
ปัจจุบัน พระมหากษัตริย์ไม่ได้มีอำนาจปกครอง นักการเมืองทำงานร่วมกับข้าราชการปกครองกันเอง แล้วก็ฉ้อฉลกันเอง สุดท้ายควบคุมกันเองไม่ได้ ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาเป็นแพะรับบาปที่นักการเมืองและข้าราชการเป็นผู้กระทำ
20 มิ.ย.2566-นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” หัวข้อ สามก๊ก “โทนี่ สัประยุทธ์ ก้าวไกล” มีรายละเอียดดังนี้
นิยายสามก๊กเขียนจากเค้าโครงเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ ซึ่งกลายมาเป็นตำราพิชัยยุทธ์ที่สำคัญและเป็นที่นิยมทั้งโลกการเมือง การทหารและการค้า ที่ต้องนำมาศึกษาเป็นตัวอย่างในยุคปัจจุบัน
มีอยู่ตอนหนึ่งซึ่งเป็นตอนต้นๆ เรื่อง ที่นึกแล้วมันช่างคล้ายกับสถานการณ์บ้านเมืองของเราเสียเหลือเกิน เรากำลังอยู่สถานการณ์ที่เรียกว่า “หนีเสือปะจระเข้” หนีทักษิณเจอธนาธร หนีเพื่อไทยเจอก้าวไกล รวมทั้งสถานการณ์ “ชักศึกเข้าบ้าน”
เมื่อโจโฉหนีออกจากลกเอี๋ยง เพราะลอบสังหารทรราชตั๋งโต๊ะไม่สำเร็จ โจโฉหนีมาถึงอำเภอจงมู่ ที่ซึ่งตันก๋งเป็นผู้ว่าราชการ โจโฉถูกจับกุมตัวตามประกาศจับ และนำไปให้ตันก๋งสอบสวน
แต่เมื่อพูดคุยกันแล้วตันก๋งประทับใจในความจงรักภักดีที่โจโฉมีต่อพระมหากษัตริย์ จึงตกลงปลงใจทิ้งราชการออกติดตามโจโฉไปทั่ว ตันก๋งนั้นหมายใจจะกลับไปยังบ้านเกิดที่เมืองเฉินหลิว อยู่แถบเมืองไคเฟิงในปัจจุบัน ทั้งนี้ เพื่อตั้งกองกำลังมาปราบปรามตั๋งโต๊ะต่อไป
ตันก๋งเสนอโจโฉว่า ให้มุ่งหน้าไปสวามิภักดิ์กับอ้วนเสี้ยว ขุนศึกที่ทรงอำนาจมากที่สุดในยุคสมัยนั้น โดยอ้วนเสี้ยวเป็นหัวหอกของเหล่าขุนศึกที่จัดตั้งแนวร่วมพันธมิตรต่อต้านตั๋งโต๊ะ
แต่โจโฉบอกกับตันก๋งว่า “อ้วนเสี้ยวไม่ใช่นักปกครองที่ดี”
โจโฉถามตันก๋งว่า “รู้ไหมว่าอ้วนเสี้ยวตั้งกองทัพทำไม”
ตันก๋งตอบว่า “ก็เพื่อกำจัดตั๋งโต๊ะ”
โจโฉถาม “ความผิดของตั๋งโต๊ะคืออะไร
ตันก๋งตอบว่า “บ้านเมืองวุ่นวาย เกิดกลุ่ม 10 ขันทีฉ้อฉลขึ้นมาเป็นใหญ่ โฮจิ๋นต้องกวาดล้างกลุ่ม 10 ขันที จึงเปิดประตูเมืองให้ขุนศึกนอกเมืองเข้าเมือง ซึ่งเป็นเหตุให้ตั๋งโต๊ะเข้ามาเป็นใหญ่แทนกลุ่ม 10 ขันทีในที่สุด
โจโฉถาม “ใครเป็นคนวางแผนที่ทำให้ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองได้”
ตันก๋งตอบว่า “ไม่รู้”
โจโฉตอบว่า “ก็อ้วนเสี้ยวไง”
“เขาเป็นคนแนะนำกับโฮจิ๋นให้เปิดประตูเมืองเพื่อรับกองทัพของตั๋งโต๊ะเข้าเมืองเพื่อจะได้มาช่วยกำจัด กลุ่ม 10 ขันที”
“ซึ่งในที่สุดกลุ่ม 10 ขันทีถูกกำจัดได้สำเร็จ แต่ความชั่วร้ายของกลุ่ม 10 ขันที ยังไม่เท่ากับตั๋วโต๊ะ ที่ชั่วร้ายกว่าหลายเท่า”
โจโฉถามต่อว่า “รู้มั้ยใครคัดค้านไม่ให้เปิดประตูเมืองรับกองทัพของตั๋งโตีะเข้าเมือง
ตันก๋งตอบว่า “ไม่รู้”
โจโฉตอบว่า “ข้าเอง”
“ข้าเป็นคนบอกว่า การที่ขันทีเรืองอำนาจนั้นมีอยู่คู่ประวัติศาสตร์มายาวนาน ขึ้นอยู่กับฮ่องเต้ ว่าจะทรงมีพระปรีชาสามารถให้การควบคุมจัดการขันทีมากน้อยแค่ไหน ถ้าฮ่องเต้มีความสามารถ มีหรือแค่ขันทีเล็กๆ จะปราบไม่อยู่”
“แต่การที่ปล่อยให้กองทัพอื่นเข้าเมืองเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นั่นคือ การชักศึกเข้าบ้าน สุดท้ายกลายเป็นหนีเสือปะจระเขัแทน”
“แต่โฮจิ๋น ไม่เชื่อข้า กลับไปเชื่ออ้วนเสี้ยวซึ่งมีความรู้และฐานะสูงส่งกว่า แล้วสุดท้ายเป็นยังไง ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองได้ ตั้งตัวเป็นใหญ่ โฮจิ๋นต้องตาย อ้วนเสี้ยวต้องหนี”
ย้อนกลับมาที่การเมืองไทย การคอรัปชั่นฉ้อราษฎร์บังหลวงมีมาตลอดนับตั้งแต่คณราษฎร์ก่อการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นประชาธิปไตย ที่มีนักการเมืองเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินแทนพระมหากษัตริย์
นักการเมืองชั่วคอรัปชั่นมีปรากฏอยู่เรื่อยมาตลอดกว่า 90 ปี พรรคไทยรักไทยและทักษิณ ชินวัตร ตลอดจนกลายมาเป็นยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย ถูกดำเนินคดีฉ้อราษฎร์บังหลวง เหมือนกับนักการเมืองก่อนหน้านั้น
แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่ฉ้อฉลของนักการเมืองจะก้าวล่วงไปหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาเปื้อนการเมืองเท่ากับเหตุการณ์หลังจากทักษิณหลุดจากอำนาจ เกิดกลุ่มคนเสื้อแดงและตามมาด้วยพรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกลที่สนับสนุนกลุ่มคนสามนิ้วที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ยุคโบราณ ถ้าฮ่องเต้มีความสามารถ มีหรือแค่ขันทีเล็กๆ จะปราบไม่อยู่ หรือถ้าเป็นเมืองไทย ถ้าพระมหากษัตริย์มีความสามารถ มีหรือแค่ขุนนางเล็กๆ จะปราบไม่อยู่
แต่ปัจจุบัน พระมหากษัตริย์ไม่ได้มีอำนาจปกครอง นักการเมืองทำงานร่วมกับข้าราชการปกครองกันเอง แล้วก็ฉ้อฉลกันเอง สุดท้ายควบคุมกันเองไม่ได้ ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาเป็นแพะรับบาปที่นักการเมืองและข้าราชการเป็นผู้กระทำ
คนไทยเคยปฏิเสธทักษิณ ตอนนี้ปฏิเสธประยุทธ์ และกำลังต้อนรับธนาธร-พิธา เรากำลังอยู่ในสถานกาณ์ “หนีเสือปะจระเข้”แถมมีเรื่อง”ชักศึกเข้าบ้าน”
เหตุการณ์ช่วงที่ตันก๋งคุยกับโจโฉ เป็นเหตุการณ์ก่อนจะเกิดสามก๊ก มันก็คงคล้ายกับเมืองไทยที่ยังไม่แตกเป็นก๊ก แต่มันอาจจะกำลังจะแตกเป็นก๊กในไม่ช้า เพราะจระเข้เดินสายเหนือใต้ พูดเรื่องดินแดนและการปกครองท้องถิ่นเป็นเอกเทศ
“การที่ขันทีเรืองอำนาจนั้นมีอยู่คู่ประวัติศาสตร์มายาวนาน ขึ้นอยู่กับฮ่องเต้ ว่าจะทรงมีพระปรีชาสามารถให้การควบคุมจัดการขันทีมากน้อยแค่ไหน ถ้าฮ่องเต้มีความสามารถ มีหรือแค่ขันทีเล็กๆ จะปราบไม่อยู่ แต่การที่ปล่อยให้กองทัพอื่นเข้าเมืองเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นั้นคือ การชักศึกเข้าบ้าน สุดท้ายกลายเป็นหนีเสือปะจระเข้แทน”
ทบทวนคำพูดของโจโฉ แล้วไตร่ตรองให้ดี ว่าทำอะไรลงไป และจะแก้ไขหรือรับมืออย่างไร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การเรียนประวัติศาสตร์ สำคัญต่อเรื่องการเมือง-นโยบายหรือไม่ 'เอ็ดดี้' มีคำตอบ
ไม่มีชาติใดกำหนดอนาคตได้ ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองเดินมาจากไหน ประเทศที่มองอดีตไม่ออก จะถูกครอบงำโดยผู้นำที่อ้างประวัติศาสตร์ผิดๆ
'เอ็ดดี้' วิเคราะห์ละเอียดยิบ ทางเลือกของคนไทยรักชาติ กาพรรคใดเข้ามาบริหารประเทศ
การเมืองรอบนี้ไม่มี พระเอกขี่ม้าขาว ที่สมบูรณ์แบบ 100% เราต้องถามตัวเองว่า เราให้ราคากับอะไรมากที่สุด? เลือกแบบไหน ได้ประเทศแบบนั้น
ทีมเรือใบวายุกราบพระบรมศพ 'สมเด็จพระพันปีหลวง' พสกนิกรหลั่งไหลถวายอาลัย
ทีมเรือใบวายุเข้ากราบพระบรมศพ 'สมเด็จพระพันปีหลวง' มุ่งมั่นคว้าชัยซีเกมส์ตอบแทนชาติ-สถาบันกษัตริย์ พสกนิกรทั่วสารทิศถวายอาลัยต่อเนื่อง
อัษฎางค์ ชี้สหรัฐใช้อำนาจเหนือความยุติธรรม ใช้การค้ากดดันไทย
นายอัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอนเซอร์การเมืองชื่อดังฝ่ายอนุรักษ์นิยม โพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่บทความเรื่อง “วันนี้ผมหยุดสงครามไม่ได้ด้วยกำแพงภาษี” นี่คือจิตวิญญาณของนโยบาย “American first”
‘เอ็ดดี้ อัษฎางค์’ มองต่างวาทกรรม ‘อนุทินขายชาติ’ ชี้ปัญหาชายแดนไม่มีรัฐบาลไหนปิดจบ
นายอัษฎางค์ ยมนาค ผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์”

