ส.ว.สหรัฐฯ เยือนไต้หวันอีกแล้ว ถือเป็นครั้งที่ 4 ในเดือนเดียว

มาร์ชา แบล็กเบิร์น วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน เป็นการมาเยือนครั้งที่ 4 ของนักการเมืองชาวอเมริกันในเดือนนี้ และคงเป็นการเคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่การออกมาซ้อมรบอีกรอบของรัฐบาลปักกิ่ง

มาร์ชา แบล็กเบิร์น (ขวา) วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เดินทางถึงสนามบินซงซาน ในกรุงไทเป ก่อนเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 25 สิงหาคม โดยมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวันให้การต้อนรับ (Photo by Taiwan's Ministry of Foreign Affairs (MOFA) / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 กล่าวว่า มาร์ชา แบล็กเบิร์น วุฒิสมาชิกสหรัฐพรรครีพับลิกันจากรัฐเทนเนสซี เดินทางถึงเกาะไต้หวันเมื่อคืนวันพฤหัสบดี

แบล็กเบิร์นเดินทางมาด้วยเครื่องบินขนาดเล็กของรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อนลงจอดที่สนามบินซงซาน ในกรุงไทเป ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวันให้ข้อมูลว่าเป็นการเยือนโดยลำพัง

แบล็กเบิร์นเปิดเผยการมาถึงของเธอผ่านทวิตเตอร์ กล่าวว่า "ฉันเดินทางมาไต้หวันเพื่อส่งข้อความถึงรัฐบาลปักกิ่ง ให้ได้รู้ว่าสหรัฐฯ ยังคงแน่วแน่ในการรักษาเสรีภาพทั่วโลก และจะไม่ยอมให้มีความพยายามใดๆมาบ่อนทำลายประเทศและพันธมิตรของเรา และฉันตั้งตารอที่จะเข้าพบกับผู้นำไต้หวัน เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนซึ่งกันและกัน"

กระทรวงการต่างประเทศของไต้หวันขอบคุณการเดินทางมาเยือนในครั้งนี้ กล่าวว่า "ไต้หวันรู้สึกขอบคุณที่สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ได้แสดงการสนับสนุนและความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่อีกครั้งต่อไต้หวัน ด้วยการมาเยือนในช่วงเวลาที่จีนยังคงคุกคามไม่หยุด"

ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ นับตั้งแต่การเยือนไต้หวันของแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯเมื่อต้นเดือนสิงหาคม จุดชนวนให้เกิดการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ของจีนบริเวณรอบเกาะไต้หวันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

สหรัฐอเมริกามีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับจีน แต่ก็ยังคงท่าทีเป็นพันธมิตรสำคัญของไต้หวัน และรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลไทเปโดยพฤตินัย

นโยบายอย่างเป็นทางการของสหรัฐอเมริกานั้น ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างการคัดค้านการประกาศเอกราชของไต้หวัน เและการไม่ยินยอมให้จีนบังคับไต้หวันให้เปลี่ยนระบอบการปกครอง โดยยังคงคลุมเครืออยู่ว่าจะมีการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ไต้หวันหรือไม่หากจีนบุกยึดเกาะไต้หวันขึ้นมาวันใดวันนึง.