ธนาคารกลางสหรัฐหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว แต่ส่งสัญญาณเข้มงวดมากขึ้นในอนาคต

ธนาคารกลางสหรัฐเห็นชอบหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงสูงอยู่ก็ตาม แต่มีแนวโน้มว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งก่อนสิ้นปีนี้

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ แถลงข่าวหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ที่ธนาคารกลางสหรัฐในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน (Photo by Mandel NGAN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2566 กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐลงมติหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อลดแรงกดดันทางเศรษฐกิจ แม้อัตราเงินเฟ้อจะยังคงสูงกว่าระดับเป้าหมายก็ตาม

"การหยุดปรับขึ้นดอกเบี้ยจะช่วยให้เศรษฐกิจมีเวลาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยในการปรับตัว เพื่อให้ก้าวไปข้างหน้าได้มั่นคงมากขึ้น" เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการแถลงข่าวหลังประชุมคณะกรรมการฯ

การประกาศหยุดการขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงตัวอยู่ในช่วง 5.0% – 5.25% หลังถูกปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 10 ครั้งติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565

แม้ว่าเฟดจะดำเนินมาตรการคุมเข้มทางการเงินอย่างแข็งกร้าว แต่อัตราเงินเฟ้อประจำปียังคงสูงกว่าเป้าหมายระยะยาวที่ตั้งไว้ที่ 2% ขณะที่อัตราการว่างงานใกล้แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

"การกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้คงที่จะทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงินฯมีเวลาประเมินข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งผลกระทบในทางปฏิบัติต่อนโยบายการเงิน" ธนาคารกลางสหรัฐระบุในแถลงการณ์

ถึงแม้ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ธนาคารกลางสหรัฐก็ส่งสัญญาณล่วงหน้าว่าจะเพิ่มนโยบายคุมเข้มทางการเงินให้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มประมาณการค่ามัธยฐานสำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาตรฐานของเฟด ณ สิ้นปีนี้ ขึ้นอีกครึ่งจุด

ปัจจุบันเศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณของการชะลอตัว โดยเมื่อไม่นานมานี้เฟดคาดการณ์ว่าภาวะถดถอยเล็กน้อยจะเริ่มขึ้นในช่วงปลายปี แต่ตัวชี้วัดล่าสุดบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวต่อไปได้ในระดับปานกลาง

นอกจากนี้ เฟดยังเปิดเผยการคาดการณ์เศรษฐกิจฉบับปรับปรุงล่าสุด โดยเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีในปี 2566 เป็น 1.0% จาก 0.4% ในเดือนมีนาคม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิชัย' เซ็ง 'แบงก์ชาติ' ไม่ลดดอกเบี้ยถามสังคมแบบนี้ควรมีอิสระไหม!

'พิชัย' ผิดหวัง 'แบงก์ชาติ' ไม่ลดดอกเบี้ย ทั้งที่ภาพรวมเศรษฐกิจแย่ แต่กลับไม่เดือดร้อน ชี้ไม่ใช่หน้าที่แบงก์ชาติมากำหนดอัตราการเติบโต แนะอย่าอ้างว่าต้องอิสระบนความเดือนร้อนของประชาชน

นายกฯ ฝากบอกแบงก์ชาติเป็นองค์กรอิสระ แต่ควรคำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ปชช.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ขอให้มีการปรับลดดอกเบี้ย ได้พูดคุยเรื่องดังกล่าวกับนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ หรือยัง ว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายดนุชา แต่ตนทราบมาก่อนแล้ว

'เศรษฐา' ย้ำลดดอกเบี้ย สลึงเดียวก็ช่วยแบ่งเบาภาระประชาชนได้ แต่แบงก์ชาติไม่ยอมลด

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ทั้งปี 2566 และแนวโน้มปี 2567ว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ขยายตัวเพียง 1.7% เร่งขึ้นจากการขยายตัว 1.4% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 และรวมทั้งปี เศรษฐกิจไทย ขยายตัวเพียง 1.9%

'อ.หริรักษ์' ป้องกนง.ขึ้นดอกเบี้ย เตือนนายกฯ ปลดผู้ว่าฯธปท.เกิดผลเสียมากกว่าผลดี

'อ.หริรักษ์' เชื่อกนง.ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต้องมองในภาพรวมแล้ว จะมีผลบวกมากต่อเศรษฐกิจมากกว่าลดอัตราดอกเบี้ย เตือนนายกฯคิดรอบคอบ ปลดผู้ว่าฯธปท.จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดเฟดคงดอกเบี้ยที่ 5.25-5.50%

เฟดมีแนวโน้มที่จะคงดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม FOMC ในวันที่ 19-20 ก.ย. 2566 เพื่อรอดูทิศทางเงินเฟ้อและตลาดแรงงานในระยะข้างหน้า ท่ามกลางเงินเฟ้อพื้นฐานที่ชะลอลงแม้จะยังอยู่ในระดับสูง