เด็ก ปชน.เย้ย 'แอ่วเหนือคนละครึ่ง' แค่สร้างกระแสสุดเลื่อนลอยไร้พลัง!

'ณัฐพล' มอง 'แอ่วเหนือคนละครึ่ง' เลื่อนลอย-ไร้พลัง เหตุเป็นแคมเปญการตลาด ไม่ได้คาดหวังกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ 'รัฐบาล' อ้าง

24 ต.ค. 2567 - นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง ว่า ในฐานะที่ตนเคยเป็นผู้ประกอบการที่พัก และเคยเป็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ซึ่งเคยใช้โครงการของรัฐบาลอื่น เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการต่างๆ ในลักษณะนั้น แต่จากความคืบหน้ารายละเอียดของโครงการนี้ ที่รัฐบาล ระบุ ออกมาเพื่อช่วยในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังจากเกิดอุทกภัย และเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วง ฤดูท่องเที่ยว แต่โครงการนี้ช่วยเหลือเพียงแค่ 400 บาท และให้ 10,000 สิทธิ์เท่านั้น ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ จากทั้งนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการเองว่า จะช่วยกระตุ้นได้อย่างไร

นายณัฐพลกล่าวอีกว่า ในวันนี้กรรมาธิการฯ ก็ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาเพื่อร่วมประชุม แต่ท่านไม่ได้มา มีแต่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มา ซึ่งเราก็ได้สอบถามเกี่ยวกับโครงการนี้ว่า 400 บาทนั้น ท่านคิดมาอย่างไร 10,000 สิทธิ์นั้น ท่านคิดมาอย่างไร และมันจะเพียงพอหรือไม่ แต่สิ่งที่ทางกรรมาธิการได้สอบถามกลับไปก่อนที่จะให้ทางหน่วยงานชี้แจงมาชี้แจงนั้น ซึ่งในหลักความเป็นจริง และหลักการตลาด เวลาคิดราคา คิดส่วนลด หรือคิดคูปองขึ้นมา ต้องอ้างอิงจากค่าใช้ค่าเฉลี่ย ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยไปใช้จ่ายในจังหวัดนั้นๆ ซึ่งข้อมูลสถิติเหล่านี้ จากที่ตนหาข้อมูลมา ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวไทยคนหนึ่ง ที่ไปใช้จ่ายในจังหวัดเชียงใหม่ ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณ 5,000 บาทต่อคน ก็ควรที่จะต้องเสนอการลดราคาสัก 15-40 เปอร์เซ็นต์ ถึงจะเกิดการกระตุ้นให้คนอยากไปจริงๆ ได้

"แต่ 400 บาท ไม่ได้มีที่มาที่ไป เหมือนเรารู้ว่าคนต้องคนซื้อของชิ้นนี้ 5,000 บาท คุณลดราคาแค่ 400 บาท ใครจะไปอยากซื้อ"

นายณัฐพล กล่าวต่อว่า แทนที่จะมีการตอบชัดเจน แต่เปล่าเลย คำตอบที่รับมา เขาบอกว่า เป็นเพียงแค่การสื่อสารออกไปเพื่อสร้างกระแสเฉยๆ ไม่ได้คาดหวังว่า 400 บาท 10,000 สิทธิ์นี้ จะช่วยให้คนจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พักได้จริงๆ เป็นแค่แคมเปญหนึ่งที่จะโฆษณาสร้างกระแสว่า จังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ พร้อมที่จะให้ท่านเที่ยวแล้วนะ

นายณัฐพล กล่าวอีกว่า จึงถามต่อไปว่า แล้วท่านจะชี้วัดโครงการนี้ได้อย่างไร เนื่องจากท่านรัฐมนตรีเคยบอกว่า หากโครงการนี้สำเร็จ จะทำต่อ หรือถ้าคนใช้สิทธิ์ครบทั้งหมด ก็ถือว่าสำเร็จ แล้วแบบนั้นหรือ และกรณีที่เอกสารระบุไว้ว่า ต้องลงทะเบียนภายใน 25 ต.ค.ที่จะถึงนี้นั้น สำหรับผู้ประกอบการ วันนี้วันที่ 24 ต.ค.แล้ว แต่รายละเอียด ให้ลงที่ไหน อย่างไร ไม่มี และเมื่อตนสอบถามว่า ผู้ประกอบการประเภทใด สามารถลงทะเบียนได้บ้าง เขาก็ชี้แจงว่า จะนำส่งข่าวนี้ให้กับเครือข่ายสมาคมที่พักที่ ททท. รู้จัก นั่นหมายความว่า จะมีผู้ประกอบการอีกจำนวนมากที่ไม่รู้เรื่อง และไม่สามารถลงทะเบียนได้ มันจะเกิดประโยชน์อะไรๆ

"โครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง เพราะเป็นโครงการที่เลื่อนลอย ไร้พลัง ไร้ประโยชน์ และเป็นเพียงแค่การสร้างกระแส ให้คน รู้สึกสนใจไปเที่ยวเฉยๆ โดยไม่ได้คาดหวังว่าการส่งเสริมโดยการให้เงินโดยตรง และจำนวนสิทธิ์นี้ จะให้ส่งผลใดๆ กับการท่องเที่ยว"

นายณัฐพล กล่าวด้วยว่า เพื่อให้ความเป็นธรรมกับหน่วยงานเงินทั้งโครงการ 4 ล้านบาทนั้น ตนได้สอบถามว่านำออกมาจากไหน ก็ได้รับคำตอบว่า เป็นเงินภายในหน่วยงานเอง ที่สามารถเจียดมาใช้ได้ในทันที ซึ่งก็เข้าใจทางหน่วยงานว่า ถ้าเราจะนำงบประมาณมาทำขยายโครงการนี้เพิ่ม จำเป็นที่จะต้องนำเข้ามติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อของบอื่นๆ มา และต้องใช้เวลา ซึ่งจะไม่ทันช่วงฤดูการท่องเที่ยวที่จะมาถึง เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นนี้ ก็เพื่อกระตุ้นภายหลังจากเกิดอุทกภัยเป็นหลัก เพราะฉะนั้น ต้องรีบทำอย่างเร่งด่วน ภายในเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ เท่านั้น ดังนั้นจึงมีข้อเสนอกลับไปว่า ทาง ททท.เอง สามารถที่จะปรับลดงบประมาณบางโครงการลงได้ หรือพักบางโครงการไปก่อน แล้วอาจจะใช้วิธีการโอนเปลี่ยนแปลง เพราะอย่างน้อยๆ จะได้มีเงินมาซัพพอร์ตโครงการนี้ ที่เป็นการทำการตลาด ไปใช้ในการให้คูปอง ให้สิทธิประโยชน์กับประชาชนโดยตรง ที่น่าจะวัดผลและตอบโจทย์ได้มากกว่า

“โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่เกิดขึ้นในอดีต ก็เกิดขึ้นจากวิกฤตโควิด-19 แต่ปัจจุบันเราไม่ได้มีวิกฤติโควิด-19 แล้ว หากรัฐบาลจะทำโครงการเราเที่ยวด้วยกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะกี่สิทธิ์ หรือจะใช้งบประมาณเท่าไหร่ก็ตาม ต้องอ้างอิงจากผลสัมฤทธิ์ของโครงการที่เคยทำไปแล้ว ถ้าท่านทำขึ้นมาด้วยเหตุผลที่ว่าต้องการกระตุ้นการท่องเที่ยว นั่นหมายความว่า 2 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลปัจจุบัน ที่เน้นการท่องเที่ยวหนักมากๆ ทั้งฟรีวีซ่า หรืออะไรก็ตาม การส่งเสริมเมืองรองผ่านการลดหย่อนภาษี แสดงว่ามันไม่ได้สำเร็จจนท่านต้องคิดโครงการเราเที่ยวด้วยกันขึ้นมาอีกครั้ง”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เด็จพี่' โผล่หยัน 'ปชน.' ไม่กล้าซักฟอก 'อนุทิน' กลัว 'ยุบสภา' ทำแก้รัฐธรรมนูญค้างเติ่ง

‘พร้อมพงศ์’ อัด ปชน. ตรรกกะย้อนแย้ง จี้ ‘อนุทิน’ ปลดรัฐมนตรีทุนเทา ไม่ได้ผล สอนมวย ยื่นอภิปรายใช้เสียงสภาฯ เกินครึ่งโหวตคว่ำ ปลดได้แน่ ผิดหวังห่วงเรื่องแก้รธน. มากกว่า ซักฟอกในสภาฯ ชี้ ทำแฟนคลับผิดหวัง เตรียมโดนลงโทษวันเลือกตั้ง

ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

ปชน. ค้านนัดโหวตแก้ รธน. วาระ 3 หลังปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ

"ณัฐวุติ" ย้ำโหวตแก้ รธน. วาระ 3 ต้องเสร็จก่อนปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ เสี่ยงผิด MOA เชื่อไม่มีเงื่อนไขให้ สว. ควํ่าวาระ 3 เผย หลังโหวตเสร็จ ปชน. เตรียมชง 2 คำถามประชามติให้สภาฯ เคาะทันที

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.

สส.ปชน. เรียกร้องรัฐบาลเยียวยาน้ำท่วมภาคกลางให้มีมาตรฐานเดียวกับภาคใต้

"เต้ ทวิวงศ์​" จี้รัฐบาลอย่า 2 มาตรฐาน ช่วยน้ำท่วมใต้แล้ว หันมาช่วยน้ำท่วมภาคกลางด้วย บอก "ภราดร" ลองกลับมาถามคนอ่างทอง หากรอการเยียวยาเป็นลำดับถัดไปไหวหรือไม่ เหตุอยุธยาจมน้ำมา 4-5 เดือนแล้ว คนเสียชีวิตไปกว่า 20 ราย ชี้ ชาวบ้านต้องทำมาหากิน ควรมีมาตรการชดเชย-ช่วยเหลือเต็มรูปแบบเหมือนกัน

บก.ลายจุด อวยว่าที่นายกฯ ฝึกงานล้างบ้าน เก็บขยะ มีพัฒนาการที่ดี ลงท้ายแขวะ 'อภิสิทธิ์'

นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด โพสต์ภาพนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กำลังล้างบ้านน้ำท่วมที่หาดใหญ่ พร้อมข้อความระบุว่า ใครทนอ่านเรื่องส้มไม่ได้ให้ข้ามไปก่อน