คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะลงคะแนนเสียงในมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติม หลังจากที่ผู้นำคิมสั่งยิงขีปนาวุธข้ามทวีปหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา

คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ขณะแถลงในการประชุมที่สำนักงานใหญ่ของคณะกรรมการกลางของพรรคแรงงานเกาหลีในเปียงยาง เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ถ่ายภาพและเผยแพร่โดยสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) (Photo by KCNA VIA KNS / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม 2565 กล่าวว่า สหรัฐอเมริกาซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงตามวาระในเดือนพฤษภาคม ได้เรียกร้องให้มีการลงคะแนนเสียงในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีในมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของสหรัฐฯ กล่าวว่า มติดังกล่าวจะเน้นไปที่การควบคุมการนำเข้าน้ำมันของเกาหลีเหนือ แต่มีความเป็นไปได้ที่รัสเซียและจีนอาจจะใช้อำนาจยับยั้ง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ามติคณะมนตรีความมั่นคง 2397 ซึ่งได้รับการรับรองอย่างเป็นเอกฉันท์ในปี 2560 กำหนดให้มีมาตรการเพิ่มเติมหากเกิดกรณีการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปขึ้นมาอีกครั้ง
นักการฑูตรายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์ออกนามระบุว่า จีนอาจยินดีลงมติคว่ำบาตรครั้งใหม่หากเกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์ แต่คงไม่คิดว่าเป็นประเด็นอะไรหากเป็นแค่การยิงขีปนาวุธ
ด้านโฆษกของคณะผู้แทนจีนกล่าวกับเอเอฟพีว่า "จีนไม่คิดว่าข้อเรียกร้องที่สหรัฐฯ เสนอมา จะช่วยแก้ปัญหาใดๆ ได้ แม้จีนจะนำเสนอคำแนะนำบางอย่างไป แต่สหรัฐฯก็ทำเป็นหูทวนลม"
ร่างมติคว่ำบาตรที่สหรัฐฯ เสนอให้ลงคะแนนเสียงในวันพฤหัสบดี มีประเด็นหลักในการเรียกร้องให้ลดปริมาณน้ำมันที่เกาหลีเหนือนำเข้าได้ตามกฎหมายในแต่ละปีเพื่อวัตถุประสงค์ทางการบริโภคในภาคประชาชน จากที่เคยนำเข้าได้ 4 ล้านบาร์เรล ให้เหลือเพียง 3 ล้านบาร์เรล ต่อปี และให้ลดการนำเข้าปิโตรเลียมกลั่นจาก 500,000 บาร์เรล เหลือ 375,000 บาร์เรล รวมถึงคว่ำบาตรการส่งออกของเกาหลีเหนือในสินค้าประเภทนาฬิกา และแร่เชื้อเพลิง
สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 3 ลูก ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) หลังการเดินทางออกจากภูมิภาคเอเชียของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เพียงไม่กี่ชั่วโมง เมื่อวันพุธ
ทูตยูเอ็นคนหนึ่งซึ่งมีประเทศอยู่ในคณะมนตรีความมั่นคง ให้ข้อมูลกับเอเอฟพีโดยไม่เปิดเผยชื่อพร้อมยอมรับว่า การกระทำของเกาหลีเหนือเป็น "ภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวง" และการตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่จะผลักดันให้มีการลงคะแนนเสียงอย่างรวดเร็วอาจเป็นเหตุแห่งการแบ่งแยกของคณะมนตรีความมั่นคง หากการลงคะแนนครั้งนี้ล้มเหลว น่าจะเป็นข่าวดีของคิมจองอึน และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติคงจะสูญเสียโอกาสในการเพิ่มแรงกดดันไปยังเกาหลีเหนือ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กต. ขอให้มั่นใจ 'สีหศักดิ์' ประชุมอาเซียน 22 ธ.ค.นี้ จะไม่มีอะไรมากดดันไทยให้เสียเปรียบ
กต. ย้ำไม่มีอะไรมากดดันไทยให้เสียเปรียบเวทีอาเซียน 22 ธ.ค.นี้ หลัง สหรัฐ-จีน แสดงท่าทีปะทะชายแดน ย้ำ กัมพูชา ต้องรับ 3 เงื่อนไข "สีหศักดิ์" ยกคณะไปมาเลเซีย 21 ธ.ค.นี้
จีน-เมกาแห่หย่าศึก/ไทยยํ้ากัมพูชาหยุดก่อน
สองชาติมหาอำนาจ "สหรัฐอเมริกา-จีน" ช่วงชิงเป็นตัวกลางหย่าศึกไทย-เขมร
นายกฯ ทุบโต๊ะ! ประเทศมหาอำนาจกดดันไทยหยุดยิงไม่ได้ ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนชนจีน ได้คุยโทรศัพท์กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
'หลิว จงอี้' พบกองทัพบก จีนชี้รัฐบาลกัมพูชาเอี่ยวขบวนการ 'สแกมเมอร์' หลายมิติ
หลิว จงอี้ ร่วมหารือกองทัพบก ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไซเบอร์สแกม เผยรัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ

