อัยการสูงสุด ตามเงินสินบน 10.46 ล้าน จากอดีตผู้ว่า ททท.-ลูกสาว ทุจริตฯจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯในช่วงปี 2545-2550 คืนประเทศไทย
16 ก.ย.2567 - งานโฆษก สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ออกแถลงเกี่ยวกับการติดตามเงินจำนวน 10.46 ล้านบาทจากผู้กระทำผิดจากโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพความว่า คดีนี้ เมื่อปี 2565 สำนักงานอัยการสูงสุดได้รับเรื่องจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) กรณีกล่าวหานางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ผู้ว่า ททท.) และบุตรสาว ซึ่งร่วมกันทุจริตโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ในช่วงปี 2545 - 2550 ซึ่งต่อมาอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ประสานงานกับอัยการสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินการติดตามทรัพย์สินที่ได้จากการทุจริตส่งคืนให้กับประเทศไทย
สำนักงานอัยการสูงสุดขอชี้แจงความเป็นมาเกี่ยวกับคดี ดังนี้
1. ทรัพย์สินที่จะต้องดำเนินการเจรจาให้ส่งคืนดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องจากการสืบสวนสอบสวนของอัยการสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินคดีกับ Mr. Gerald Green (ขณะนี้เสียชีวิตแล้ว) และภรรยาของเขาคือ Ms. Patricia Martha Green และคนไทยสองคน คือ นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่า ททท และน.ส.จิตติโสภา ศิริวรรณ บุตรสาวซึ่งได้ร่วมกันทุจริตรับสินบน จากการตรวจสอบ ทางการสหรัฐอเมริกาพบเส้นทางการเงินของสินบนส่วนหนึ่งจ่ายให้แก่นางจุฑามาศ ศิริวรรณ โดยส่งไปยังเกาะเจอร์ซี่ย์ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเอง ภายใต้อธิปไตยของสหราชอาณาจักร
2.ต่อมาวันที่ 16 มีนาคม 2565 สำนักงานอัยการสูงสุดได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอให้ทางการเกาะเจอร์ซี่ย์ดำเนินการริบเงินสินบนของนางจุฑามาศ ศิริวรรณ ดังกล่าว ส่งคืนประเทศไทย หลังจากนั้น สำนักงานอัยการสูงสุดเกาะเจอร์ซี่ย์ได้ดำเนินการตามกระบวนการพิจารณาริบทรัพย์สินตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดประสานงานจนกระบวนการพิจารณาของทางการเกาะเจอร์ซี่ย์มีคำสั่งให้ริบทรัพย์สินดังกล่าวและคดีถึงที่สุด ทางสำนักงานอัยการสูงสุดเกาะเจอร์ซี่ย์ได้สอบถามมายังสำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุดว่า เงินดังกล่าวจะให้ส่งคืนให้ทางการสหรัฐอเมริกาหรือประเทศไทย เนื่องจากมีการยื่นคำร้องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเกาะเจอร์ซี่ย์ทั้งสองประเทศ
3. สำนักงานอัยการสูงสุดจึงได้หารือประเด็นดังกล่าวกับพนักงานอัยการสหรัฐอเมริกาและกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา จนได้ข้อยุติว่า ทางสำนักงานอัยการสูงสุดเกาะเจอร์ซี่ย์จะส่งทรัพย์สินให้ทางสหรัฐอเมริกาก่อน เพราะเป็นผู้ยื่นคำร้องขอให้ยึดก่อน รวมทั้งเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนี้ในหลายประเทศ เมื่อทางการสหรัฐอเมริกาได้รับทรัพย์สินจากทางการเกาะเจอร์ซี่ย์แล้ว ก็จะรวบรวมส่งเงินคืนให้กับประเทศไทยเอง ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อตกลงภายใต้สนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญาระหว่างไทย -สหรัฐอเมริกา ค.ศ. 1986
4.ต่อมาสำนักงานอัยการสูงสุดจึงแจ้งเรื่องดังกล่าวให้สำนักงานอัยการสูงสุดเกาะเจอร์ซี่ย์รวมถึงการประสานกับพนักงานอัยการสหรัฐอเมริกาและกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา เพื่อขอให้สหรัฐอเมริกาได้ส่งเงินจำนวน 10.46 ล้านบาท คืนให้กับประเทศไทยเพื่อเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป
นอกจากนี้ เงินสินบนจากคดีนี้ได้มีการโอนผ่องถ่ายไปยังหลายประเทศ รวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์ ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดได้ยื่นคำร้อง ขอให้มีคำสั่งริบและส่งคืนทรัพย์สินมายังประเทศไทยในทุกประเทศ ขณะนี้ทุกเรื่องอยู่ในระหว่างการดำเนินกระบวนพิจารณาในประเทศนั้น ๆ โดยสำนักงานอัยการสูงสุดได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับพนักงานอัยการในแต่ละประเทศ และจะรายงานผลความคืบหน้าต่อไป
ในเรื่องดังกล่าว นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด ได้มอบหมายให้พนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศสำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการ ซึ่งความสำเร็จในเรื่องนี้เป็นผลโดยตรงที่เกิดจากการประสานงานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดของประเทศไทย สำนักงานอัยการสูงสุดสหรัฐอเมริกา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา และสำนักงานอัยการสูงสุดเกาะเจอร์ซี่ย์ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นภารกิจโดยตรงของสำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะที่อัยการสูงสุดเป็นผู้ประสานงานกลางตามกฎหมายของประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาจำคุกนางจุฑามาศ ศิริวรรณอายุ 77 ปี อดีตผู้ว่าการ ททท. และ น.ส.จิตติโสภา ศิริวรรณ บุตรสาว อายุ 50 ปี เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 จากกรณีรับเงินตอบแทน สามี-ภรรยาชาวสหรัฐอเมริกา นักธุรกิจภาพยนตร์ เพื่อให้ได้สิทธิในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ พ.ศ. 2545-2550 มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท โดยให้จำคุกนางจุฑามาศ 66 ปี แต่ตามกฎหมายจำคุกสูงสุดไว้ 50 ปี ส่วนน.ส.จิตติโสภาจำคุก40 ปี ต่อมาศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคงจำคุกสูงสุดนางจุฑามาศ 50 ปี และจำคุก น.ส.จิตติโสภา รวม 40 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อสส. ไฟเขียว 'อัยการธนกฤต' นั่งที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
อัยการสูงสุด ได้อนุญาตให้ ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการผู้เชี่ยวชาญ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายสัญญาและหารือ 4 สํานักงานที่ปรึกษา กฎหมายปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินได้
ซวยแล้ว! อสส. รับคดีพ่อลูกตระกูลฮุนสั่งยิง เป็นคดีนอกราชอาณาจักร
อัยการสูงสุดรับคดี พ่อลูกตระกูลฮุนฯ สั่งยิงระเบิดตกในไทยรอบเเรกเป็นคดีนอกราชอาณาจักรเเล้ว “วัชรินทร์”อธ.อัยการสอบสวน จัดคณะอัยการลงพื้นที่ภาค 3 ร่วมสอบคดี
อัยการวัชรินทร์ ตั้งทีมงานชุดใหญ่สอบคดีกัมพูชายิงถล่มไทย เอาผิดฮุนเซน-ฮุนมาเนต
ผบช.ภ.3 ส่งสำนวนเขมรยิงระเบิดใส่ไทย ให้ อสส.เเล้ว "วัชรินทร์" อธ.อัยการสอบสวน เตรียมตั้งคณะทำงานเกือบยกสำนักงาน ลุยคดีให้ 2 พ่อลูกตระกูลฮุนรับผิดชอบความสูญเสีย
ศาลอาญาไฟเขียว อัยการขยายยื่นอุทธรณ์อีก 30 วัน คดี 'ทักษิณ' หมิ่นเบื้องสูง
ศาลอาญาพิจารณาคำร้องขอขยายอุทธรณ์ของพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา8แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ขยายอุทธรณ์จนถึงวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เป็นเวลาประมาณ 30 วัน ที่พนักงานอัยการฯมีเวลายื่นอุทธรณ์คดีนี้ได้
อัยการยื่นขยายเวลาอุทธรณ์คดี 112 ของทักษิณ หวั่นร่างอุทธรณ์เสร็จไม่ทันกำหนด
อัยการยื่นขยายอุทธรณ์ครั้งที่ 3 คดี “ทักษิณ” หมิ่นเบื้องสูง กันเหนียว หลังความเห็นให้อุทธรณ์ของ อสส.ส่งมาอัยการกองคดีอาญาเเล้ว เเต่อยู่ระหว่างร่างอุทธรณ์
กูรูใหญ่โชว์กึ๋น ’อุทธรณ์คดี112’ ข่มเหงรังแก ‘ทักษิณ’ เพื่อไทยจะกลับมายิ่งใหญ่!
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊กว่าเล่นงานทักษิณกัน จนกระแสนิยมพลิกกลับไปสู่พรรคเพื่อไทยแล้ว จะได้ผลตรงกันข้าม ทำให้ทักษิณกลายเป็นวีรบุรุ

