'นักวิชาการสื่อ' จวกยับ! ข่าวใต้สะดือดารา สะท้อน 'สื่อเสื่อม' เพราะทำตัวเอง

18 เม.ย. 2568 - ดร.นันท์วิสิทธิ์ ตั้งแสงประทีป (นิพนธ์) อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และสื่อมวลชนอิสระ โพสต์บทความผ่าน เพจเฟซบุ๊ก Teejournalist หัวข้อ ข่าวใต้สะดือดาราสะท้อน “สื่อเสื่อม”เพราะทำตัวเอง มีเนื้อหาดังนี้

ข่าวโตโน่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับข่าวดารานักร้องนักแสดงในปีนี้ แต่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เราได้เห็นข่าวทั้งนักร้องชื่อดัง แสตมป์มาจนถึง ลำไย ไหทองคำ ยังไม่นับรวมข่าวดาราอื่นๆเล็กๆน้อยๆ ข่าวชู้สาวดาราเรื่อง “ใต้สะดือ” ดูจะเป็นที่สนใจอย่างปฏิเสธไม่ได้ในสังคมไทย เพราะข่าวก็สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคสื่อเป็นธุรกิจต้องทำทุกวิถีทางเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค เพื่อนำเอาเรตติ้งที่เอเจนซี่จะไปขายโฆษณาให้ แต่ทว่าสิ่งที่น่าสนใจคือ “สื่อหลัก” ที่เคยทำหน้าที่ในประเด็นทางสังคมต่างๆในมิติการเมืองเศรษฐกิจสังคมปากท้องได้อย่างดีเยี่ยม ก็เริ่มนำเสนอข่าวเหล่านี้มากขึ้นและให้พื้นที่ข่าวเช่นนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่น รายการข่าวเช้ารายการหนึ่ง เคยนำเสนอข่าวนักร้องดังเมื่อต้นปี ความยาวมากถึง20นาที(จากการนั่งมอนิเตอร์ของผู้เขียน) เช่นเดียวกับครั้งนี้ เราจะเห็นรายการข่าวหลักนำเสนอข่าวโตโน่อย่างเมามันเจาะลึกราวกับจะทำ “ข่าวสืบสวนสอบสวน”( Investigative Reporting) ด้วยความมุ่งมั่นจะหาคำตอบให้กับประชาชน ประหนึ่งจะมีผลกระทบกับประชาชนโดยรวม เช่น การเข้าไปเจาะหาเพื่อสัมภาษณ์เพื่อนข้างห้องของคอนโดผู้หญิงกับฝ่ายชาย หรือ อีกรายการที่ปล่อยคลิปเสียงปล่อยแชทไลน์เล่าอย่างเร้าอารมณ์ทั้งที่เป็นเรื่องส่วนบุคคล (หากแยกแยะไม่ออกระหว่างข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคลสาธารณะควรปรึกษาทนาย)

ประเด็นแรก การนำเสนอข่าวประเภทนี้จะทำให้เกิด “พฤติกรรมเลียนแบบ”กับเยาวชนเช่นคลิปหลุด แชทไลน์ ชู้สาวเรื่องปกติ แบดบอยเป็นแล้วเท่ห์ สิ่งเหล่านี้คือ สิ่งที่สื่อ “ละเลย” แม้บางสื่อจะโดนแขกรับเชิญพูดเพื่อให้เห็นภาพเหล่านี้แต่ก็ยังไม่มีสำนึก เช่น คำพูดของแขกรับเชิญในรายการหนึ่งว่า “ผมว่าสังคมไทยไม่ควรทำให้เรื่องชู้สาวเป็นเรื่องปกติ” ในทางตรงข้ามสื่อควรนำเสนอให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เป็นการกระทำผิดศีลธรรมหรือกฎหมาย มีการให้ความรู้กับเยาวชนโดยนำนักวิชาการนักจิตวิทยาด้านเพศศึกษามาอธิบายว่า ปรากฎการณ์ทีเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องผู้ปกครองควรดูแลเยาวชนอย่างไร

ประเด็นที่สอง ที่เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งคือ ประเทศนี้เราจะมีสื่อที่นำเสนอข่าวแต่เรื่องเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆให้เวลาอย่างเต็มพิกัด แล้วพื้นที่สำหรับการนำเสนอข่าวสำหรับความเดือดร้อนของประชาชนเศรษฐกิจปากท้องสังคมจะหลงเหลืออยู่ที่ใด "ในเวลานี้" ถามว่า... ใครไม่เดือดร้อนเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ สังคมดีอยู่หรือไม่ ค่าครองชีพเป็นอย่างไร แผ่นดินไหวใครแจ้งเตือน น้ำท่วมใครช่วยเหลือนอกจากกู้ภัย เกษตรกรข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กำลังจะตายเพราะภาษีทรัมป์รัฐบาลจะนำเข้า ปลาหมอคางดำกำลังระบาดกระทบต่อระบบนิเวศความมั่นคงทางอาหาร ฝุ่นPM2.5 ทำคนตายหาเสียงแล้วไม่ทำต่อ โรงงานจีนเทาก่อมลพิษไปทั่ว ทุนจีนปลูกทุเรียนกลางอ่างเก็บน้ำกลางป่าก็ทำได้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังคงตามหลอกหลอน นักการเมืองข้าราชการก็ยังคงคอรัปชั่น ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ต่างหากหรือไม่ที่สื่อหลักควรให้ความสนใจนำเสนออย่างเจาะลึกและเป็นที่พึ่งเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมให้ประชาชน

ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ ข่าวตึกสตง.ถล่ม “เพจ CSI LA” กลับกลายเป็นคนนำเสนอข่าวได้อย่างเจาะลึกแกะเอกสารวัสดุอุปกรณ์แต่ละชิ้นเปรียบเทียบราคาท้องตลาดกับราคาของในการประมูลได้ไป ที่มีคนหวังดีต่อประเทศชาติต้องการปราบคอรัปชั่นของนักการเมืองข้าราชการส่งให้เพจ สิ่งเหล่านี้คือการทำข่าวสืบสวนสอบสวนที่สื่อหลักไม่คิดทำ มิหนำซ้ำยังไปเอาข่าวของเพจCSI LA มานำเสนอแล้วขึ้นคำ “ขอบคุณหรือพูดว่าขออนุญาต” สื่อจะทำข่าวง่ายแบบนี้กันจริงๆหรือ หรือต้องตั้งคำถามว่า “จะทำหน้าที่สื่อกี่โมง?” เราจึงไม่ต้องแปลกใจที่ปัจจุบันที่ประชาชนมีความเดือดร้อนจึงเห็นการส่งข้อมูลไปให้เพจหรือทนายดังหรือ กันจอมพลัง มูลนิธิ แทนการส่งให้กับสื่อ

ท้ายที่สุดนี่จึงกลายเป็นปรากฎการณ์ที่เรียกว่า สื่อทำตัวเองให้กลายเป็น “สื่อเสื่อม” ไม่ได้รับความน่าเชื่อถือหรือพึ่งหวังจากประชาชนอีกต่อไป สื่อหลักไม่ได้เป็น "หมาเฝ้าบ้าน"(Watch Dog)ให้กับสาธารณะแต่กำลังจะกลายเป็นแค่สื่อบันเทิง กลายเป็น เรื่องเล่าใต้สะดือหรือลุยชนใต้สะดือ คงต้องปล่อยให้เป็นเช่นนั้นไปจริงๆ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นักวิชาการสื่อ' วิพากษ์ 'เสียงล้อเลียนภาษาถึงเสียงผี' กับ หลักวิชาชีพจรรยาบรรณ

ดร.นันท์วิสิทธิ์ ตั้งแสงประทีป (นิพนธ์) อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และสื่อมวลชนอิสระ เผยแพร่บทความ เรื่อง จากเสียงล้อเลียนภาษาถึงเสียงผี ...จากสรยุทธ์ถึงกรรชัย มีเนื้่อหาดังนี้

'นักวิชาการสื่อ' ตะลึง! ลอกข่าวแบบไม่เกรงใจ ไม่สนใจจรรยาบรรณ การกำกับดูแลทำไม่ได้จริง

ดร.นันท์วิสิทธิ์ ตั้งแสงประทีป (นิพนธ์) อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และสื่อมวลชนอิสระ เผยแพร่บทความ เรื่อง สงครามข่าวส่งด่วน...ก้าวข้ามจริยธรรม? มีเนื้อหาดังนี้

นายกฯ สรุปเหตุตึกสตง.ถล่ม พบออกแบบ-วิธีก่อสร้างบกพร่อง ส่งข้อมูล 'ดีเอสไอ-ตร.' ชี้ใครผิด

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีอาคารที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว

'ดีเอสไอ' จ่อสรุปคดีฮั้วตึกถล่ม ส่ง ป.ป.ช. ฟันกราวรูด 4 บิ๊ก สตง.-จนท.รัฐ รวม 70 คน

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 58/2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยความคืบหน้าคดีฮั้วประมูลสัญญาก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารสำนวนเพื่อส่งให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ พิจารณาภายในวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย.นี้ ก่อนส่งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.

'ดีเอสไอ' ส่งสำนวน 46 ลัง ให้อัยการสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีนอมินี ตึกสตง.ถล่ม

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำโดย คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือคดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ไ