จีนตอบโต้ข้อกล่าวหาของสหประชาชาติประเด็นละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง หลังมีการเผยแพร่รายงานสรุปความเป็นไปได้ว่ามีการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติในภูมิภาคดังกล่าว

ภาพหน้าจอของรายงานด้านสิทธิมนุษยชนในเขตซินเจียงของจีน ซึ่งเผยแพร่เพียงไม่กี่นาทีก่อนที่มิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติจะหมดวาระจากตำแหน่ง ถ่ายภาพและเผยแพร่เมื่อวันที่ 1 กันยายน (Photo by AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2565 กล่าวว่า สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเผยแพร่รายงานที่ใช้เวลารวบรวมข้อมูลกว่า 1 ปีในประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน โดยเฉพาะในเขตปกครองตนเองซินเจียง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
รายงานดังกล่าวระบุรายละเอียดการละเมิดสิทธิมนุษยชนจำนวนมากในจีน รวมถึงการทรมานและบังคับใช้แรงงานต่อชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่น ๆ ในภูมิภาคทางตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นระยะเวลายาวนาน และสรุปว่า ขอบเขตของการควบคุมตัวโดยพลการและการเลือกปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์และชนมุสลิมของจีน อาจถือเป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศ และการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ พร้อมเรียกร้องให้ทั่วโลกหันมาสนใจและแก้ไขประเด็นดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
จีนได้ออกมาตอบโต้รายงานดังกล่าวทันที และชี้ว่าสหประชาชาติเป็นอันธพาลและผู้สมรู้ร่วมคิดของสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตก
"รายงานดังกล่าวผิดกฎหมายและไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะเกิดจากการวางแผนและผลิตขึ้นเองโดยสหรัฐฯ และกองกำลังชาติตะวันตกบางส่วน" หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี
“รายงานดังกล่าวเป็นเพียงการผสมผสานข้อมูลที่ผิดพลาดและเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ของชาติตะวันตกในการใช้ประเด็นซินเจียงเพื่อควบคุมจีน” เขากล่าวเสริม
มิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เป็นผู้รวบรวมและจัดทำรายงานดังกล่าวและตั้งใจให้มีการเผยแพร่ก่อนหมดวาระการทำงานจากตำแหน่งของเธอปลายเดือนสิงหาคม และเธอก็ได้ทำเช่นนั้นจริงๆก่อนหมดวาระ 13 นาที
จีนถูกกล่าวหาว่าคุมขังชาวอุยกูร์มากกว่า 1 ล้านคนและชาวมุสลิมอื่นๆ ในซินเจียงมานานหลายปี
ขณะที่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนกลับผิดหวังต่อรายงานดังกล่าวที่ไม่ยอมใช้คำว่า "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" กับจีน และมองว่าเนื้อหาของรายงานยังเบาเกินไปเมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง.
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2565 กล่าวว่า สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเผยแพร่รายงานที่ใช้เวลารวบรวมข้อมูลกว่า 1 ปีในประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน โดยเฉพาะในเขตปกครองตนเองซินเจียง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
รายงานดังกล่าวระบุรายละเอียดการละเมิดสิทธิมนุษยชนจำนวนมากในจีน รวมถึงการทรมานและบังคับใช้แรงงานต่อชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่น ๆ ในภูมิภาคทางตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นระยะเวลายาวนาน และสรุปว่า ขอบเขตของการควบคุมตัวโดยพลการและการเลือกปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์และชนมุสลิมของจีน อาจถือเป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศ และการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ พร้อมเรียกร้องให้ทั่วโลกหันมาสนใจและแก้ไขประเด็นดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
จีนได้ออกมาตอบโต้รายงานดังกล่าวทันที และชี้ว่าสหประชาชาติเป็นอันธพาลและผู้สมรู้ร่วมคิดของสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตก
"รายงานดังกล่าวผิดกฎหมายและไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะเกิดจากการวางแผนและผลิตขึ้นเองโดยสหรัฐฯ และกองกำลังชาติตะวันตกบางส่วน" หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี
“รายงานดังกล่าวเป็นเพียงการผสมผสานข้อมูลที่ผิดพลาดและเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ของชาติตะวันตกในการใช้ประเด็นซินเจียงเพื่อควบคุมจีน” เขากล่าวเสริม
มิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เป็นผู้รวบรวมและจัดทำรายงานดังกล่าวและตั้งใจให้มีการเผยแพร่ก่อนหมดวาระการทำงานจากตำแหน่งของเธอปลายเดือนสิงหาคม และเธอก็ได้ทำเช่นนั้นจริงๆก่อนหมดวาระ 13 นาที
จีนถูกกล่าวหาว่าคุมขังชาวอุยกูร์มากกว่า 1 ล้านคนและชาวมุสลิมอื่นๆ ในซินเจียงมานานหลายปี
ขณะที่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนกลับผิดหวังต่อรายงานดังกล่าวที่ไม่ยอมใช้คำว่า "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" กับจีน และมองว่าเนื้อหาของรายงานยังเบาเกินไปเมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขำไม่ออก! อดีต รมว.กต. โวรัฐบาลอิ๊งค์เจรจาสหรัฐ-จีน กดดันกัมพูชาเคารพข้อตกลงสันติภาพได้สำเร็จ
"มาริษ" แนะดึงจีนร่วมกดดันกัมพูชาให้เคารพข้อตกลง-รักษาสมดุลมหาอำนาจ-สื่อสารสหรัฐฯ โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง
กระแสชื่นชม สมเด็จพระราชินี จากชาวจีนสะท้อนอะไร
ความคิดเห็นของชาวจีนจำนวนมากพูดตรง ๆ เลยว่า “งดงาม สง่างาม มีความสูงศักดิ์” และ “ดูจริงใจ ไม่ใช่การแสดง”
ไทยหวังพึ่งจีนได้หรือไม่ ในกรณีถูกสหรัฐฯกดดัน 'เอ็ดดี้' มีคำตอบ
ไทยสามารถหวังพึ่งจีนในมิติของการสนับสนุนทางการทูตและเศรษฐกิจเพื่อคานอำนาจได้ แต่ไม่สามารถคาดหวังความช่วยเหลือทางทหารโดยตรงในปัญหาชายแดนกับกัมพูชา
ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ เยือนปักกิ่ง วันที่ 2 รัฐบาลจีนต้อนรับถวายพระเกียรติยศสูงสุด
ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ เยือนปักกิ่งวันที่ 2 รัฐบาลจีนต้อนรับถวายพระเกียรติยศสูงสุด
นายกฯ เผยข่าวดี 'ปธน.สี จิ้นผิง' กราบบังคมทูล 'ในหลวง' จีนซื้อข้าวไทย 5 แสนตัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ที่อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี


