
26 ม.ค 2565 - นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sutin Wannabovorn เกี่ยวกับนายกฯ เยือนซาอุฯ ว่า "ทูตนอกแถวไม่รู้ว่าเคยเป็นทูตได้อย่างไร ทำไมถึงสงสัยเรื่องนายกไปซาอุฯฟื้นฟูความสัมพันธ์
ความอิจฉาที่เต็มไปด้วยอคติแล้วไปวิจารณ์แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น โดยการเอาน้ำลายฝรั่งขี้อิจฉามาละเลงต่อ
ทำไมไม่อ่าน Saudi Gatte ลงวันที่ 26 หนังสือพิมพ์ทางการที่เขาให้รายละเอียดดีมาก หรือว่าเคยเป็นทูตจับฉลากตีความภาษาไม่แตก การไปวิจารณ์เรื่องภายในเขาโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวในทางการทูต เขาถือว่าเสียมารยาทมาก แต่ละประเทศเขามีวัฒธรรมการปกครองไม่เหมือนกันอย่าเอาบริบทสังคมการเมืองฝรั่งไปเป็นมาตรฐานให้การปกครองประเทศอื่นๆซึ่งมีที่มาที่ไปไม่เหมือนกัน
กระทรวงการต่างประเทศไม่เคยอบรมสั่งสอนมารยาทการทูตเลยหรือไง ถึงแม้ว่าพ้นจากการเป็นทูตแล้วก็น่าจะมีมารยาททางการทูตหลงเหลืออยู่บ้าง"
ก่อนหน้านี้ นายรัศมิ์ ชาลีจันทร์ เจ้าของเพจ ทูตนอกแถว The Alternative Ambassador Returns และอดีตเอกอัครราชทูตไทยในหลายประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับนายกฯ เยือนซาอุฯ ว่ามีอะไรเบื้องหลังการ เยือนซาอุ ดีอาระเบีย?
หลายคนอยากฟังเรื่องการไปเยือนซาอุดีอาระเบียของผู้นำไทยที่ผ่านมา ซึ่งก่อนอื่นผมขอแสดงความยินดีกับพัฒนาการนี้ การกลับมามีความสัมพันธ์ขั้นปกติและที่ดีกับซาอุดีอาระเบียจะอย่างไรถือเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและเป็นสิ่งที่น่ายินดีครับ
ส่วนที่คนดูแลความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ออกมาให้ข่าวว่าเรื่องนี้เป็นผลงานล้วนๆของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน อันนั้นจะจริงเท็จแค่ไหนนั้น คงต้องว่ากันอีกที
การเยือนครั้งนี้มีขึ้นอย่างค่อนข้างกะทันหัน และทำให้หลายคนแปลกใจ รวมทั้งไม่ทราบสาเหตุแท้จริงที่แน่ชัด แต่ดูเหมือนจะมาจากการตัดสินใจของทางซาอุดีอาระเบียที่เป็นคนเชิญเอง และที่ขณะนี้อยู่ในสภาวะที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
ผู้ที่ติดตามสถานการณ์ในต่างประเทศย่อมรู้ว่าขณะนี้ซาอุดีอาระเบียเองมีปัญหาทั้งภายในและด้านการต่างประเทศอย่างมาก ไม่ว่าความขัดแย้งระหว่างพวกราชวงศ์ด้วยกันเอง ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษย์ชน การทำสงครามในเยเมน การทะเลาะและปิดล้อมกาตาร์ และปัญหาภาพลักษณ์จากการสังหารนายคาชอคกี นักข่าวนักวิจารณ์ชาวซาอุดีอาระเบียอย่างโหดเหี้ยม ทำให้กลายเป็นที่รังเกียจและหลายประเทศต้องรักษาระยะห่าง ไม่อยากคบค้า ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลถึงการทำธุรกิจ การลงทุนต่างๆที่กระทบถึงเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียอย่างมาก
และอย่างที่นักวิเคราะห์ทั่วไปรู้กัน คือผู้มีอำนาจในซาอุฯขณะนี้เป็นอีกสายหนึ่งกับทางเจ้าชายที่ถูกโจรกรรมเพชรมาไทย จึงอาจไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้นัก รวมทั้งเรื่องการสังหารนักธุรกิจพระญาติสนิทราชวงศ์คนก่อนในไทยด้วย
เมื่อประกอบรวมกัน ก็มีความเป็นไปได้ว่านี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทางซาอุดีอาระเบียเชิญผู้นำไทยไป ไม่ว่าจะเพื่อแสดงบทบาทด้านการต่างประเทศ หรือการยกบทบาทให้กับมงกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบียก็ตาม
