อดีตเด็กก้าวไกลบอกเคยมีคนบอกแล้วว่าพรรคอย่าแหลมให้มากนัก

อดีต ส.ส.ก้าวไกลเสียใจกับพิธา ย้อนวันวานมีคนแนะแล้วว่าอย่าแหลมเกินไป ฟันธงเรื่องที่เกิดกับก้าวไกลไม่จบแค่นี้แน่ บอกหลังยุคน้าชาติใครอยากเป็นนายกฯ มักชวด

20 ก.ค.2566 - นายคารม พลพรกลาง อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ต้องขอแสดงความเสียใจกับคุณทิม พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะอดีต ส.ส.ที่ผ่านการเลือกตั้ง และอยากทำงานให้บ้านเมืองเหมือนกัน การที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้คุณทิม หยุดปฎิบัติหน้าที่นั้น ผมเข้าใจความรู้สึกดี แต่ด้วยที่ข้อเท็จจริง ประกอบเข้ากับข้อกฎหมาย และด้วยความร้อนแรงของพรรคก้าวไกล จึงทำให้ผลออกมาอย่างที่เห็น แต่นี้ก็เป็นเพียงการหยุดปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราว

ผมไม่บังอาจจะไปแนะนำมวลสมาชิกพรรคก้าวไกล ที่เก่งอยู่แล้ว แต่ในฐานะอดีตนักการเมือง ที่วันนี้เป็นเพียงประชาชนธรรมดา เข้าใจความรู้สึกดี ถึงความเสียใจ ในวันยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ผมเคยรับทราบกับตัวเอง

ช่วงเป็น ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ มีการอบรม ส.ส.ใหม่ที่สนามกอล์ฟคุณธนาธรที่ศรีราชา มีวิทยากรท่านหนึ่ง ไปอบรม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ผมนั่งฟังอยู่ด้วย เขาชื่อวีระ ธีรภัทร ได้พูดกับ ส.ส.และผู้บริหารพรรคอนาคตใหม่ว่า ท่านอย่า “แหลม” มากนักในบางเรื่อง เรื่องไหนไม่ควรทำก็อย่าทำ ผมนั่งฟังยังจำได้ดี ต่อมาพรรคอนาคตใหม่ได้ถูกยุบ กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิทั้งหมด

ตอนพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ผมจะย้ายเข้าพรรคก้าวไกล ผมบอกกับเลขาธิการพรรคก้าวไกลว่า ผมจะไม่ลงชื่อแก้ ปอ.มาตรา 112 สุดท้ายผมถูกถีบจากพรรคอนาคตใหม่ แบบไม่ไล่ออก แต่ดองไว้ โดยคุณพิธาให้สัมภาษณ์ ว่าจะไม่ขับผม คุณทิมคงจำได้ดี

ผมไม่เคยคิดจะย้ายพรรค แต่เพราะวัฒนธรรมของพรรคนี้ ผมจึงอยู่ไม่ได้ ตอนนี้แม้ผมจะสอบตก มาเป็นประชาชนธรรมดา ทำกับข้าวกินเอง กวาดบ้านเอง หากินเลี้ยงตัวเอง เป็นราษฎรเต็มขั้น แต่ด้วยเป็นนักกฎหมาย ที่ประกอบอาชีพทนายความมา 35 ปี มีสำนักงานทนายความเป็นของตนเอง ผมเคยบอกว่า “สิ่งเหล่านี้ จะเกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกล และจะไปอีกไกลไม่ได้หยุดแค่นี้”

เสียดายคุณพิธา ที่เป็นคนหนุ่ม เป็นคนเก่ง ควรได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย แต่เพราะนโยบายบางอย่างก็ต้องพบเจอคลื่นอีกเยอะ จริงๆ ก็ผมเสียดายนะ เพราะเป็นคนเก่งคนหนึ่ง เท่าที่ผมตามการเมือง มาตั้งแต่ยุคพลเอกชาติชาย ชุณหวัน คนที่อยากเป็นนายกฯ มากๆ และประกาศตัวชัดเจนว่าจะเป็นนายกฯ ของประเทศไทย มักจะไม่ได้เป็น ผมไม่รู้เหตุผลนี้ แต่ส่วนใหญ่เป็นแบบนั้น คือไม่ได้เป็น

ช่วงนี้ในต่างจังหวัด เศรษฐกิจถือว่าไม่ดีเงินหายาก เพราะเป็นช่วงทำนา ผลผลิตยังไม่ออก ค่าครองชีพสูง ค่าไฟฟ้าสูง อย่างในอำเภอสุวรรณภูมินี้ จะไม่ค่อยเห็นงานใหม่ๆ ให้คนทำ คนเป็นข้าราชการก็ดีหน่อย มีเงินเดือน แต่ชีวิตคนส่วนมากก็ไปเรื่อยๆ ใครรายจ่ายน้อยอยู่ได้ ถ้าค่าใช้จ่ายเยอะ ส่งลูกเรียน ผ่อนรถ ผ่อนอย่างอื่น ก็อยู่ลำบาก

เพราะฉะนั้นรัฐบาลใหม่ต้องอัดฉีดงบประมาณ ให้มีเงินลงไปในระบบให้มากที่สุด ก็จะทำให้เศรษฐกิจค่อยๆ ดีขึ้น ให้กำลังใจทุกคน ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ทำมาหากินคล่องๆ กัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'

นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