'นรินท์พงศ์' นายกสมาคมทนายความ เเนะวิธีเเก้ปัญหา MOU 44 โดยไม่ต้องลงถนน ชี้สามารถใช้ทางออกโดยเวทีสาธารณะ หรือสภาได้ สุดท้ายยังมี การทำ 'ประชามติ' เป็นทางเลือกสุดท้าย
28 พ.ย.2567 - นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยแสดงความเห็นผ่านเพจเฟซบุ๊กของสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ระบุว่า บันทึกจากนายกสมาคมทนายความฯ
ปัญหาใหญ่ที่สุดของประเทศในขณะนี้ คือปัญหาเกี่ยวกับบันทึกข้อตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา หรือ MOU 44 ที่หลายฝ่ายแสดงความเห็นว่าอาจนำประเทศไทยไปสู่การเสียดินแดน หรือเสียอธิปไตยทางทะเล อันจะนำไปสู่การชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองของประชาชนกลุ่มต่างๆ นั้น
ผมเห็นว่าปัญหาดังกล่าวสามารถหาข้อยุติได้อย่างสันติด้วยวิถีทางประชาธิปไตย ซึ่งสามารถดำเนินการได้หลายวิธี เช่น
1.รัฐบาลเปิดเวทีสาธารณะ (public deliberation) เพื่อเป็นเวทีพูดคุยแสดงความคิดเห็นและแสวงหาข้อยุติอย่างสันติวิธี โดยเปิดโอกาสให้ตัวแทนกลุ่มการเมืองที่เห็นต่าง ซึ่งคับข้องใจได้มีเวทีแสดงความคิดเห็นและตรวจสอบความโปร่งใสของกระบวนการ ในขณะเดียวกันรัฐบาลต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและมีส่วนรับผิดชอบได้ตอบคำถามอย่างครบถ้วน ผมแนะนำให้เชิญอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ลงนาม mou ได้มาชี้แจงข้อสงสัยของกลุ่มการเมืองที่เห็นต่างด้วย
2.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 123 เข้าชื่อร้องขอต่อประธานรัฐสภาให้นำความกราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการประกาศเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ จากนั้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนวทางแก้ปัญหาเกี่ยวกับ MOU 44 ต่อคณะรัฐมนตรี กรณีเช่นนี้สมาชิกและคณะรัฐมนตรีอาจร้องขอต่อประธานสภาเพื่อขอให้อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนของฝ่ายที่เห็นต่างได้เข้ามาชี้แจงหรือแสดงความคิดเห็นต่อสมาชิกในที่ประชุมสภาได้
3.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 129 ขอให้สภาผู้แทนราษฎรแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาศึกษาเกี่ยวกับการดำเนินการ MOU 44 โดยต้องเชิญตัวแทนฝ่ายที่เห็นต่างมาเป็นกรรมาธิการ เพื่อร่วมพิจารณาและมีความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและโปร่งใส
ทางออกที่ผมเสนอข้างต้น เป็นวิธีการตามรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะทำให้ทุกฝ่ายมีเวทีในการแสดงความคิดเห็นอันเป็นสิทธิพื้นฐานของปวงชนชาวไทย แต่สิ่งที่สำคัญคือ ทุกฝ่ายต้องยอมรับและเคารพความเห็นต่างที่ประกอบไปด้วยเหตุและผล โดยไม่ใช้อารมณ์หรือวัตถุประสงค์ทางการเมืองของตัวเองเป็นเครื่องมือและไม่จำเป็นต้องปลุกระดมก่อม็อบลงถนนแต่อย่างใด ซึ่งประชาชนที่ติดตามการแสดงความคิดเห็นจากเวทีที่กล่าวข้างต้นจะเป็นผู้ตรวจสอบ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน แต่ในขณะที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ รัฐบาลควรต้องไม่เร่งดำเนินการใดๆ จนกว่าจะได้ข้อยุติ แต่หากจัดเวทีร่วมกันดังกล่าวแล้วยังหาข้อยุติไม่ได้ ทางออกสุดท้ายคือการถามประชาชนโดยวิธีประชามติ เพราะอำนาจเป็นของประชาชนทุกฝ่ายจึงต้องฟังเสียงของประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ปิยรัฐ' เผย กมธ.ศึกษาเอ็มโอยู 2543 จบแล้วคาดต้น ธ.ค.สรุปได้ทั้ง 2 ฉบับ
'โฆษก กมธ.MOU43-44' เผย ศึกษา MOU43 เสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปยกเลิกหรือไม่ ชี้ไม่มีระบุข้อมูลแผนที่ 1:200,000 มองยกเลิกได้ยาก คาดต้นเดือน ธ.ค.ได้ข้อสรุป
ดร.ปลอดฯ ออกโรงคนไม่รู้เรื่อง MOU 43 และ 44 หยุดพูดดีกว่า
ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก MOU 43 และ 44 ขอให้ผู้รู้พูดจะดีกว่าไหม
'เทพมนตรี' แนะ 'อนุทิน' ไม่ต้องเปิดด่านจนกว่า 'ฮุน เซน' ออกทีวีขอโทษที่คร่าชีวิตคนไทย
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา
'บวรศักดิ์' แจงแก้รธน. ไม่แตะหมวด 1-2 นายกฯรับปากไม่จุ้น 'เขากระโดง-ฮั้วสว.'
'บวรศักดิ์' ลุกแจงขั้นตอนแก้รธน. ยัน 2 พรรคใหญ่ไม่แตะหมวด 1-2 เผยขั้นตอนประชามติ มี 2 คำถามพ่วง ปมเลิก MOU ไทย-เขมร ต้องถามปชช. จ่อแก้กม.อำนาจ ปปง. สกัดใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
'อดีต สว.' ปรบมือให้ 'นายกฯหนู' แนะลุยต่อยกเลิก MOU 43-44
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ประกาศระหว่างลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ
นายกสมาคมทนายฯ วิจารณ์ศาลรธน. ถึงขั้น 'ช็อค' อ้างเป็นตลกร้ายทางการเมือง
นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊คสมาคมทนายความเเห่งประเทศไทยผ่านบันทึก


