เปิดหนังสือเชิญของ รมต.พลังงานลาว โต้ครหา 'พีระพันธุ์' เลี่ยงชี้แจง ป.ป.ช.

15 พฤษภาคม 2568 - จากกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ระหว่างวันที่ 14-15 พฤษภาคม 2568 เพื่อเจรจาซื้อไฟฟ้าเข้าประเทศไทยโดยตรง ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะเรียกนายพีระพันธุ์ ไปรับทราบข้อกล่าวหากรณีติดสติกเกอร์ชื่อตนเองบนถุงยังชีพที่แจกประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ล่าสุด นายนพดล พรหมภาสิต อินฟลูเอนเซอร์การเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Roytu NP พร้อมเอกสารจากกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ สปป.ลาว ระบุว่า เบื่ออีพวกรู้น้อยรู้ไม่จริงแต่ชอบเห่าชอบกระดิกหางว่ารู้มาก

แหกตาดูซะ นี่เป็นจดหมายเชิญที่ติดต่อกันระหว่างรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของไทย กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ของลาว ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของลาวไม่ได้รับรู้

สองฝ่ายเขาได้มีการพูดคุยประสานงานกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว ก่อนที่จะมีการออกจดหมายเชิญอย่างเป็นทางการ ซึ่งจดหมายลงวันที่ 8 พ.ค. 2568 ส่วนจดหมายของกต.ลาว (ที่สื่อเอามาลงนั้น) มันลงวันที่ 12 พ.ค. 2568

(คำแปลจดหมาย) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สันติภาพ เอกราช ประชาธิปไตย เอกภาพ ความเจริญรุ่งเรือง กระทรวงพลังงานและบ่อแร่ เลขที่: ....../MEM วันที่: 8 พฤษภาคม 2025

ถึง: ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ราชอาณาจักรไทย 

เรื่อง: ขอเชิญเยือนกระทรวงพลังงานและบ่อแร่แห่งสปป.ลาว เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานทวิภาคีและการพัฒนา
เรียน ท่าน,

ในนามของกระทรวงพลังงานและบ่อแร่แห่งสปป.ลาว ข้าพเจ้ามีความยินดีที่จะขอเรียนเชิญท่านมาเยือนกระทรวงของเรา ระหว่างวันที่ 14-16 พฤษภาคม 2025 การเยือนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาโอกาสในการเสริมสร้างความร่วมมือ และเข้าร่วมในการหารือเชิงสร้างสรรค์เกี่ยวกับความร่วมมือในอนาคตระหว่างสองประเทศในภาคพลังงาน

เราหวังว่าจะได้แลกเปลี่ยนมุมมองในประเด็นที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงความก้าวหน้าและทิศทางของโครงการพลังงานที่กำลังดำเนินการอยู่ ตลอดจนโครงการพลังงานที่มีศักยภาพในอนาคต การประชุมครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แบ่งปันแนวคิด และหารือเกี่ยวกับการร่วมมือกันเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและเป้าหมายการพัฒนาร่วมกัน

ขอขอบพระคุณท่านที่พิจารณาคำเชิญนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับท่านที่สปป.ลาว และร่วมสานต่อการสนทนาเพื่อสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในภาคพลังงาน

ขอแสดงความนับถือ,
โพไซ ไซยะสอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก ปราชญ์ สามสี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏ การเยือนลาวของพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กับความจริงที่ควรรู้ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการเดินทางเยือนลาวของ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของไทย โดยมีการกล่าวอ้างว่าเขาเป็นฝ่าย ร้องขอการเยือนลาวเอง ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดและเป็นประเด็นที่ถูกนำไปขยายความโดยผู้มีชื่อเสียงบางท่านว่า เดินทางไปประเทศลาวนั้นเป็นการพยายามหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากป.ป.ช.

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ปรากฏว่ามีข้อเท็จจริงระบุว่า มีจดหมายเชิญอย่างเป็นทางการจากกระทรวงพลังงานและบ่อแร่แห่งลาว ได้ถูกเปิดเผยและชี้แจงอย่างชัดเจนว่า การเยือนครั้งนี้ ***เป็นการเชิญจากทางการลาว โดยตรง ซึ่งลงนามโดย โพไซ ไซยะสอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ ตรงถึงท่านพีระพันธ์รองนายกรัฐมนตรีโดยตรง

แล้วข่าวลือมันมาได้ยังไง? นี่ล่ะครับคือ ต้นตอของข่าวลือ ที่บอกว่าพีระพันธุ์ร้องขอเยือนลาวเอง ซึ่งจริง ๆ แล้วมัน ไม่ใช่ความจริงเลย เพราะหากดูจากจดหมายฉบับนี้ เราจะเห็นชัดเจนว่า ลาวเป็นฝ่ายเชิญโดยตรง ไม่ใช่การร้องขอแต่อย่างใด

แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ข้อมูลมันมาแบบนี้ แต่คนบางกลุ่มที่เห็นช่องทางในการเล่นข่าวก็อาจจะรีบคว้าไป ตีความกันเอง ว่าพีระพันธุ์กำลังหาทางเบี่ยงประเด็นจาก ป.ป.ช.

