สว.คำนูณ ตั้ง 4 ประเด็น ออกพ.ร.บ.กู้เงินแจกเงินดิจิทัล 10,000 ขัดกฎหมายหรือไม่ 

12 พ.ย. 2566 – นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับ พ.ร.บ.กู้เงินแจกเงินดิจิทัล 10000 

‘กู้มาแจก’ ขัดกม.หรือไม่ ?

การตราพระราชบัญญัติกู้เงิน 5 แสนล้านมาแจกคนละหมื่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ผมเห็นว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 140 หากพระราชบัญญัตินั้นเป็นไปตามเงื่อนไขพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาตรา 53

ประเด็นคือการตรากฎหมายพิเศษเพื่อกู้เงินตามมาตรา 53 ของกฎหมายดังกล่าว ไม่ใช่ทำได้ทุกกรณี แต่มีเงื่อนไขกำกับไว้ให้ทำได้เฉพาะกรณีเท่านั้น

“เฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน และอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ โดยไม่อาจตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน”

ขอแตกออกเป็น 4 ประการ

“เร่งด่วน”

“ต่อเนื่อง”

“แก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ”

“ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีไม่ทัน”

ต้องบอกด้วยความเคารพว่าแทบจะไม่เข้าสักประการ 

หนึ่ง – ถ้ามีความจำเป็นเร่งด่วนจริงทำไมไม่ตราเป็นพระราชกำหนดให้มีผลบังคับใช้ทันที การตราเป็นพระราชบัญญัติตัองผ่าน 2 สภา สภาละ 3 วาระ และอาจมีขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญอีก 

สอง – โครงการนี้ไม่ได้ตัองการใช้เงินต่อเนื่อง แต่ใช้ครั้งเดียวทั้ง 5 แสนล้านบาทแจกเข้าบัญชีประชาชน 50 ล้านคน

สาม – วันนี้ประเทศไม่ได้ประสบปัญหาวิกฤต อย่างน้อยหากเปรียบเทียบกับยุคโควิด 19

สี่ – ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาเลย โดยเงื่อนเวลาสามารถปรับยอดการใช้จ่ายโครงการนี้เข้าไปได้ ซึ่งก็จะตรงกับที่พรรคเพื่อไทยชี้แจงแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้ในโครงการนี้ไว้กับกกต. เมื่อปลายเดือนเมษายน 2566 

ทั้ง 4 ประการนี้มีเพียงประการที่ 3 ว่าด้วย “วิกฤต” เท่านั้นที่พอเถียงกันได้ โดยรัฐบาลอาจมองได้ว่าการที่ GDP ของประเทศโตในระดับต่ำถือเป็นวิกฤตที่จะตัองแก้ไขโดยเร่งด่วน 

ถามว่าใน 4 ประการนี้มีประการไหนสำคัญสุดหรือไม่

น่าจะเป็นประการที่ 4 

เพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายมาตรานี้มีขึ้นเพื่อป้องกันการออกกฎหมายพิเศษกู้เงินและใช้เงินกู้นั้นไปนอกงบประมาณแผ่นดินทันทีโดยปราศจากเงื่อนไข จึงเพิ่มเงื่อนไขไว้ 4 ประการด้วยกัน โดยประการสุดท้ายที่เรากำลังกล่าวถึงอยู่นี้กำหนดว่าต้องอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่อาจตั้งงบประมาณการใช้จ่ายไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้การใช้จ่ายเงินแผ่นดินอยู่ภายใต้กรอบของพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ยังคาอยู่ ปรับแก้ได้ทัน จะมาออกพระราชบัญญัติกู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท ดูอย่างเอาใจช่วยอย่างไรก็ไม่น่าชอบด้วยมาตรา 53

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นเบื้องต้นโดยสุจริตของคน ๆ หนึ่งที่อยู่ในกระบวนการนิติบัญญัติมาหลายปี ผ่านการถกเถียงประเด็นการออกกฎหมายพิเศษเพื่อกู้เงินนอกงบประมาณมาพอสมควร ทั้งในช่วงปี 2552 และ 2554 – 2556 และเคยเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐเมื่อปี 2560 ในฐานะผู้แทนของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย โดยเป็นกรรมาธิการเสียงข้างน้อยที่สงวนความเห็นในมาตรา 53 ไว้

ถูกผิดประการใดโปรดพิจารณา

จากนี้ไปก็รอความเห็นอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการกฤษฎีกา

คำนูณ สิทธิสมาน

สมาชิกวุฒิสภา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต.ส่งศาลฎีกา ฟันใบดำ -ใบแดง ผัวฮั้วสว.ให้เมีย

เชือดฮั้ว สว.ไปอีกราย! กกต.มีมติส่งศาลฎีกาสั่งใบดำ-ใบแดง พร้อมฟันอาญา "กำพล" อดีต สว. ปมจ้างคนลงสมัคร หวังให้เมียนอกสมรสได้รับเลือกเป็น สว.แปดริ้ว

กกต. มีมติส่งศาลฎีกา สั่งใบดำ-ใบแดง พร้อมฟันอาญา 'กำพล' อดีต สว.

เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เผยแพร่คำวินิจฉัยกกต.มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายกำพล เลิศเกียรติดำรงค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา

ดร.ณัฏฐ์ ผ่าปมมติ สว. ส่ง 'นันทนา' ให้ ป.ป.ช. ฟันจริยธรรมร้ายแรง

สืบเนื่องจาก มติวุฒิสภาเสียงข้างมากวินิจฉัยชี้ขาดว่า นางนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา มีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง และส่งให้ ปปช. เพื่อ

สว.เสียงข้างน้อยอวยรัฐสภาไทยผลักดันปราบสแกมเมอร์

'สว.เสียงข้างน้อย' ขอบคุณรัฐสภาไทยผลักดันปราบสแกมเมอร์ เป็นวาระใหญ่ใน IPU จี้ 'รัฐบาล' ต้องชัดเจนในการปราบปราม เตือนอย่าห่วงเสถียรภาพ ระวังแหกโค้งทางการเมือง