ระวังชีวิตพัง! ส.ส.วัน เตือนสติ 'อดีตพระมหาสมปอง' ท้าตีท้าต่อย 'ศรีสุวรรณ'

แฟ้มภาพ

3 ม.ค.2565 - จากกรณีนายสมปอง นครไธสง หรือ อดีตพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ประกาศขอท้าชกกับ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ตามกติกามวยไทยคาดเชือกกับ ในที่ 14 ก.พ.2565 นั้น

นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก Wan Ubumrung ระบุข้อความว่า “ กล่าวเตือนอดีตพระมหาสมปองขอให้ใจเย็นๆ ในฐานะที่ผมก็เป็น Fc ทิดสมปอง คนหนึ่งกรณีที่ท้าพี่ศรีชกกันนั้น อยากจะบอกว่า “ใจเย็นๆนะน้องทิด…รักษาทรงดีๆ ด้วยรักและเป็นห่วง กองเชียรก็อย่าใจร้อนกันนักเลยครับ กัลยาณมิตรที่ดีต้องคอยตักเตือนกัน…ไม่ใช่ยุส่ง ผมเคยใจร้อนมาก่อนแล้วชีวิตมันพัง ไม่อยากเห็นเพื่อนชีวิตพังเหมือนอย่างผม”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘วัน’ อัดโพลปั่นไวจัง! การเมืองยุคนี้แข่งปั่นโซเชียลมากกว่าผลงาน

นายวัน อยู่บำรุง ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขตบางบอน พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กต่อกรณีกราฟิกข่าวของเพจการเมืองสำนัก

'สรวงศ์' ป้อง 'อิ๊งค์' ไม่ได้ชี้หน้า-ขึ้นเสียง 'วัน อยู่บำรุง' โต้นิ่มๆ ไม่แปลกใจที่ต้องพูดแบบนี้

นายสรวงศ์เทียนทอง สส.สระแก้ว และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีที่นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.กทม พรรค พท. ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการหนึ่งโดยมีการพูดถึงน.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรค พท. ภายหลังเดินทางไปไปให้กำลังใจพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือบิ๊กแจ๊ส

'พี่ศรี' ให้ถ้อยคำ กกต. ปมร้อง 'ทักษิณ' ชี้นำเพื่อไทยทวงมหาดไทย

นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมืองคณะที่ 1กกต.กรณีที่องค์กรรักชาติ รักแผ่นดินได้ยื่นคำร้องต่อ กกต.

'สรวงศ์' จี้ 'ศักดิ์ดา' นั่ง รมต. ต้องลาออก ชี้ปมขับ 'เฉลิม' พรรคไม่รั้งไว้

"สรวงศ์" โยนคณะกรรมการจริยธรรม-กรรมการบริหารเพื่อไทยฟันปมงูเห่า หลัง ‘วัน อยู่บำรุง’ จี้ ขับ ’เฉลิม‘ ออกจากพรรค ซัด ‘ศักดิ์ดา’ จะนั่ง รมต. ต้องลาออก ชวนจับตา ‘อนุทิน‘ คุม มหาดไทยหวั่น ยุ่งคดีเขากระโดง-ฮั้ว สว. เชื่อไม่ง่ายเหตุประชาชนให้ความสนใจ

‘ศรีสุวรรณ’ จ่อบุก ป.ป.ช. จี้ลงดาบ ‘อิ๊งค์’ ชี้มูล-ส่งศาลฎีกาฟัน

คำวินิจฉัยในคดีระบุไว้ชัดเจนว่า การกระทำของ น.ส.แพทองธาร เป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ซึ่งเมื่อพิจารณาประกอบกับเจตนาและความความร้ายแรงของความเสียหายที่เกิดขึ้น ถือว่ามีลักษณะร้ายแรง