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ปัจจุบันทางซาอุดีอาระเบียอาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการโจรกรรมเพชรและการฆ่านักธุรกิจเชื้อพระวงศ์เช่นเดิมนัก แต่ถึงกระนั้นก็ไม่น่าที่จะลืมเรื่องนี้โดยง่ายดาย และเท่าที่เห็นรัฐบาลไทยปัจจุบันก็ไม่สามารถคลี่คลายคดีทั้งสองที่เป็นเงื่อนไขสำคัญในการนำไปสู่การปรับความสัมพันธ์ระหว่างกันได้แต่อย่างใด จึงทำให้ยากจะมองได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะผลมาจากการดำเนินการแก้ไขปัญหาของฝ่ายไทยเป็นหลัก
เรียนตามตรงว่าผมเองยังรู้สึกเรื่องนี้อาจมีอะไรที่ซับซ้อนมากกว่านี้ที่ยังไม่รู้ เพราะดูมันปุบปับแบบแปลกๆ และจะว่าไปการพยายามแก้ไขเรื่องนี้ของฝ่ายไทยก็มีมาตลอด ที่บอกว่านี่คือผลงานล้วนๆของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันนั้น ผมจึงไม่แน่ใจนัก โดยเฉพาะมาจากผู้ที่เคยพูดได้ถึงขนาดสหรัฐฯได้มาเตือนตนล่วงหน้าว่าจะโจมตีอิหร่าน จนเป็นที่อับอายขายขี้หน้าไปทั่วโลกมาแล้ว
นอกจากนี้ผมมีข้อสังเกตว่าไปเยือนคราวนี้ ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายบินไปหาเขา แต่ไม่ได้ถูกจัดให้เข้าพบกษัตริย์-นายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบียแม้สักนิด ซึ่งแลดูไม่ค่อยสมศักดิ์ศรี หรือก็คือเขาก็ไม่ได้ให้เกียรติอะไรเรานัก ไม่ทราบว่าทำไมไม่สามารถเจรจาให้มีโอกาสเข้าพบกษัตริย์-นายกรัฐมนตรีของเขาเลย
แล้วก็เห็นภาพนายกรัฐมนตรีไทยไปยืนยกมือไหว้ฝ่ายเขาปลกๆทั้งที่เทียบระดับเขาต่ำกว่าก็อดขำขื่นๆไม่ได้
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยินดีด้วยนะครับในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ลุงสุทิน’ ชี้ ‘อนุทิน ’ อยากมีนามสกุล ‘หลีกภัย’ แต่ ‘เจอภัย ’ แทน เป็นโอษฐภัยร้ายแรงที่สุด
นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า หากหนูพูดว่าอยากมีนามสกุลหลีกภัย แต่กลับได้นามสกุลเจอภัยจริง นับว่าเป็น "โอษฐภัยร้ายแรงที่สุด"
'ไอซ์' เดือด! ถอนหงอก 'ทูตนอกแถว' ปม 'ลิซ่า' ลงช่วยหาดใหญ่หรือทำคอนเทนต์
“ไอซ์ รักชนก” โดดป้อง “ลิซ่า” หลังถูกหาว่าช่วยน้ำท่วมไม่จริง ซัด เดือด “รัศม์ ชาลีจันทร์” สมชื่อ “ทูตนอกแถว” มองข้ามวิกฤตหาดใหญ่ แต่กลับจับผิดผู้หญิงตัวเล็กที่ลุยน้ำช่วยชาวบ้านทั้งสัปดาห์
ไม่ได้คลั่งรัฐบาลนี้! สื่ออาวุโส ยังขอซูฮก 'อนุทิน' นำไทยกลับคืนจอเรดาร์โลกสำเร็จ
นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กว่า ไม่ได้คลั่งรัฐบาลนี้ แต่สัมผัสได้ว่ารัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้นำประเทศไทยกลับสู่เรดาร์ในสายโลกตั้งแต่วันแรกที่เป็นรัฐบาล โดยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้วทำให้ประเทศไทยโดดเด่นในยูเอน จากผลพวงของถ้อยแถลงวันนั้น ทำให้ประเทศโดดเด่นในที่ประชุมระดับโลก
ชื่นชม ‘สีหศักดิ์’ ปราศรัยในยูเอ็นตอกหน้า เขมร เล่นบทเหยื่อ
นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า รมต. สีหศักดิ์ปราศรัยในยูเอนเมื่อคืนได้ดีเยี่ยมในรอบหลายสิบปี สมควรที่กระทรวงต่างประเทศรีบแปลเป็นภาษาไทยให้คนไทยได้อุ่นใจ


