิญชวน 9 ธ.ค. นี้ จองตั๋วเข้าชมพิธีเปิดฟรี ผ่านเว็บไซต์ทางการ www.seagames2025.org

ข่าวดี! ผู้ป่วยมะเร็งปอดใช้ยา 'Erlotinib–Gefitinib' เป็นยาขนานแรกได้แล้ว

เริ่ม 1 ธ.ค.เป็นต้นไป ผู้ป่วยมะเร็งปอด สามารถใช้ยา 'Erlotinib–Gefitinib' เป็นยาขนานแรกได้แล้ว ช่วยให้ผู้ป่วยคุมโรคได้นาน 9 เดือนถึง 1 ปี ยับยั้งการกลายพันธุ์ที่เป็นตัวเร่งให้มะเร็งเติบโต

รมว.สธ. ตอก 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดเว็บรับแจ้งศพน้ำท่วม ชี้วัดอะไรไม่ได้ หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร

"พัฒนา​" เมิน​ "บิ๊กโจ๊ก" ปูด​ตัวเลขผู้เสียชีวิตน้ำท่วมใต้หลักพัน​ ชี้ตัวเลข​ 140 รายของสธ.​ ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง บอก​ หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร ตัวเลขในเว็บไซต์​ชี้ชัดอะไรไม่ได้

สธ. แถลงยอดผู้เสียชีวิ​ต​ 'น้ำท่วมสงขลา'​ 140 คน คาดจากนี้เพิ่มแค่หลักหน่วย

นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข​ แถลงสถานการณ์ผู้เสียชีวิจากเหตุน้ำท่วม​ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา​ ว่า​ จะยึดข้อมูลที่​โรงพยาบาลสงขลานครินทร์​เป็นหลัก เพราะศูนย์​รวบรวมศพผู้เสียชีวิต​ ซึ่งข้อมูลปัจจุบัน​ ณ​ เวลา​ 16.00​ มีผู้เสียชีวิตอยู่ในระบบ 140 คน