
28 พ.ย.2568- รศ.นพ.พัฒน์ ก่อรัตนคุณ อายุรแพทย์สมองและระบบประสาทผู้ช่วย คณบดีฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า
น้ำท่วมล้างเมืองหาดใหญ่ และวิกฤตคลื่นสึนามีถล่มสาธารณสุข
จากสถานการณ์น้ำท่วมล้างเมืองเมืองหาดใหญ่ 2568 อยากให้ทุกท่านลองจินตนาการความเสียหาย
เมืองหาดใหญ่มี ประชากร ประมาณ 7 แสน
เปรียบภูมิศาสตร์ของหาดใหญ่ คล้ายกับกะทะ 1 ใบ
ศูนย์กลาง แหล่งเศรษฐกิจ การศึกษา และการแพทย์ที่มีประชากร ราว 7 แสนคน อาศัยอยู่อย่างแน่นหนา ใจกลางกะทะ
ส่วนขอบกะทะ คือพื้นที่ชานเมือง ที่มีประชาก่อนส่วนหนึ่งขยับขยายไปอยู่อาศัย
น้ำท่วมใหญ่ในครั้งนี้ เหมือนการสาดน้ำลงในกะทะ ให้ท่วมมาถึงขอบกะทะ
แน่นอนว่า ทรัพยากรทุกอย่างของเมืองนี้ ถูกชำระล้าง แช่น้ำอยู่ครึ่งสัปดาห์ แต่ยังความเสียหายนานนับปี
ในแง่ของระบบสาธารณสุข
หาดใหญ่ เป็นศุนย์การแพทย์ที่มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 5 โรงพยาบาล อันได้แก่
โรงพยาบาลหาดใหญ่ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข
โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ สังกัดมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ รพ.เอกชนอันดันต้นๆของประเทศไทย
โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี รพ.เอกชนในเครือธนบุรี
และโรงพยาบาลเซี่ยงตึ๊ง ภายในมูลนิธิ
ประชากรทั้งเมือง 7 แสนกว่าราย ได้อาศัยพึ่งพิงโรงพยาบาลทั้ง 5
มีศักยภาพในแง่จำนวนเตียงรวมกัน กว่า 2 พันเตียง
รองรับผู้ป่วยทั้งในหาดใหญ่ อำเภอข้างเคียง และจังวัดข้างเคียงด้วย
เมื่อธรรมชาติได้ชำระล้างเมือง น้ำท่วมมิดชั้น1 ของอาคารที่ยกพื้นมาแล้ว สามเมตร ย่อมทำให้เกิดความเสียงหายทั้งระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ สถานที่ตรวจคนไข้ ห้องพักผู้ป่วย ระบบภาพรังสีวินิจฉัย เช่น CT scan, MRI ในสภาพที่ยากจะฟื้นฟูได้ในเร็ววัน
นั่นแปลว่า จาก 5 โรงพยาบาล ที่ดูแลประชากร 7 แสน
4 โรงพยาบาลใจกลางเมือง ที่อยู่กลางกะทะ โดยน้ำท่วมพังยับ
เหลือเพียงโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ที่เดียว ที่ตั้งอยู๋บนขอบกะทะ รอดพ้นจากความเสียหายหนักและยังปฏิบัติการได้
นี่ยังไม่นับรวมคลินิกเอกชน กว่า 200 คลินิกที่โดนน้ำท่วมเสียหายยับ
ท่านจินตนาการดูสิครับ ว่า
คนไข้ทั้ง 5 รพ ในพื้นที่ จะเท มา รพ เดียว มันจะพังแค่ไหน
พังในแง่ภาระงานที่เพิ่มขึ้น แต่มันจะมากกว่า 5 เท่าตัว
พังในแง่ ระบบสนับสนุนบริการที่ เสียหายจากน้ำท่วม
พังในแง่พันธมิตร เครือข่ายการให้บริการ เช่น คลินิก โรงพยาบาลข้างเคียง ที่ไม่สามารถทำงานได้
ลำดับความพังมันเริ่มแบบนี้
ในช่วงแรกของหายนะน้ำท่วม - น้ำยังท่วมสูง โรงพยาบถูกตัดขาด ไฟดับ น้ำไม่ไหล
คือการรับส่งคนไข้ผู้ป่วยในวิกฤต จากทั่วสารทิศ มาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
ซึ่งโรงพยาบาลต้นทางทุกที่ มีบุคลากรที่ทุ่มเท อดกิน อดนอน ทำงานภายใต้ความฉิบหายวายป่วง
