30 ก.ย.2567 - สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวว่า “ป.ป.ช. สอบ กกต. ถอดถอนทั้งคณะทำผิด รธน. – อดีตที่ปรึกษา ปธ. ผู้ตรวจการฯ ลุยเองส่งศาล รธน. ฟัน ลต. โมฆะ - สส. หลุดทั้งสภา” โดยรายงานว่า นายณฐพร โตประยูร ได้ยื่นถอดถอน กกต. ในความผิดเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 และวันที่ 27 ก.ย. 2567 ได้นำเรื่องร้องเรียน กกต. มายื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้แสวงหาข้อเท็จจริงและพิจารณาเรื่องร้องเรียน ว่า กกต. ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม และให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การเลือกตั้ง สส. และ สว. ในครั้งที่ผ่านมาเป็นโมฆะ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้เป็นไปตามที่ร้องเรียนแล้ว จะทำให้ กกต. ถูกถอดถอนทั้งคณะ อีกทั้ง ได้กล่าวหาว่า ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจ กกต. ประกาศผลการเลือกตั้งและการเลือกก่อน หลังจากนั้นจึงจะสอย ผู้กระทำความผิดในภายหลัง และการเลือกตั้ง - การเลือกครั้งที่ผ่านมา กกต. ไม่เคยดำเนินคดีกับผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ขอเรียนชี้แจงว่า การให้สัมภาษณ์ของบุคคลดังกล่าวคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง อันอาจทำให้สาธารณชนหลงเชื่อและเข้าใจผิดว่า กกต. ไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายอันอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม นั้น ปรากฏว่า ป.ป.ช. ไม่เคยมีมติชี้มูลว่า กกต. ทั้งคณะกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายในเรื่องหนึ่งเรื่องใด อีกทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน ยังไม่ได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงฯ หรือเรียกให้ กกต. ชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องหนึ่งเรื่องใดตามที่นายณฐพร กล่าวหา
ทั้งนี้ กกต. ได้ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามมาตรา 226 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560 “...ภายหลังการประกาศผลการเลือกตั้งหรือการเลือกแล้วมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือผู้สมัครรับเลือกผู้ใดกระทำการทุจริตในการเลือกตั้งหรือการเลือกหรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น ให้ กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น” ทุกประการ
ส่วนการดำเนินคดีกับผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายบัญญัติ หากปรากฏว่า มีผู้ร้องเรียนว่าบุคคลหนึ่งบุคคลใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม กกต. จะทำการสืบสวนหรือไต่สวน เมื่อได้ข้อเท็จจริงเป็นที่สิ้นสุดแล้ว จะส่งฟ้องศาลฎีกาเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด รวมทั้งเพิกถอนสิทธิสมัคร ผู้ที่ขาดคุณสมับัติและมีลักษณะต้องห้ามจำนวนมาก ในปัจจุบัน กกต. ได้มีมติให้ดำเนินคดีกับผู้สมัคร สส. จำนวน 56 ราย ส่วนผู้สมัคร สว. สำนักงาน กกต. ได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอให้ กกต. มีมติดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำความผิดต่อไป ดังนั้น การให้สัมภาษณ์ของนายณฐพร จึงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อในข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตั้งทีมสอบประชานิยม/44ส้มระทึก
กกต.ลั่นคุมเข้มนโยบายประชานิยมหาเสียง ตั้ง คกก.ตรวจสอบเงินที่ใช้-วิเคราะห์ผลกระทบ ชี้ชัด "อินฟลูฯ-ยูทูบเบอร์" สมัคร สส.
กกต. ขึงขัง! สกัดขายฝัน 'ประชานิยม' ตั้ง คกก.คุมเข้มนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง 69
กกต.ลั่นคุมเข้มนโยบายประชานิยมหาเสียง ตั้ง คกก.ตรวจสอบเงินที่ใช้-วิเคราะห์ผลกระทบ ชี้ชัดอินฟลู-ยูทูปเบอร์ สมัคร สส.ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม ไม่เป็นเจ้าของ-ถือหุ้นสื่อ เป็นผู้ใช้สื่อ
ครม. เห็นชอบงบเลือกตั้ง-ทำประชามติ 8,978 ล้าน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป
ไต่สวนเสร็จแล้ว! คดี 44 อดีตสส.ก้าวไกล รอลุ้น ประธาน ป.ป.ช. ชงชี้ชะตา 25 ธ.ค.นี้
ป.ป.ช. บรรจุวาระประชุมพิจารณา คดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล กรณีถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯอย่างร้ายแรง ในการร่วมลงชื่อ และยื่นเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเดิมคาดว่าจะมีการบรรจุวาระในวันที่ 25 ธ.ค.นั้น
ป.ป.ช. อนุญาต 'แพทองธาร' ขอขยายเวลายื่นบัญชีทรัพย์สิน 30 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถึงกรณีการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในรายของอดีต ครม.แพทองธาร ชินวัตร
ทะลุ 2 แสนคน แห่ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า-นอกราชอาณาจักร
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า และเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่สองของการเปิดให้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า พบว่า มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

