'แทนคุณ' แฉ 'หมอบุญ' เตรียมไปซุกบ้านในยุโรปเสวยสุข!

'แทนคุณ' เผยหมายจับล็อต 3 เครือข่าย 'หมอบุญ' เป็นกลุ่มเซล ปูดศุกร์นี้ คนใกล้ชิดหมอ จ่อคุยผู้เสียหายบางส่วนที่ตึกแถวรัชดา ชี้แทบเป็นไปไม่ได้กลับไทย แฉเตรียมหนีไปบ้านที่ยุโรป ประเทศ อ.

04 ธ.ค.2567 - นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม กล่าวถึงกรณีการออกหมายจับล็อต 3 เครือข่าย นพ.บุญ วนาสิน ที่ร่วมฉ้อโกงประชาชน ว่า ล็อต 3 น่าจะเป็นกลุ่มเซล ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นกลุ่มคนใกล้ชิดและโบรกเกอร์ แต่ของโบรกเกอร์แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มีไลเซนส์ กับกลุ่มที่อ้างว่าเป็นเซล ที่ได้ผลตอบแทน 1.5% ของการเชิญชวนผู้มาลงทุน แต่โบรกเกอร์จะได้เงินเยอะกว่าประมาณ 3% ซึ่งกลุ่มนี้ได้มามาคุยกับตนและอ้างว่าเป็นผู้เสียหาย และในบ่ายวันนี้จะมีผู้เสียหาย 2 ครอบครัว มูลค่าความเสียหาย 40 ล้านบาท เข้าแจ้งความเพิ่มเติมที่กองบังคับการกองปราบปราม

นายแทนคุณ กล่าวต่อว่า ส่วนจำนวนผู้เสียหายที่เป็นเซลเข้าใจว่ามีจำนวนเยอะอยู่พอสมควร แบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก เป็นกลุ่มที่ใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งเป็นกลุ่มเก่าที่ใช้หุ้นของโรงพยาบาลมาค้ำ ซึ่งอาจเห็นผลในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ เพราะถึงกำหนดจ่ายเงิน เพราะหากไม่จ่ายกลุ่มนี้ก็จะเป็นผู้เสียหาย ส่วนกลุ่มที่ 2 อีก 500 ราย เป็นกลุ่มที่หมอบุญไปกู้เงินมา ผ่านเซลกับโบรกเกอร์ และเคยเป็นเซลที่ทำงานหาที่ดินให้กับโมเดลดังกล่าว ทางหมอบุญก็มีการออกโฉนดที่ดิน เพื่อไปค้ำให้กับผู้เสียหาย

“ในวันศุกร์นี้ (6 ธ.ค.) ที่ตึกแห่งหนึ่งแถวรัชดาจะมีการเคลื่อนไหวของคนใกล้ชิดหมอบุญเพื่อเจรจากับผู้เสียหายบางส่วนเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งหวังว่าจะสามารถคลี่คลายปัญหาได้ เพื่อลดผู้เสียหายลง และหากคืนเงินให้ผู้เสียหายบางส่วน ก็จะชะลอผลกระทบที่เกิดขึ้นได้”นายแทนคุณ กล่าว

เมื่อถามว่าส่วนโอกาสที่หมอบุญจะกลับประเทศไทย นายแทนคุณ กล่าวว่า แทบเป็นไปไม่ได้เลย หากไม่มีการไปจับกุมตัว และขณะนี้ทราบมาว่าเจ้าตัวเตรียมเคลื่อนย้ายไปประเทศยุโรป ชื่อย่อ อ. เพราะมีบ้านอยู่ที่นั่น ยืนยันว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ ต้องมีการขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะทรัพย์สินที่มีการถ่ายโอนไปเป็นชื่อบุคคลอื่น ต้องรอดูว่าตำรวจจะสามารถนำสืบได้หรือไม่ และสามารถคัดกรองว่าใครคือผู้เสียหายตัวจริง

นายแทนคุณ ยังตั้งข้อสังเกตว่า โปรเจกต์อื่นๆ เช่น Jin Wellbeing เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ขาดทุนจนต้องนำเงินไปหมุนลงทุนหรือไม่ ซึ่งต้องไปตรวจสอบ และกรณีการหาเงินที่มาช่วยใช้คืน หรือเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินด้วยหรือไม่ ขณะเดียวกันทราบมาว่าไม่ใช่บริษัทของหมอบุญอย่างเดียว ที่เป็นตัวการร่วม ยังมีบริษัทอื่นๆที่เกี่ยวข้องอยู่ อาจเป็นตัวการช่วยหรือเป็นตัวการร่วม อักษรย่อ K ก็คงต้องไปขยายผล เพราะทราบว่าบริษัทนี้ช่วยเขียนแผนให้ด้วย และช่วยประสานหาโบรกเกอร์ด้วยหรือไม่ ในการให้มีการกระทำแบบนี้ และมีการข่มขู่ผู้ที่ไปแจ้งความ ซึ่งตอนนี้สังเกตได้ว่าคดีนี้มีความพยายามทำให้เงียบที่สุดและหายไปตามกระแส โดยข่มขู่ผู้เสียหายอย่าไปพูด อย่าไปบอก ถ้าใครพูดจะไม่ได้เงิน จะถูกฟ้องดำเนินคดี ถูกตรวจสอบภาษี ทำให้ผู้เสียหายจำนวนไม่น้อยกลัว อีกทั้งผู้เสียหายจำนวนไม่น้อยที่มีอันจะกินก็เกรงว่าจะกระทบต่อความรู้สึกของคนในครอบครัว ซึ่งผู้สูงอายุที่ได้คุยด้วยอายุ 90 ปี เขาไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ และยังไม่เชื่อว่าหมอบุญจะมีการทุจริต ก็ได้แต่ให้กำลังใจว่าถึงที่สุดน่าจะได้เงินคืน ถ้าตำรวจทำงานเร็ว

นายแทนคุณ กล่าวอีกว่า อีกประเด็นที่อยากให้ตำรวจมีความชัดเจนว่าถ้ามีผู้เสียหายเกิดขึ้น จะไปแจ้งความที่ไหน เพราะเห็นว่าจะมีการโอนคดีไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) แต่ส่วนตัวอยากให้ไปแจ้งความที่กองปราบ ประชาชนจะได้ไม่สับสน ไม่ต้องไปหลายที่ และคดีจะได้ไปเร็ว ซึ่งคดีในลักษณะฉ้อโกงแบบนี้ ถ้าสามารถอายัดทรัพย์ได้เร็วเท่าไหร่ จับกุมคนทำได้เร็ว โอกาสที่จะได้เงินคืนจากการคุ้มครองสิทธิ์ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)และเรื่องเข้าสู่ศาล เข้าสู่การเฉลี่ยทรัพย์คืน เรื่องก็จะได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทลายแก๊งฟอกเงินผ่าน Huione Pay ยึดเงินสดกว่า 46 ล้านบาท

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี, พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์, แถลงข่าวการจับกุม1. นายอู ชิน (Mr.OO SHIN) อายุ 57 ปี

'แทนคุณ' ร้องชาวบ้านวัยเกษียณโดนมิจฉาชีพหลอกอ้างเป็นผู้ช่วยเลขาฯ ประธานสภา

'อี้ แทนคุณ' ร้อง 'วันนอร์' ชาวบ้านโดนมิจฉาชีพแอบอ้างเป็น 'ผู้ช่วยเลขานุการประธานรัฐสภา' ชุดปัจจุบัน หลอกลงทุนเสียหายหนัก เป้าหมายผู้สูงอายุวัยเกษียณ