'พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย' จี้รบ.หยุดกลุ่มทุนเข้าซื้อฐานลูกค้าบริษัท NT เสี่ยงผูกขาด

23 พ.ค.2568 - พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย(สปท.) โดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน หัวหน้าพรรคฯ ออกแถลงการณ์ เรื่อง คัดค้านกลุ่มทุนเอกชนเข้าซื้อฐานลูกค้าของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ(NT) เสี่ยงผูกขาดกิจการสื่อสารและโทรคมนาคม เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ประชาชน มีเนื้อหาดังนี้

จากกระแสข่าวที่สื่อมวลชนนำเสนอต่อสาธารณะกรณีบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS เสนอซื้อฐานลูกค้าของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านโทรคมนาคมของประเทศ ตามหนังสือจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ที่ปรากฏตามสื่อสาธารณะได้เสนอความร่วมมือทางธุรกิจในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการโครงข่ายผ่านคลื่นความถี่ 700 MHz และทรัพย์สินด้านโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT โดยสาระสำคัญในหนังสืออาจนำไปสู่การถ่ายโอนทรัพยากรของรัฐไปให้เอกชน

พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย เห็นว่ากรณีดังกล่าวคงไม่ใช่เพียงแค่การซื้อขายเชิงธุรกิจ แต่เป็นความเสี่ยงที่จะทำให้กิจการโทรคมนาคมของประเทศถูกผูกขาดโดยเอกชนอย่างเบ็ดเสร็จซึ่งเท่ากับว่าการให้บริการการสื่อสารทั้งระบบพื้นฐาน / เคลื่อนความถี่ของโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ตก็จะตกอยู่ในมือเอกชนก่อให้เกิดการผูขาด ซึ่งจะกระทบต่อการใช้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์พกพา และระบบอินเตอร์เน็ตของประชาชน หน่วยงานของรัฐ เช่น สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล องค์กร สถานประกอบการต่างๆอย่างรุนแรง ทั้งมาตรฐานการให้บริการและราคาที่แพงเพราะระบบการสื่อสารได้เป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนทุกคนทุกสาขาชีพ ทุกกลุ่มทุกวัย

ด้วยเหตุผลข้างต้นพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย ขอให้รัฐบาล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)และผู้บริหาร NT ระงับหรือไม่ดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการสนับสนุนข้อเสนอในหนังสือฉบับดังกล่าว อีกประการหนึ่งการที่ NT กำลังจะถอยออกจากตลาดมือถือ ไม่ว่าจะด้วยการไม่ขยายฐานลูกค้า หรือไม่เข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ล้วนเป็นสัญญาณอันตรายของการล่มสลายของหน่วยงานรัฐในกิจการโทรคมนาคม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่ออธิปไตยของประเทศในระยะยาว เพราะคลื่นความถี่ถือเป็นทรัพยากรสาธารณะที่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งหากรัฐสูญเสียส่วนแบ่งในการครอบครองคลื่นสัญญาณมือถือ ปล่อยให้อยู่ในมือกลุ่มทุนเอกชน ที่มีลักษณะการผูกขาดอย่างสมบูรณ์แบบ จะทำให้เสียสมดุลในธุรกิจโทรคมนาคมที่มีมูลค่าทางการตลาดหลายหมื่นล้านในแต่ละปี และจะเกิดผลเสียหากประเทศตกอยู่ในภาวะวิกฤติ

อีกทั้งการประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่ ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ แต่จนถึงขณะนี้คณะรัฐมนตรีก็ยังไม่มีมาตรการใดๆที่จะสนับสนุนการดำเนินกิจการของ NT ขณะเดียวกันกรรมการบริหารของ NT ก็ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนหรือประกาศแผนใด ๆ ว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อรักษาคลื่นความถี่เอาไว้ ซึ่งหมายความว่าโอกาสที่ NT จะสามารถมีคลื่นของตัวเองในอนาคตก็จะยิ่งริบหรี่ลงไปอีก และเปิดทางให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่เข้าสู่ตลาดแบบไร้คู่แข่ง

พรรคสังคมประชาธิปไตยไทยมิได้มีเป้าหมายที่จะกล่าวให้ร้ายต่อบริษัทเอกชนเพราะการสร้างความมั่นคง มั่งคั่งทางธุรกิจของบริษัทเป็นสิ่งที่เขาต้องทำทุกวิถีทาง แต่ในฐานะพรรคการเมืองที่มีความเกี่ยวโยงสัมพันธ์กับประชาชนซึ่งมีส่วนได้เสียโดยตรงที่จะต้องทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้แก่ประชาชน จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหยุดยั้งขบวนการดังกล่าว เพราะการปกป้องคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพของประชาชนถือเป็นภารกิจที่สำคัญ เป็นหน้าที่แห่งรัฐซึ่งการบริหารจัดการคลื่นความถี่เพื่อสาธารณะได้ถูกบัญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ ในหมวดหมวด ๕ ว่าด้วยหน้าที่ของรัฐมาตรา ๖๐ ซึ่งรัฐบาลต้องมีหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามเจตจำนงของรัฐธรรมนูญ พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย จะติดตาม ตรวจสอบ และคัดค้านอย่างเต็มที่ ร่วมกับ สมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย(สสรท.) สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(สรส.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (สร.ทช) และเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน เพื่อปกป้อง คุ้มครองผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชนอย่างถึงที่สุด

หยุดการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ !
“รัฐวิสาหกิจปกป้องไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ และ ประชาชน”
ด้วยจิตคารวะ
พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย(สปท.)