เพื่อลดการสูยเสียและขยายโอกาสรอดของผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด
ในช่วงนี้ ทรัพยากรต่างๆของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ก็จำกัด
จำกัดด้วยกำลังคนที่ติดน้ำท่วมอยู่ จำกัดด้วยอุปกรณ์การแพทย์ที่ส่งข้ามจุดน้ำท่วมมาไม่ได้
แต่ก็ผ่านพ้นไปได้ ด้วยความร่วมมือของทุกโรงพยาบาลพันธมิตร
ในช่วงสอง - น้ำลด
สะบักสะบอมจากช่วงแรกมาแล้ว หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ที่ ติดน้ำท่วม เริ่มเข้ามาช่วงงานได้ แม้บ้านตัวเองจะเสียหายหนัก คนไข้ที่ติดอยู่ในบ้าน อาการวิกฤต เริ่มออกจากบ้านมาได้
ทีนี้จากเดิมมีโรงพยาบาลให้ไปได้ 5 ที่ คลินิกอีกกว่า 200 แห่ง ยุบมาเหลือที่เดียว
ท่านลองจินตนาการสิครับ ว่ามันจะหายนะขนาดไหน
คนไข้มาจากทั่วสารทิศ ทั้งมาเอง ทั้งทีมกู้ภัยนำส่ง
ในช่วงสาม - หลังน้ำลด เก็บกวาดเมือง และความเสี่ยงโรคระบาด-มลภาวะหลังน้ำท่วม
ในช่วงสี่ - ทุกคนในเมืองดำเนินชีวิต ดิ้นรนต่อไป ในขณะที่โรงพยาบาลพันธมิตร ยังไม่สามารถเปิดบริการได้
ทั้งหมดนี้เป็นภาพคร่าวๆที่อยากให้ทุกท่าน เห็นความสั่นคลอนของระบบสาธารณสุขในเมืองหาดใหญ่
ท่านคิดว่า บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลเดียว จะทำหน้าที่แทนทั้ง ระบบได้นานแค่ไหน
ท่านคิดว่า ทรัพยากรที่เหลือรอดจากน้ำท่วม จะจัดสรรอย่างไรให้เพียงพอต่อความต้องการของประชากรทั้งหมด
ผมว่า มันไม่มีทางเดินต่อได้ หากปราศจากความร่วมมือ
ความร่วมมือที่เราต้องการตอนนี้ ผมขอสรุปเป็นข้อ
1. เราต้องการความร่วมมือในด้านอัตรากำลังบุคลากรทางการแพทย์ – แม้ว่าระบบปฏิบัติการของโรงพยาบาลทั้งสี่จะพังทลายและใช้เวลาแก้ไข แต่บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลทั้ง 4 โรงพยาบาลที่โดนน้ำท่วม ยังเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของการดูแลคนท้องที่ให้ดีที่สุด ผมเสนอว่า เราต้องเป็นทีมรักษาพยาบาลไร้พรมแดน ไม่แบ่งแยกสังกัด บริหารอัตรากำลังร่วมกัน เช่น พยาบาล รพ. A ที่ถูกน้ำท่วม ทำงานที่ รพ A ไม่ได้ ก็สามารถมาทำงานที่ รพ B ที่ส่งคนคนไข้จาก รพ A ได้ โดยยังได้รับค่าตอบแทนตามปกติของระบบ ภาวะเช่นนี้ ผู้นำ ผู้ตัดสินใจ ต้องกล้าที่จะมองผลประโยชน์ของประชาชน เป็นที่ตั้งมากกว่า ชื่อสังกัดหน่วยงาน
ณ วันนี้ การช่วยเหลือด้านอัตรากำลังกำลังถูกส่งเข้ามาจากหน่วยงานต่างๆ ต้องขอบคุณน้ำใจของบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านจริงๆครับ หากแต่การจัดกระบวนทัพ ยังคิดแยกส่วน แยกหน่วย มากกว่าที่จะเป็นมองภาพรวม
2. เราต้องการทรัพยากร อุปกรณ์ทางการแพทย์ วัสดุทางการแพทย์
ความช่วยเหลือดังกล่าว กำลังเข้ามาเรื่อยๆ สิ่งที่อยากให้ประชาชนทุกท่านทราบ คือ ท่านสามารถช่วยบริจาคไปโดยตรงที่มูลนิธิของทุกๆโรงพยาบาลได้นะครับ
3. เราต้องการความร่วมมือจากภาคประชาชน ในการดูแลตนเองเบื้องต้น เราอยากให้ประชาชนเข้าใจว่า รพ.เปิด 24 ชั่วโมงก็จริง แต่ขอให้สงวนช่วงเวลากลางคืนที่ทุกท่าน (รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์) ต้องการการพักผ่อน เพื่อชาร์จแบตให้เต็มที่และจะได้มีแรง มีสมอง มีสมาธิที่ดีในการดูแลท่านในวันรุ่งขึ้น เราจึงจึงอยากร้องขอให้ประชาชนทุกท่าน ได้ทราบการคัดกรองตนเองเบื้องต้นว่า ภาวะใดคือภาวะเร่งด่วนที่ต้องมา รพ กลางดึก (ซึ่งแพทย์ พยาบาล ยินดีมากๆที่จะดูแล) และอาการใดที่ไม่เร่งด่วน ไม่ต้องรีบมาตอนกลางคืน และสามารถพบแพทย์ตอนเช้าได้
4. เราต้องการผู้มีอำนาจเหนือผู้ปฏิบัติหน้างานที่เข้าใจบริบทการทำงาน ไม่อยากได้คนที่มาถ่ายรูปแบ้วไป ไม่อยากได้คนที่มาสั่งพักเดี๋ยวโดยไม่เข้าใจ สั่งๆแล้วก็ไปหาทรัพยากรเอาดาบหน้าเอง
เราอยากได้คนที่วางระบบการทำงาน จัดระบบและเสริมทรัพยากรให้ทำงานได้ และรับฟัง เข้าใจ แก้ไขปัญหาให้กับคนหน้างาน พร้อมที่จะปรับวิธีการเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
ณ เวลาวิกฤตแบบนี้ การลงมือทำทันที สำคัญกว่าการรอรายงานตามขั้นตอนแล้วไม่ได้ทำสักที
5. เราต้องการความเห็นอกเห็นใจจากรัฐบาล คนประสบภัย โดนน้ำท่วม พังทลายทั้งชีวิต ต้องเจียดเงินอันน้อยนิดออกมาก้อนใหญ่เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือน - ผมขอเสนอให้ละเว้นภาษีแก่ผู้ประสบภัย ถ้าทำได้นะครับ
ขอเรื่องเหล่านี้ ไม่รู้ขอมากไปไหม แต่ขอจากใจ โดยเฉพาะการร่วมมือด้านอัตรากำลังบุคลากรทางการแพทย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปภ. รายงานยังมีน้ำท่วมภาคใต้ 7 จังหวัด เร่งระบายน้ำพื้นที่น้ำท่วมขังและเยียวยาผู้ประสบภัย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสรุปสถานการณ์ยังมีอุทกภัยภาคใต้ 7 จังหวัด ปภ. บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งฟื้นฟูทำความสะอาด กำจัดขยะ ในพื้นที่น้ำลดและเร่งระบายน้ำและเยียวยาผู้ประสบภัย
โอนเงินเยียวยาน้ำท่วม สำเร็จแล้ว 4.9 พันล้าน 5 แสนครัวเรือน
'ภราดร' เผยยอดโอนเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ช่วง 1-4 ธ.ค. โอนสำเร็จแล้ว 548,126 ครัวเรือน วงเงินรวม 4.9 พันล้านบาท
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
สส.ศาสตรา สะท้อนปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่ จี้รัฐบาลเร่งแก้ขยะเน่าเหม็นแล้ว เงินเยียวยายังล่าช้า
สส.สงขลา เข้าสภาฯ สะท้อนปัญหาชาวหาดใหญ่ เรียกร้องรัฐบาล เร่งจ่ายเงิน 9,000 บาทให้เร็วเหมือนวันแรก จี้ เก็บขยะเน่าเสีย วอน ออกมาตรการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว
'บวรศักดิ์' แถลงตั้งอนุกรรมการ 5 คณะ ถอดบทเรียนมหาอุทกภัยหาดใหญ่
"บวรศักดิ์" แถลงตั้ง 5 อนุกรรมการ ถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย แก้ครบวงจร ตั้งแต่พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา ทำระบบให้ใช้ได้ทุกพื้นที่ รายงานผลทุก 2 สัปดาห์ เผยนำทีมกรรมการ ลงดูหน้างานจริง 6 ธ.ค. หวังคนหาดใหญ่นอนหลับ สบายใจ


