เมตา (Meta) เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีรายล่าสุดที่เตรียมลดจำนวนพนักงานลง โดยมีแผนจะเลิกจ้างพนักงานหลายพันคนในสัปดาห์นี้

โลโก้ของเมตา ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook), อินสตาแกรม (Instagram) และวอทแอปส์ (WhatsApp) (Photo by Chris DELMAS / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2565 กล่าวว่า เมตา (Meta) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ มีแผนปรับลดจำนวนพนักงาน สอดคล้องกับกระแสขาลงของบริษัทฯที่เห็นได้จากมูลค่าหุ้นที่ตกฮวบอย่างน่าตกใจ ตามรายงานของสื่อสหรัฐฯเมื่อวันอาทิตย์
ทั้งนี้ เมตาเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook), อินสตาแกรม (Instagram) และวอทแอปส์ (WhatsApp) มีผลประกอบการที่น่าผิดหวังในไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยมาร์ค ซัคเคอเบิร์ค ซีอีโอของบริษัทฯ กล่าวยืนยันด้วยตัวเองว่า จำนวนพนักงานของบริษัทฯจะไม่เพิ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2566 และอาจปรับลดลงเล็กน้อย
เมตามีผลกำไรในไตรมาสที่ 3 เหลือเพียง 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นยอดลดลง 52% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ราคาหุ้นของเมตาได้รับผลกระทบอย่างมากจากผลประกอบการที่น่าผิดหวัง โดยราคาหุ้นร่วงลง 25 จุดในวันเดียว ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทฯในปีที่ผ่านมาลดลงเหลือเพียง 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
สื่อของสหรัฐฯอย่าง The Wall Street Journal รายงานว่า การเลิกจ้างอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานของเมตาหลายพันคนและคาดว่าจะมีการประกาศอย่างชัดเจนในวันพุธนี้
จากข้อมูลล่าสุด วันที่ 30 กันยายน เมตามีพนักงานประมาณ 87,000 คนทั่วโลกในแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งรวมถึงเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย Facebook, Instagram และแพลตฟอร์มการส่งข้อความ Whatsapp
แผนปรับลดพนักงานล่าสุดของเมตาเป็นไปตามแนวทางของบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ๆ เช่นกัน ในการเลิกจ้างงานหรือลดจำนวนพนักงานลง ท่ามกลางความยากลำบากของอุตสาหกรรมที่ต้องต่อสู้กับความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว บริษัทสไตร์ป (Stripe Inc.) และบริษัทลีฟท์ (Lyft) ในซิลิคอนวัลเลย์ เพิ่งประกาศเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากในขณะที่ยักษ์ใหญ่อย่าง แอมะซอน (Amazon) ก็ประกาศหยุดการจ้างงานในสำนักงานของบริษัทด้วยเช่นกัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทวิตเตอร์ (Twitter) ที่เพิ่งถูกซื้อกิจการโดยอีลอน มัสค์ ได้เลิกจ้างพนักงานประมาณครึ่งหนึ่งจากจำนวนพนักงานทั้งหมด 7,500 คน
แพลตฟอร์มที่สนับสนุนการโฆษณา เช่น เฟซบุ๊ก และกูเกิล ได้รับผลกระทบจากการลดงบประมาณของผู้โฆษณา เนื่องจากต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อย่าลงทะเบียนผ่านเฟซบุ๊ก-ติ๊กต็อก-ไลน์ แนะ 3 ช่องทางขอเงินคืนจาก ปปง.
รัฐบาลย้ำ ปปง. ไม่มีระบบคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ทางเฟซบุ๊ก-ติ๊กต็อก-ไลน์ เตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อลงทะเบียนขอรับเงินคืน แนะ 3 ช่องทางที่ถูกต้อง
'อิ๊งค์' มาแล้ว! รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิป 'นั่งลงลูก'
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ได้รีโพสต์สตอรี่ในอินสตาแกรม เป็นคลิปวีดิโอข่าวของสำนักข่าว VOICE TV ที่มีข้อความข่าวระบุด้วยว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า "นั่งลงครับ"
จากนายพลเขมรแดงสู่คีย์บอร์ดแมน: โพสต์ที่ทำให้ 'ฮุนเซน' ดูเล็กลง
จากผู้นำเผด็จการผู้เคยสั่งการทั้งประเทศ ฮุนเซนวันนี้ใช้เฟซบุ๊กเป็นปืนกลคำพูด กราดยิงทั้งจริงทั้งเท็จ ปลุกชาตินิยมในกัมพูชา และปั่นไทยให้เดือด แต่ยิ่งเล่นใหญ่จากเรื่องเล็ก
'จักรภพ' โพสต์เฟซบุ๊กให้ตีความ! ขณะมรสุมกระหน่ำเราต้องกระจายตัวกัน
นายจักรภพ เพ็ญแข ว่าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
สุดหวาดเสียว! คนร้ายโปรยตะปูเรือใบเกลื่อนถนน ตร.เร่งล่าตัว
เพจเฟซบุ๊ก “พีอาร์ยางยนต์ 99 จำหน่าย ยางรถยนต์ ตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ ปะยาง 24 ชม.” ตั้งอยู่ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์การออกไปให้บริการปะเปลี่ยนยางลอรถยนต์นอกสถานที่