แล้วทำไมต้องเชิญตรง? ทำไมไม่ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ? คำตอบนั้นอยู่ใน ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานพลังงาน ของไทยและลาวที่มีการเจรจาและประสานงานกันมาอย่างต่อเนื่อง จดหมายฉบับนี้จึงส่งตรงจากรัฐมนตรีพลังงานของลาวไปยังพีระพันธุ์ โดยตรง เพราะเป็นการหารือเชิงเทคนิคและการพัฒนาพลังงาน ไม่ใช่การเยือนระดับทูตานุทูต

สรุปให้ฟังง่ายๆ ข้อเท็จจริง พีระพันธุ์ไม่ได้ร้องขอการเยือนลาวเอง แต่เป็นการเชิญจากลาวโดยตรง วัตถุประสงค์เพื่อหารือและส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างสองประเทศ

ข่าวลือ มีการตีความไปว่าพีระพันธุ์กำลังหลบเลี่ยงการชี้แจง ป.ป.ช. ซึ่งผิดจากข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง

บทเรียนจากเหตุการณ์นี้ การเล่นข่าวและการนำเสนอข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างครบถ้วน อาจสร้างความเข้าใจผิดและทำให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ในยุคที่ข้อมูลกระจายตัวได้เร็ว การนำเสนอข่าวอย่างมีความรับผิดชอบและยึดมั่นในข้อเท็จจริง เป็นสิ่งสำคัญที่สุด และสำหรับเซเลบหรืออินฟลูเอนเซอร์ทั้งหลายที่นำข่าวนี้ไปเผยแพร่ คงต้องทบทวนบทบาทและความรับผิดชอบต่อสังคม ก่อนที่จะสร้างกระแสหรือความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นอีกครั้ง

เพราะในที่สุดแล้ว ความจริงก็ยังคงเป็นความจริง และในกรณีนี้ เอกสารจากลาวได้พูดแทนทุกอย่างแล้ว!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รทสช.' เตรียมเปิดตัว แคนดิเดตนายกฯ-นโยบายพรรคชุดแรก 22 ธ.ค.นี้ 

พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เตรียมแถลงเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และนโยบายชุดแรก ในวันที่ 22 ธ.ค.68 เวลา 13.00 น. ณ ที่ทำการพรรค

ป.ป.ช. ขยายผล 'กลุ่มคนนอก' คดีคุกวีไอพีจีนเทา ยันไม่จบแค่ ผบ.เรือนจำ-เลขาฯ

ผู้ช่วยเลขา ป.ป.ช. ยืนยันพร้อมตรวจสอบ-ขยายผล "กลุ่มคนนอก" ในคดีคุกวีไอพีจีนเทา มีพฤติการณ์สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดหรือไม่ หลัง "ดีเอสไอ" สรุปสำนวนสืบสวนส่ง ป.ป.ช. เชือดก่อน 2 ราย อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ - เลขา ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระบุ อำนาจของ ป.ป.ช.

‘พลังงาน’ สั่งเข้ม! ตรวจสอบส่งออกน้ำมัน สกัดลักลอบส่งน้ำมันไปกัมพูชา

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณการส่งออกน้ำมัน ทั้งทางบก-ทางเรือ พร้อมร่วมมือกองทัพเต็มที่ สกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา

รทสช. ออกแถลงการณ์ ชี้แก้รัฐธรรมนูญ-ยุบสภา ซ้ำเติมวิกฤตประเทศ

“รวมไทยสร้างชาติ” ออกแถลงการณ์ ชี้ยุบสภาซ้ำเติมวิกฤต ไม่เกิดประโยชน์ประเทศ สะท้อนให้ความสำคัญการเมืองกว่าความเดือดร้อนประชาชน รทสช. พร้อมพาฝ่าขัดแย้ง ส่งผู้สมัครครบ 77 จว.

‘พลังงาน’ ยันไม่มีส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชาตั้งแต่ก.ค. 2568

พลังงานลั่นยึดความมั่นคงของชาติเป็นหลัก ย้ำชัดไทยไม่ได้ส่งออกน้ำมันไปยังประเทศกัมพูชาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมแจงตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ผู้ค้าน้ำมันจะต้องรายงานข้อมูลปริมาณการส่งออกให้กรมธุรกิจพลังงานทราบ หากฝ่าฝืนไม่รายงานหรือรายงานข้อมูลเท็จจะมีโทษตามกฎหมาย