
รองนายกรัฐมนตรีจีนและหลายเมืองในประเทศส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่จะผ่อนคลายนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ หลังประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ เรียกร้องให้ยุติการล็อกดาวน์และให้มีเสรีภาพทางการเมืองมากยิ่งขึ้น
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม 2565 ว่า ชาวจีนออกมาชุมนุมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เช่น ในกรุงปักกิ่ง, นครเซี่ยงไฮ้ และนครกว่างโจว เนื่องจากไม่พอใจกับนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาล ซึ่งมีการล็อกดาวน์ทั้งเมือง, ต้องตรวจหาเชื้อไม่จบไม่สิ้น และต้องกักตัวแม้กับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ ในการชุมนุมยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออก และให้มีเสรีภาพทางการเมืองมากยิ่งขึ้น
หลังเกิดการชุมนุมประท้วง ทำให้หน่วยงานความมั่นคงของจีนแถลงเตือนว่า จะมีการปราบปรามการชุมนุม แต่เริ่มมีการส่งสัญญาณว่ากำลังดำเนินการผ่อนคลายยุทธศาสตร์ควบคุมไวรัสโคโรนาที่เข้มงวด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ซุน ชุนหลาน รองนายกรัฐมนตรีจีน บุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจีน กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติเมื่อวันพุธว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่กลายพันธุ์กำลังอ่อนแอลง และมีอัตราการฉีดวัคซีนของประชาชนดีขึ้นมาก เนื่องจากสถานการณ์ใหม่เช่นนี้จึงจำเป็นต้องใช้ภารกิจใหม่
แม้รองนายกรัฐมนตรีหญิงของจีนผู้นี้ไม่ได้กล่าวถึงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ในการประชุมเมื่อวันพุธ แต่บอกว่าอาจจะมีการผ่อนคลายในเร็วๆ นี้กับมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและชีวิตประจำวันของประชาชน
ด้านกรุงปักกิ่งประกาศว่าจะลดขนาดของผู้ที่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซู เหอเจี้ยน โฆษกสำนักเทศบาลกรุงปักกิ่งแถลงเมื่อวันพุธว่า ผู้สูงอายุที่ทำงานที่บ้าน, นักเรียน นักศึกษาและครูอาจารย์ที่มีการเรียนการสอนทางออนไลน์ รวมถึงบุคคลอื่นๆ ที่ไม่มีความจำเป็นต้องออกจากบ้านบ่อย ขณะนี้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องตรวจหาเชื้อรายวัน อย่างไรก็ตาม ผู้พักอาศัยในกรุงปักกิ่งยังต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบที่มีการตรวจไม่เกิน 48 ชั่วโมง เมื่อต้องเข้าใช้บริการในที่สาธารณะ เช่น ห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหารและร้านกาแฟ
หนังสือพิมพ์เซาท์เทิร์น เมโทรโพลิส เดลี ที่ทางการจีนเป็นเจ้าของรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในกรุงปักกิ่งและนครกว่างโจวมีแผนที่จะอนุญาตให้ประชาชนที่มีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นบวกบางกลุ่ม ให้กักตัวอยู่ที่บ้านได้ แทนการบังคับให้กักตัวอยู่ในสถานกักตัวที่ดำเนินการโดยทางการ
นครกว่างโจวในมณฑลกวางตุ้งทางใต้ของจีน ซึ่งเกิดเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมประท้วงมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดกับตำรวจเมื่อคืนวันอังคาร ประกาศยกเลิกการตรวจหาเชื้อกับประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่มีความจำเป็นต้องออกจากบ้านบ่อย รวมถึงผู้สูงอายุและเด็กทารก
ที่เขตไห่จูในนครกว่างโจว ซึ่งเกิดเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจเมื่อวันอังคาร ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ได้บังคับตรวจโควิดรายวันเฉพาะบางอาชีพ เช่น บุคลากรทางการแพทย์, เภสัชกร, พนักงานสุขาภิบาลและพนักงานส่งของ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กต. ขอให้มั่นใจ 'สีหศักดิ์' ประชุมอาเซียน 22 ธ.ค.นี้ จะไม่มีอะไรมากดดันไทยให้เสียเปรียบ
กต. ย้ำไม่มีอะไรมากดดันไทยให้เสียเปรียบเวทีอาเซียน 22 ธ.ค.นี้ หลัง สหรัฐ-จีน แสดงท่าทีปะทะชายแดน ย้ำ กัมพูชา ต้องรับ 3 เงื่อนไข "สีหศักดิ์" ยกคณะไปมาเลเซีย 21 ธ.ค.นี้
จีน-เมกาแห่หย่าศึก/ไทยยํ้ากัมพูชาหยุดก่อน
สองชาติมหาอำนาจ "สหรัฐอเมริกา-จีน" ช่วงชิงเป็นตัวกลางหย่าศึกไทย-เขมร
นายกฯ ทุบโต๊ะ! ประเทศมหาอำนาจกดดันไทยหยุดยิงไม่ได้ ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนชนจีน ได้คุยโทรศัพท์กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
'หลิว จงอี้' พบกองทัพบก จีนชี้รัฐบาลกัมพูชาเอี่ยวขบวนการ 'สแกมเมอร์' หลายมิติ
หลิว จงอี้ ร่วมหารือกองทัพบก ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไซเบอร์สแกม เผยรัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ
'ลุงสุทิน' ยก 'ทูตพิเศษจีน' คือของจริงที่หยุดลมหายใจเขมรได้ ส่วน 'อันวาร์' คนเดินสารให้สหรัฐฯ จบเห่แล้ว
ตามที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า ทูตพิเศษด้านกิจการเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศจีนจะเดินทางไปกัมพูชาและไทยอีกครั้งในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ เพื่อไกล่เกลี่ยการปะทะบริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทย

