ออสซี่เคืองลดโทษมือบึ้มบาหลี

นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียระบุว่าเป็นเรื่องเจ็บปวดอย่างยิ่งที่ทางการอินโดนีเซียลดโทษจำคุกให้กับอูมาร์ ปาเต็ก มือประกอบระเบิดที่ใช้ก่อเหตุระเบิดบนเกาะบาหลีเมื่อปี 2545 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 202 ศพ โดยเป็นชาวออสเตรเลีย 88 ราย คาดว่าในอีกไม่กี่วัน นักโทษรายนี้จะได้รับการปล่อยตัวภายใต้เงื่อนไขทัณฑ์บน

          เอพีรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2565 อูมาร์ ปาเต็ก มือประกอบระเบิดที่ใช้ก่อเหตุระเบิดบนเกาะบาหลีเมื่อเดือนตุลาคม 2545 ได้รับการลดหย่อนโทษจำคุกเมื่อเร็วๆ นี้ รวมที่เขาได้รับลดหย่อนโทษทั้งหมดเกือบ 2 ปี มีความเป็นไปได้ที่เขาจะได้รับการปล่อยตัวภายใต้เงื่อนไขทัณฑ์บนก่อนครบ 20 ปี เหตุระเบิดที่พุ่งเป้าโจมตีนักท่องเที่ยวต่างชาติบนเกาะบาหลี

          นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แชนแนล 9 ของออสเตรเลียในวันเดียวกันว่า การที่ทางการอินโดนีเซียลดโทษจำคุกให้กับมือระเบิดที่ใช้ในการก่อเหตุระเบิดบนเกาะบาหลี จะทำให้เกิดความเจ็บปวดต่อชาวออสเตรเลียที่เป็นครอบครัวของเหยื่อเหตุระเบิดบนเกาะบาหลี ย้ำว่า “เราสูญเสียชาวออสเตรเลีย 88 คน จากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น”

          ผู้นำออสเตรเลียกล่าวว่า เขาจะให้ตัวแทนทางการทูตของออสเตรเลียประจำอินโดนีเซีย ยื่นเรื่องต่อรัฐบาลอินโดนีเซียเกี่ยวกับการลดโทษของปาเต็ก รวมถึงในเรื่องอื่นเช่นที่ชาวออสเตรเลียโดนตัดสินจำคุกในอินโดนีเซียเมื่อเร็วๆ นี้

          อัลบาเนซีระบุว่า การกระทำของปาเต็กเป็นการลงมือของผู้ก่อการร้าย สิ่งที่ผู้ร่วมก่อเหตุระเบิดบนเกาะบาหลีกระทำ ทำให้เกิดผลที่น่าหวาดกลัวสำหรับครอบครัวชาวออสเตรเลียหลายครอบครัว ซึ่งยังดำรงอยู่โดยเฉพาะด้านความบอบช้ำทางจิตใจ

          ทางการอินโดนีเซียมักจะลดโทษจำคุกให้กับนักโทษในวันหยุดสำคัญของชาติ เช่น วันฉลองการได้รับเอกราชหรือวันชาติเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

          ซาเอโรจิ หัวหน้าสำนักงานของกระทรวงยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนจังหวัดชวาตะวันออกเผยว่า ปาเต็กได้รับการลดโทษจำคุก 5 เดือน ในวันฉลองเอกราชของอินโดนีเซียที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นนักโทษที่มีความประพฤติดีเช่นเดียวกับนักโทษอีกหลายคน และมีความเป็นไปได้ว่าเขาจะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำโปรองภายในเดือนนี้ เขาสำนึกเสียใจต่อพฤติกรรมสุดโต่งที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอันตรายต่อสังคมและประเทศ และให้สัญญาว่าจะเป็นพลเมืองดี

          ปาเต็กโดนจับในปากีสถานเมื่อปี 2554 และส่งตัวกลับเพื่อพิจารณาคดีในอินโดนีเซีย ศาลอินโดนีเซียตัดสินจำคุกเขา 20 ปี ในปี 2555

          ซาเอโรจิเผยว่า เมื่อพิจารณาจากโทษจำคุกที่ปาเต็กได้รับไปแล้วรวมกับการได้รับลดโทษ ทำให้เขามีสิทธิ์จะได้รับทัณฑ์บน เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนในกรุงจาการ์ตาอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้เขาได้รับทัณฑ์บนหรือไม่ ถ้าไม่ได้รับทัณฑ์บน ปาเต็กจะรับโทษในเรือนจำไปจนถึงปี 2572

          ปาเต็กเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุชายหลายคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดบนเกาะบาหลี เมื่อเดือนตุลาคม 2545 ซึ่งกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของกลุ่มญะมาอะห์ อิสลามียะห์ กลุ่มก่อการร้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ ผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดบนเกาะบาหลี ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มวยไทยมาสเตอร์ฯปิดที่ออสเตรเลีย ภาพรวมตลอดปีทะลุเป้า มูลค่าเศรษฐกิจไทย 3,200ล้าน

ปิดฉากโครงการ "มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025" ที่ออสเตรเลีย ชาวออสซี่ให้ความสนใจฝึกมวยไทยกับ 3 นักชกดัง แสนชัย พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม, เพชรมั่งคง เพชรเฟอร์กัส และ นำศักดิ์น้อย ยุทธการกำธร เผยภาพรวมปี 2568 รวม 10 ประเทศที่จัดงานสร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจไทยกว่า 3,200 ล้านบาท  

เรื่องเล่าจากเมืองซิดนีย์ ท้องฟ้า ทะเล และรสชาติ

ถ้าจะให้เล่าถึงเมืองที่มีสีสันและน่าประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบลงจากเครื่องบิน “ซิดนีย์” คงติดอันดับต้นๆ แบบไม่ต้องลังเล เมืองนี้ไม่ใช่แค่เมืองใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย

ประเทศใดบ้างที่ยอมรับรัฐปาเลสไตน์ และประเทศใดบ้างที่ไม่ยอมรับ?

ร่วมสองปีหลังจากสงครามในฉนวนกาซาเริ่มต้นขึ้น สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย และโปรตุเกส ได้ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฝรั่งเศส เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก และประเทศอื่นๆ มีแผนที่จะประกาศการรับรองรัฐอิสระ

สื่อออสเตรเลียเปิดโปง เครือญาติ 'สมเด็จวุ้นเส้น' ทุ่มเกือบพันล้านซื้อบ้าน-ที่ดิน ในเมเบิร์น แต่เงินเดือน3หมื่น

เพจ CSI LA เผยว่า สื่อ ABC Australia เปิดโปง ขุนพลพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) และเครือญาติฮุนเซน ทุ่ม เกือบพันล้านบาท ซื้อบ้าน

'ผบก.น.9' หารือตำรวจประสานงาน AFP วางโครงการศึกษางานพัฒนาระบบสถานีตำรวจ

ผบก.น.9 หารือร่วมกับนายตำรวจประสานงาน AFP วางโครงการศึกษาดูงานการพัฒนาระบบบริหารงานสถานีตำรวจ และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน