20 ธ.ค.2567 - ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้
ม.112 ไม่ได้ห้ามวิจารณ์ตามที่เขาหลอกลวง
ตามตัวบทกฎหมาย ม.112 ไม่ได้ห้ามวิจารณ์โดยสุจริต หากแต่ห้ามหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ในที่นี้ หมิ่นประมาท หมายถึง การใส่ความต่อบุคคลที่สามให้เกิดความเสียหาย ดูหมิ่น หมายถึง การดูถูกเหยียดหยาม ขณะที่แสดงความอาฆาตมาดร้าย หมายถึง การพยาบาทมุ่งที่จะทำร้ายให้ได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ฉะนั้น การกล่าวว่า ม.112 ห้ามวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเป็นการโกหกบิดเบือนที่ดูถูกสติปัญญาอย่างถึงที่สุด อีกทั้งยังเห็นได้ชัดว่า ม.112 ไม่ใช่กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือ Lèse-majesté ที่ห้ามวิจารณ์หรือห้ามแสดงความคิดเห็นใดๆ จนกลายเป็นแตะต้องไม่ได้เลย หากแต่จัดเป็นกฎหมายอาญาที่มีไว้คุ้มครองสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนของประมุขแห่งรัฐ
ขบวนการด้อยค่า ม.112 มักจะนำเสนอในรูปแบบของการโฆษณาชวนเชื่อ โทษกฎหมายด้วยวิธีการบิดเบือนฟอกขาวผู้กระทำผิดให้ดูราวกับว่าเป็นเหยื่อ ทำนองว่า ม.112 เป็นปีศาจทำให้มีคนติดคุกในอัตราโทษสูงหลายปี โดยที่ไม่ได้เล่าถึงรายละเอียดที่มาที่ไป ทั้งๆ ที่เกิดขึ้นจากเจตนาและพฤติการณ์ในการกระทำผิดที่ชัดเจน รวมถึงยังกระทำผิดซ้ำๆ ซากๆ หลายกรรม รวมกันหลายคดี
ความจริงแล้ว การติดคุกเพราะ ม.112 ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย ขนาดหลานธนาธรทำผิด ม.112 เพียงครั้งเดียว เมื่อยอมรับสารภาพผิดก็ยังได้รับความเมตตาจากศาล ได้เข้าสู่การทำแผนบำบัดฟื้นฟูร่วมกับสหวิชาชีพ และสุดท้ายไม่ต้องติดคุก ขณะที่นักโทษคดี ม.112 ส่วนใหญ่ทำสิ่งตรงข้ามกับหลานธนาธร คือ กระทำผิดซ้ำๆ ซากๆ หลายรายแม้ได้ประกันตัวก็ยังหาเรื่องเข้าคุกราวกับรับจ้างทำเป็นอาชีพ
เมื่อย้อนกลับไปดูกรณีศาสดาส้มสามนิ้วอย่างธนาธรและปิยบุตร ทุกวันนี้ก็ยังใช้ชีวิตอย่างสุขสบายนอกคุก ยังไม่ได้ติดคุกในคดี ม.112 จวบจนปัจจุบัน เพราะคนเหล่านี้ระแวดระวังไม่ให้ตัวเองผิด ม.112 หากแต่มักชี้นำทางความคิดแบบเฉียดฉิวเลยเอาผิดยากกว่าปกติ สุดท้ายคนที่ซวยที่สุดจึงเป็นคนที่เสพความคิดของศาสดาส้มสามนิ้ว แล้วมีอารมณ์ร่วมจนนำไปต่อยอดและลงมือกระทำผิด
หากยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย เชื่อมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นมนุษย์ ก็ควรเคารพในสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนของสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย เพราะทุกคนล้วนมีความเป็นคนเท่ากัน แต่สิ่งที่ไม่เท่ากัน คือ บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ ตลอดจนสถานะทางสังคมต่างๆ ดังนั้น จึงควรตระหนักรู้ว่าการละเมิด ม.112 ผิดต่อหลักการประชาธิปไตยและเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พูดแบบนี้ได้ยังไง! อดีตลูกจ้างวอยซ์ ลั่นไม่เห็นใจทักษิณ หลังคดี 112 ถูกอุทธรณ์
อินฟลูเอนเซอร์สายการเมือง และอดีตพิธีกรข่าววอยซ์ทีวีของตระกูลชินวัตร แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อออนไลน์ หลังอัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ข
โฆษกอัยการ เเจงกรณีขอขยายอุทธรณ์คดี 112 'ทักษิณ'
นายเสวต อภัยรัตน์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดี มาตรา 112 และความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ฯ นาย
ตุลาการภิวัฒน์ นิติสงคราม: จาก 'นั่งลงลูก' ถึงคำพิพากษาที่สังคมตัดสินซ้ำ!
ศาลเคยถูกมองว่าเป็น ตุลาการภิวัฒน์ เมื่อคำพิพากษาพ้องใจกับฝ่ายหนึ่ง และถูกมองว่าเป็น นิติสงคราม เมื่อไม่ตรงใจกับอีกฝ่าย กระทั่งถ้อยคำสั้น ๆ ที่กลุ่มหนึ่งยืนยันว่าได้ยินว่า “นั่งลงลูก” ขณะที่อีกกลุ่มบอกว่า “นั่งลงครับ” ก็ยังถูกขยายเป็นชนวนความระแวง ที่ทำให้ทุกคำพิพากษาไม่เคยหยุดอยู่แค่บัลลังก์ หากยังถูกสังคมตัดสินซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า
ฉับไว 'พิกุลทอง' ขอบคุณศาลยกฟ้องคดี 112 ท่านทักษิณ
นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยโพสต์เฟซบุ๊กว่า ขอบคุ
เตือน 'ทักษิณ' รอด 1 คดี ไม่ได้แปลว่ารอดหมด!
อดีต สส.นครศรีธรรมราช วิเคราะห์หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ของทักษิณ ระบุอย่าดีใจกันเกินไป ยังเหลืออีก 2 คดีใหญ่ ทั้ง “แพทองธาร” เสี่ยงหลุดเก้าอี้ และคดีชั้น 14 ลุ้นคำสั่งศาลฎีก
เมื่อฝนซา พายุใหญ่ยังตั้งเค้า: คดีทักษิณกับชะตากรรมการเมืองไทย
การรอดพ้นจากคดี 112 ของ ทักษิณ ชินวัตร อาจคล้ายฝนที่ขาดเม็ดลงชั่วขณะ แต่ขอบฟ้ายังเต็มไปด้วยเงามืดของ พายุใหญ่—คดีบังคับโทษในศาลฎีกาฯ ที่รออยู่เบื้องหน้า มิใช่เพียงการตัดสินชะตาชายคนหนึ่ง หากคือการวัดพลังและรอยร้าวของการเมืองไทยทั้งผืน ที่ไม่เคยสมานได้ตลอดกว่าสองทศวรรษ

