ไบเดนแถลงในการประชุม COP27 เรียกร้องให้ทั้งโลกจริงจังกับการต่อสู้เรื่องสภาพอากาศ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงเจตจำนงของสหรัฐอเมริกาในการประชุมว่าด้วยเรื่องสภาพอากาศของสหประชาชาติ พร้อมยืนยันว่าสหรัฐฯ กำลังดำเนินการเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน และเรียกร้องให้ทุกประเทศเพิ่มความพยายามของตนเองในการหลีกเลี่ยงสภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา กล่าวสุนทรพจน์ระหว่างการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 27 ประจำปี 2022 หรือ COP27 ที่เมืองชาร์ม เอล ชีค ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน (Photo by SAUL LOEB / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2565 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา เดินทางถึงเมืองชาร์ม เอล ชีค ประเทศอียิปต์ เมื่อวันศุกร์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 27 ประจำปี 2022 หรือ COP27

โจ ไบเดน ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงานประชุมดังกล่าว โดยเปิดเผยว่า สหรัฐอเมริกาอนุมัติงบประมาณกว่า 369,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 13 ล้านล้านบาท) เพื่อดำเนินโครงการเศรษฐกิจสีเขียวให้เป็นตัวอย่างแก่ทุกประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังผลักดันการใช้พลังงานหมุนเวียนของตนเองจนได้รับการยกย่องจากนักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อม

"วิกฤตสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงกับความมั่นคงของมนุษย์, ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ, ความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อม, ความมั่นคงของชาติ และทุกชีวิตบนโลกใบนี้" โจ ไบเดน กล่าวกับผู้ฟังที่เข้าร่วมประชุมในงาน COP27

ไบเดนกล่าวเสริมว่า สหรัฐฯ กำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องในการบรรลุเป้าประสงค์เพื่อลดการปล่อยมลพิษให้ได้ 50-52% ภายในปี 2573

"สหรัฐฯ ได้เริ่มลงมือกระทำแล้ว เช่นเดียวกับทุกคนที่ต้องลงมือกระทำ ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้นำระดับโลก" ไบเดนทิ้งท้าย

อย่างไรก็ดี สหรัฐฯถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ว่าจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศกำลังพัฒนาให้สามารถแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศด้วยตนเองได้ รวมทั้งสามารถพัฒนาศักยภาพเพื่อรับมือกับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกชั่วขณะ

ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ของไบเดน ซึ่งกินเวลาประมาณ 22 นาที มีการขัดจังหวะชั่วครู่จากกลุ่มคนท่ามกลางฝูงชนที่มาร่วมฟังแถลงการณ์ของไบเดน โดยกลุ่มคนเหล่านั้นส่งเสียงโห่และชูป้ายที่มีเนื้อหาประท้วงการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล

ข้อมูลจากการวิจัยล่าสุดพบว่า เป้าหมายการลดภาวะโลกร้อนให้ได้ 1.5 องศาเซลเซียสตามข้อตกลงปารีส โดยทั้งโลกต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงเกือบครึ่งหนึ่งภายในปี 2573 นั้น เป็นไปได้ยากมากในทางปฏิบัติ แถมผลการศึกษาใหม่ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Earth System Science Data เมื่อวันศุกร์ยังพบว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิลกลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 1% ในปีนี้ ทำให้จะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์.