ผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 รายของแอปเปิลเรียกร้องให้บริษัทศึกษาว่า ไอโฟนส่งผลให้เด็กเสพติดสมาร์ทโฟนหรือไม่ และการใช้อย่างหมกมุ่นอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตของเด็กหรือไม่

 

นิวยอร์ก \ สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างรายงานข่าวของบลูมเบิร์กเมื่อวันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2561 ว่าจานาพาร์ตเนอร์สแอลแอลซี และแคลิฟอร์เนียสเตททีชเชอร์สรีไทร์เมนต์ซิสเต็ม ได้ทำหนังสือถึงบริษัทแอปเปิล ลงวันที่ 6 มกราคม แสดงความเป็นห่วงว่า มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นว่า การใช้ไอโฟน อย่างน้อยในหมู่ผู้ใช้รุ่นเยาว์บางรายที่ใช้งานบ่อย อาจจะได้รับผลกระทบเชิงลบโดยไม่ได้เจตนา และความไม่สบายใจทางสังคมที่เพิ่มมากขึ้นจากการที่เด็กๆ หมกมุ่นกับการเล่นสมาร์ทโฟนน่าจะส่งผลต่อบริษัทแอปเปิลเองได้

    ผู้ถือหุ้น 2 รายนี้ ซึ่งถือหุ้นรวมกันราว 2,000 ล้านดอลลาร์ ยังเรียกร้องให้แอปเปิลพัฒนาวิธีการเพิ่มเติมสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่จะจำกัดการใช้สมาร์ทโฟนของลูกหลาน พร้อมกับชี้ว่า การเผชิญหน้ากับประเด็นนี้จะเสริมมูลค่าของบริษัทในระยะยาวสำหรับผู้ถือหุ้นทั้งหมด

    รายงานของบลูมเบิร์กกล่าวว่า โฆษกของแอปเปิลปฏิเสธจะให้ทัศนะเกี่ยวกับหนังสือฉบับนี้

    ปัจจุบัน แอปเปิลมีฟังก์ชันที่ให้ผู้ปกครองสามารถควบคุมไอโฟน ไม่ให้บุตรหลานสามารถเข้าถึงแอพพลิเคชันหรือคอนเทนต์บางอย่างอยู่แล้ว

    หนังสือฉบับนี้เป็นอีกหนึ่งแรงกดดันต่อแอปเปิล หลังจากบริษัทถูกบีบให้ต้องขอโทษเมื่อเดือนที่แล้ว จากกรณีที่แอปเปิลยอมรับว่าทำให้ไอโฟนรุ่นเก่าทำงานช้าลง

    กลุ่มผู้บริโภคหลายกลุ่มกล่าวหาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐรายนี้ว่า ทำให้ไอโฟนรุ่นเก่าทำงานช้าลง เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อไอโฟนรุ่นใหม่ แต่แอปเปิลอ้างว่าปรับการทำงานของเครื่องให้เหมาะสมกับแบตเตอรีรุ่นเก่าและเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบต.