สหภาพยุโรปทยอยอพยพพลเมืองของตนออกจาก 'ไนเจอร์'

AFP

ภายหลังการรัฐประหารของกองทัพในไนเจอร์หนึ่งสัปดาห์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของฝรั่งเศสและอิตาลีประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า ตอนนี้ได้เริ่มอพยพพลเมืองของตนและชาวต่างชาติออกจากประเทศทางฝั่งแอฟริกาตะวันตกแล้ว

จากข้อมูลของแคเทอรีน โคลอนนา-รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของฝรั่งเศส ระบุว่า จำนวนคนที่ต้องอพยพออกจากเมืองหลวงนีอาเมของไนเจอร์มีทั้งสิ้น 260 คน ในจำนวนนั้นมีเด็กทารก 12 คน โดยที่เครื่องบินได้ลงจอดปลายทางที่ปารีส แต่ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ผู้ที่เดินทางออกจากไนเจอร์ด้วยเครื่องบินลำดังกล่าวประกอบไปด้วยพลเมืองชาติใดบ้าง

ส่วนเครื่องบินพิเศษอีกลำหนึ่งเดินทางออกจากไนเจอร์ถึงกรุงโรมตอนเช้าวันพุธ บนเที่ยวบินลำนี้มีผู้โดยสารทั้งหมด 87 คน เป็นชาวอิตาลี 36 คน ชาวอเมริกัน 21 คน ชาวบัลแกเรีย 4 คน และชาวออสเตรียอีก 2 คน นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า จะมีเครื่องบินลำที่สามบินไปรับผู้คนที่ต้องการอพยพออกจากไนเจอร์ ซึ่งฝรั่งเศสยื่นข้อเสนอว่า นอกจากพลเมืองของสหภาพยุโรปแล้ว จะยังเปิดรับพลเมืองนอกสหภาพยุโรปด้วย ตามรายงานพบว่ามีชาวฝรั่งเศสอาศัยอยู่ในไนเจอร์ราว 500-600 คน

ขณะนี้พรมแดนทางบกและทางอากาศระหว่างประเทศเพื่อนบ้านของไนเจอร์ทั้ง 5 ประเทศได้เปิดอีกครั้ง ทหารในกลุ่มรัฐประหารนายหนึ่งแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติไนเจอร์เมื่อวันอังคารว่า พรมแดนด้านที่ติดกับแอลจีเรีย, บูร์กินาฟาโซ, ลิเบีย, มาลี และชาด จะเปิดอีกครั้งนับ “ตั้งแต่วันนี้” หลังจากมีการสั่งปิดพรมแดนทางบกและทางอากาศทั้งหมดของประเทศในตอนเย็นของการรัฐประหาร

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพทำการรัฐประหารในไนเจอร์ และจับกุมประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด บาซูม ซึ่งดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2021 เมื่อปลายสัปดาห์ นายพลอับดูราฮามาน ติอานี-หัวหน้าหน่วยอารักขาประธานาธิบดีคนก่อน ได้ประกาศแต่งตั้งตนเองเป็นผู้ปกครองรัฐคนใหม่ นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมาไนเจอร์นับเป็นประเทศที่สามในโซนซาเฮล ถัดจากมาลี และบูร์กินาฟาโซ ที่ประสบกับเหตุการณ์รัฐประหาร

แอนโทนี บลิงเกน-รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าได้โทรศัพท์ติดต่อกับคณะรัฐประหารในบาซูม แจ้งว่าสหรัฐฯ ต่อต้านความพยายามที่จะล้มล้างรัฐธรรมนูญทุกรูปแบบ แต่จะสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และเคารพในหลักนิติธรรมและสิทธิมนุษยชน.  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มาตรการปรับราคาคาร์บอนข้ามพรมแดน (CBAM) ของสหภาพยุโรปที่จะเริ่มบังคับใช้เดือนหน้าอาจทำให้อุตสาหกรรมเหล็กของไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันได้ในเร็ว ๆ นี้

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 สหภาพยุโรปจะเริ่มจัดเก็บภาษีนำเข้าภายใต้มาตรการปรับราคาคาร์บอนข้ามพรมแดน (CBAM) ตามปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้า ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากกระบวนการผลิตของสินค้า[ EU [Source]] โดยในระยะแรกคาดว่า CBAM จะส่งผลกระทบต่อ 3.8% ของสินค้าส่งออกของไทยไปสหภาพยุโรปในปี 2569 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 28,000 ล้านบาท

'ชาญวิทย์' มาแล้ว! อยากให้อาเซียนยกระดับข้ามแดนเหมือนกลุ่ม EU แต่ผู้มากบารมีคงไม่ยอม

ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ในยุโรป กลุ่ม EU แม้จะมีเขตแดนอยู่ เขาก้อข้ามไปข้ามมา

กมธ.ต่างประเทศฟุ้งเดินสายให้ข้อเท็จจริงนานาชาติตั้งแต่เปิดศึกชายแดน!

'ปธ.กมธ.ต่างประเทศ' วอนนานาประเทศตรวจสอบข้อเท็จจริงข่าวไทย-กัมพูชา หวั่นประชาคมโลกสับสน บอก ไทยต้องเข้มแข็งด้วยลำแข้งตัวเอง ชี้เป็นโอกาสได้ตัดสินใจครั้งใหญ่-เห็นมิตรในวันที่มีปัญหา